ถ้าพูดถึงรถยนต์อเนกประสงค์ Audi Q5 55 TFSI e quattro S line Black Edition ยนตรกรรมสัญชาติเยอรมันรุ่นนี้ ยังคงเป็นอันดับต้นๆ ในเมืองไทย ที่สาวกอาวดี้ ชื่นชอบในสมรรถนะ และเทคโนโลยี Plug-in Hybrid รวมทั้ง สุดยอดระบบขับเคลื่อนสี่ล้ออัจฉริยะ (Quattro) ที่โดดเด่นเหนือใคร
Audi Q5 55 TFSI e quattro S line Black Edition ถูกออกแบบให้ดูสปอร์ตโฉบเฉี่ยว และล้ำสมัยมากขึ้น ด้วยชุดตกแต่งภายนอก Black Edition พร้อมชุดตกแต่ง S Line ทั้งภายนอกและภายใน ไฟหน้า แบบ LEDพร้อมไฟ Daytime สำหรับการขับขี่ตอนกลางวัน แบบ LED ระบบเปิด-ปิด ไฟหน้าอัตโนมัติ ราวหลังคาสีดำ และล้ออัลลอย ขนาด 20 นิ้ว ดิสก์เบรก 4 ล้อ พร้อมตกแต่งคาลิปเปอร์เบรกสีแดง
ขณะที่ภายในห้องโดยสารตกแต่งด้วยลาย Matte Brushed Dark Aluminium เบาะนั่งคู่หน้าแบบ Sports พร้อมสัญลักษณ์S line สามารถปรับแบบไฟฟ้า พร้อมระบบปรับดันหลัง พนักพิงของเบาะผู้โดยสารด้านหลังปรับเอนได้ พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นแบบสปอร์ตท้ายตัด พร้อมสัญลักษณ์ S line และแพทเดิ้ลชิพระบบปรับอากาศแยกอิสระ 3 โซน ช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง จอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ virtual cockpit ขนาด 12.3 นิ้วระบบ MMI Radio plus พร้อมหน้าจอสัมผัสMMI touch ขนาด 10.1 นิ้ว รองรับ AppleCarPlay/Android Auto ระบบเครื่องเสียงBang & Olufsen พร้อมระบบเสียง 3 มิติช่อง USB ด้านหน้า 2 ตำแหน่ง และด้านหลัง2 ตำแหน่ง ไฟเรืองแสงในห้องโดยสารปรับสีได้และกุญแจแบบ Comfort key พร้อมระบบเปิด-ปิด ฝาท้าย โดยไม่ต้องใช้มือ เป็นต้น
เครื่องยนต์เบนซิน Plug-in Hybrid แบบ 4 สูบ ขนาด 1,984 ซีซี พร้อมระบบจ่ายเชื้อเพลิงแบบฉีดตรง (Direct injection) เทอร์โบชาร์จกำลังสูงสุด 265 แรงม้าที่ 5,250-6,500รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 370 นิวตันเมตรที่1,600-4,500 รอบต่อนาที และกำลังจากมอเตอร์ไฟฟ้า 143 แรงม้า แรงบิดมอเตอร์ไฟฟ้า350 นิวตันเมตร เมื่อรวมกันแล้วทำให้มี พละกำลังสูงสุด 367 แรงม้า แรงบิดมากถึง 500 นิวตันเมตรขับเคลื่อนด้วยเกียร์อัตโนมัติ S tronic 7 สปีดอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 5.3 วินาที ความเร็วสูงสุด 239 กม./ชม.
นอกเหนือจากสมรรถนะที่เหนือชั้นแล้ว ยังมาพร้อมระบบความปลอดภัยที่ครบครัน อาทิ ถุงลมนิรภัยคู่หน้า 2 ตำแหน่ง และด้านข้างม่านถุงลมนิรภัยด้านข้าง ระบบเบรกมือไฟฟ้าและระบบล็อกเบรกขณะหยุดนิ่ง (Audi hold assit)เบรก ABS พร้อม EBD ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีTCS ระบบควบคุมการทรงตัว ESC ระบบแจ้งเตือนสภาพแวดล้อมด้านข้างและด้านท้ายรถ เมื่อจะเปิดประตูลงจากรถ ระบบแจ้งเตือนสภาพแวดล้อมด้านข้างและด้านท้ายรถ เมื่อเข้าเกียร์ถอยหลังและกล้องแสดงภาพด้านหลัง เป็นต้น
ช่วงการทดสอบ ผู้เขียนใช้เส้นทางกรุงเทพฯ-ลัดเลาะถนนเลียบคลองธัญบุรี มุ่งหน้าสู่ จ.นครนายก ด้วยความเป็นรถสไตล์อเนกประสงค์ ทัศนวิสัยโดยรวมดีมากพละกำลังเหลือเฟือ อัตราเร่งดี รวดเร็วทันใจทั้งแรงและประหยัดน้ำมัน ช่วงล่างเกาะถนนดี ขับขี่ผ่านเส้นทางขรุขระและกึ่งออฟโรด มั่นใจได้ด้วยระบบขับเคลื่อนสี่ล้ออัจฉริยะ (Quattro) บางช่วงติดไฟแดง หรือหยุดนิ่ง ก็มีระบบล็อกเบรกขณะหยุดนิ่ง (Audi hold assit) ช่วยให้การขับขี่สะดวกสบายมากขึ้นพอสัญญาณไฟเขียว หรือรถคันหน้าเคลื่อนตัวก็สามารถกดคันเร่งได้ทันที ในส่วนของการขับโหมด EV หรือ ไฟฟ้า เมื่อชารจ์ไฟเต็มสามารถขับได้ระยะทางสูงสุดกว่า 54 กม.โดยการชารจ์ไฟบ้านปกติ จะใช้เวลาประมาณ5 ชม.กว่าๆ ขึ้นอยู่กับไฟแต่ละบ้าน สำหรับการชาร์จด้วยเครื่อง wallbox ขนาด 7.4กิโลวัตต์ จะใช้เวลาประมาณ 2.30 ชม.นอกจากนี้ ผู้ขับขี่ยังสามารถเลือกฟังก์ชั่นที่จะให้ชารจ์ไฟในขณะที่รถกำลังใช้งานเหมือนเครื่องยนต์ไฮบริดทั่วไปได้อีกด้วย
โดยสรุปแล้ว Audi Q5 55 TFSI e quattro S line Black Edition ถือได้ว่าเป็นยนตรกรรม ที่น่าสนใจอีกหนึ่งรุ่น ด้วยสมรรถนะที่โดดเด่น ความหรูหรา และความสะดวกสบายที่มีให้ คงไม่แพงเกินไปสำหรับค่าตัว 3,950,000 บาท สำหรับรถยนต์สัญชาติเยอรมันคันนี้ ถ้าชอบต้องไปลองขับก่อนตัดสินใจ
นิติ โมราวรรณ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี