นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯได้ปรับปรุงกฎเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายหลักทรัพย์ให้สอดคล้องกับระบบซื้อขายใหม่ที่จะเปิดให้บริการในไตรมาส 1 ปี 2566 รวมถึงทบทวนกฎเกณฑ์ที่มีอยู่และปรับปรุงให้เหมาะสมกับสภาพการดำเนินธุรกิจในปัจจุบัน และให้มีความสอดคล้องกับแนวปฏิบัติที่เป็นสากลมากขึ้น
โดยสาระสำคัญของเกณฑ์ที่ปรับปรุง คือ ปรับเกณฑ์การกำหนดราคาเปิดและราคาปิด (Equilibrium Price) ซึ่งสอดคล้องกับระบบซื้อขายใหม่และแนวปฏิบัติของตลาดหลักทรัพย์ต่างประเทศ โดยราคาเปิดและราคาปิดอาจอยู่นอกกรอบราคาสูงสุด (Ceiling) และราคาต่ำสุด (Floor)ได้+1 ช่วงราคาจากเดิมที่กำหนดให้อยู่ในกรอบราคาที่ไม่เกินกว่า Ceiling & Floor
เพิ่มเครื่องหมายP (Pause) สำหรับกรณีที่มีการใช้มาตรการกำกับการซื้อขายกับหลักทรัพย์ที่มีสภาพการซื้อขายผิดไปจากสภาพปกติของตลาด แทนการใช้เครื่องหมาย SP (Suspension) กับกรณีดังกล่าวในปัจจุบัน เพื่อให้เกิดความชัดเจนแก่ผู้ลงทุน
เพิ่มประเภทคำสั่งที่มีอายุข้ามวัน (OvernightOrder) โดยผู้ลงทุนสามารถส่งคำสั่งประเภท Good till Cancel (GTC) หรือ Good till Date (GTD) ได้ ซึ่งคำสั่งที่ยังไม่ถูกจับคู่ จะคงค้างอยู่ในระบบซื้อขายของตลาดหลักทรัพย์ฯจนกว่าจะถูกยกเลิก หรือจนกว่าจะถึงวันที่ผู้ส่งคำสั่งกำหนด แต่ทั้งนี้จะไม่เกินกว่า 30 วัน
ปรับเกณฑ์ Ceiling &Floor ของหุ้น Foreignเป็นไม่เกิน 60% ของราคาอ้างอิงสำหรับทุกวิธีการซื้อขาย ด้วยปัจจุบันการซื้อขายหุ้น Foreign ด้วยวิธี Trade Report สำหรับธุรกรรมที่มีขนาดใหญ่(คือจำนวนหลักทรัพย์ตั้งแต่ 1 ล้านหน่วยขึ้นไป หรือมูลค่าการซื้อขายตั้งแต่ 3 ล้านบาทขึ้นไป)มีค่า Ceiling &Floor ที่ไม่เกิน+30% ของราคาอ้างอิงซึ่งไม่สอดคล้องกับการซื้อขายหุ้น Foreign ด้วยวิธีการซื้อขายอื่น
ยกเลิกการซื้อขายหน่วยย่อยของใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ (Derivatives Warrant: DW) หรือที่เรียกว่า “Odd Lot” ซึ่งเป็นการซื้อขาย DW ที่ต่ำกว่า 100 หน่วย เนื่องจากปัจจุบันมูลค่าการซื้อขาย DW ที่เป็นหน่วยย่อยมีจำนวนน้อยมาก
นอกจากนี้เพื่อรองรับกรณีฉุกเฉินหรือเพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดกับการซื้อขายโดยรวม ยังมีการเพิ่มหลักเกณฑ์ให้ตลาดหลักทรัพย์ฯอาจยกเลิกคำสั่งซื้อขายได้เมื่อเกิดเหตุระบบขัดข้องด้วย โดยกฎเกณฑ์ที่ปรับปรุงใหม่จะมีผลบังคับใช้พร้อมกับการเริ่มใช้ระบบซื้อขายใหม่ภายในไตรมาส 1 ปี 2566
นางสาวรินใจ ชาครพิพัฒน์ กรรมการผู้จัดการบริษัท ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ TFEX กล่าวว่า ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าฯได้ปรับปรุงกฎเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าให้สอดคล้องกับระบบซื้อขายใหม่ ที่จะเปิดให้บริการในไตรมาส 1 ปี 2566 รวมถึงทบทวนกฎเกณฑ์ที่มีอยู่และปรับปรุงให้เหมาะสมกับสภาพการดำเนินธุรกิจในปัจจุบัน และให้มีความสอดคล้องกับแนวปฏิบัติที่เป็นสากลมากขึ้น
โดยปรับเกณฑ์การกำหนดราคาเปิด (Equilibrium Price) ซึ่งจะสอดคล้องกับระบบซื้อขายใหม่และแนวปฏิบัติของตลาดต่างประเทศ โดยราคาเปิดอาจอยู่นอกกรอบราคาสูงสุด (Ceiling) และราคาต่ำสุด (Floor)ได้+1ช่วงราคาจากเดิมที่กำหนดให้อยู่ในกรอบราคาที่ไม่เกินกว่า Ceiling & Floor
ปรับปรุงประเภทคำสั่งซื้อขายซึ่งมีการปรับปรุงระยะเวลาคงค้างของคำสั่งซื้อขาย Good till Cancel (GTC) หรือ Good till Date (GTD) เป็น 255 วัน และเพิ่มคำสั่งประเภท Session State Order ซึ่งช่วยให้ผู้ลงทุนสามารถกำหนดให้คำสั่งซื้อขายมีผลเมื่อถึงช่วงเวลาซื้อขายที่กำหนด (Session Trigger) จากเดิมที่สามารถกำหนดเงื่อนไขให้คำสั่งซื้อขายมีผลด้วยราคา (Price Trigger) เท่านั้น
ปรับปรุงแนวทางหยุดการซื้อขาย หรือ Circuit Breaker สำหรับสินค้า Commodity Futures, Currency Futures และ Interest Rate Futures โดยปรับลดช่วงเวลาหยุดการซื้อขายลดลงเหลือ 2 นาที ทั้งนี้เพื่อให้ผู้ลงทุนรับทราบสภาพการณ์ความเปลี่ยนแปลงของการซื้อขายแต่ลดระยะเวลาหยุดการซื้อขายลงเพื่อให้ผู้ลงทุนสามารถปรับเปลี่ยนสถานะการลงทุนได้รวดเร็ว ตามสินค้าอ้างอิงที่ยังคงมีการซื้อขายในตลาดโลก
นอกจากนี้เพื่อรองรับกรณีฉุกเฉินหรือเพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดกับการซื้อขายโดยรวม ยังมีการเพิ่มหลักเกณฑ์ให้ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าฯ อาจยกเลิกคำสั่งซื้อขายได้เมื่อเกิดเหตุระบบขัดข้องด้วย โดยกฎเกณฑ์ที่ปรับปรุงใหม่จะมีผลบังคับใช้พร้อมกับการเริ่มใช้ระบบซื้อขายใหม่ภายในไตรมาส 1 ปี 2566
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี