นายสาระ ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ MTL เปิดเผยว่า ปี 2566 นี้ถือเป็นปีสำคัญของบริษัทในโอกาสครบ 72 ปี จึงกำหนดทิศทางการดำเนินงานด้วยการตั้งเป้าในการเป็นองค์กรที่มุ่งเน้นการส่งมอบความสุขและรอยยิ้มให้แก่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ควบคู่ไปกับการเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืนในทุกมิติ ด้วยการดำเนินกลยุทธ์ “Happiness Reinvented” เพราะความสุขคือทุกอย่าง...ร่วมสร้างความสุขสไตล์คุณไปกับเมืองไทยประกันชีวิต
โดยประกาศปักธงเป็นอันดับหนึ่งในฐานะคู่คิดด้านชีวิตและสุขภาพที่ลูกค้าวางใจ (No.1 Most Trusted Life & Health Partner) ด้วยผลิตภัณฑ์ บริการ และนวัตกรรม ที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการของผู้บริโภค ครอบคลุมทุกเพศทุกวัย ทุกกลุ่มเป้าหมาย ทุกไลฟ์สไตล์ และทุกบทบาทของชีวิตที่ต้องรับผิดชอบ เพื่อสร้างการเข้าถึงได้ของประกันชีวิตให้กับทุกๆ คน
ทั้งนี้ บริษัทจะมุ่งดำเนินงานผ่าน 4 แกนสำคัญ ได้แก่ 1.บุคลากร (People) มุ่งมั่นในการพัฒนาบุคลากรในทุกๆ มิติ เช่น การพัฒนาทักษะรอบด้าน การปรับกระบวนการภายในให้มีความรวดเร็ว ความแม่นยำ และความสามารถในการรองรับการขยายตัวของธุรกิจ ,2.พาร์ทเนอร์ (Preferred Partner) บริษัทมีที่ปรึกษาประกันชีวิตและพาร์ทเนอร์ที่แข็งแกร่งจากหลากหลายธุรกิจ เพื่อให้เข้าถึงลูกค้าทุกกลุ่มได้อย่างแท้จริง พร้อมสร้างนวัตกรรมร่วมกับพาร์ทเนอร์อย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มศักยภาพในการบริการลูกค้าผ่านแอปพลิเคชั่นและเครื่องมือดิจิทัลที่ล้ำสมัย
3.ลูกค้า (Customers) บริษัทจะดำเนินงานโดยยึดหลักการมีลูกค้าเป็นศูนย์กลาง นำเสนอผลิตภัณฑ์และการบริการที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์และเงื่อนไขที่แตกต่างกันของทุกคนอย่างต่อเนื่อง ทั้งในด้านความคุ้มครองสุขภาพ ความคุ้มครองโรคร้ายแรง ผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตควบการลงทุน และแอปพลิเคชั่นด้านสุขภาพอย่าง MTL Fit ที่เข้าถึงลูกค้าในแบบที่มีความเฉพาะตัวมากยิ่งขึ้นและ 4.นอกเหนือจากลูกค้า (Beyond Our Customers) บริษัทยังเน้นการส่งต่อความสุขสู่สังคม ด้วยการร่วมมือกับบริษัทในเครือต่างๆ ทั้งการเป็นพันธมิตรกับสตาร์ทอัพด้าน Insurtech และ Healthtech การนำเสนอและเปรียบเทียบประกันภัยออนไลน์ และการพัฒนาเทคโนโลยี AI อย่างครบวงจร
ทั้งนี้ในปี 2566 บริษัทตั้งเป้าเบี้ยประกันสุขภาพและโรคร้ายแรงเติบโตมากกว่า 7% จากปี 2565 ที่เติบโตอยู่ที่ 7% จากเศรษฐกิจไทยที่ฟื้นตัวหลังโควิด-19 และการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภค จากเดิมที่ประกันต้องวิ่งเข้าหาคน เริ่มกลายมาเป็นคนเข้าหาประกันมากขึ้น ทำให้มีอีกหลายอย่างที่ยังพัฒนาได้ เช่น การใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยทั้งเรื่องสุขภาพและการขายประกัน ทำให้บริษัทยังมีโอกาสในการเติบโตได้อีก
นอกจากนี้ผลการดำเนินงานในปี 2565 บริษัทยังสามารถเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง โดยกำไรสุทธิเป็นไปตามเป้าที่ตั้งไว้ เบี้ยประกันภัยรับใหม่เติบโต 10% และมีสินทรัพย์ลงทุนรวมในบริษัทประมาณ 600,000 ล้านบาท ซึ่ง 90% ของสินทรัพย์ดังกล่าว บริษัทจะนำไปลงทุนต่อในสินทรัพย์อื่นๆ อาทิ อาคาร และสตาร์ทอัพ ส่วนธุรกิจในภูมิภาค CLMV (กัมพูชา ลาว เมียนมา เวียดนาม) ที่บริษัทได้ดำเนินกิจการร่วมค้า (JV) ก็เติบโตอย่างโดดเด่น
โดยในปี 2565 บริษัท MB Ageas Life ในเวียดนาม ถือหุ้น 10% เบี้ยประกันภัยรับใหม่เติบโต 11%, บริษัท ST-Muang Thai Insurance
ในลาว ถือหุ้น 22.5% เบี้ยประกันภัยรับใหม่เติบโตขึ้น 25%, บริษัท Dara Insurance ในกัมพูชา ถือหุ้น 25% เบี้ยประกันภัยรับใหม่เติบโต 64%,บริษัท Sovannaphum Life Assurance ในกัมพูชา ถือหุ้น 49% เบี้ยประกันภัยรับใหม่เติบโต 24% อีกทั้งในอนาคตถ้ามีโอกาสและจังหวะที่เหมาะสม บริษัทยังมอง JV ในประเทศอื่นๆ ด้วย
นายสาระกล่าวว่า ในด้านความแข็งแกร่งและด้านเสถียรภาพทางด้านการเงิน บริษัทได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ (Rating) จาก S&P Global Ratings อยู่ที่ระดับ BBB+ โดยแนวโน้มมีเสถียรภาพ และจาก Fitch Ratings อยู่ที่ระดับ A-มีแนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ และคงอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินภายในประเทศ(National IFS Rating) ที่ AAA(tha) มีแนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ ซึ่งถือเป็นอันดับเครดิตในระดับประเทศที่สูงที่สุด และยังมีความเพียงพอของเงินกองทุนอยู่ในระดับที่แข็งแกร่ง โดยสะท้อนจากอัตราส่วนความเพียงพอของเงินกองทุนสูงกว่า 300% ณ สิ้นปี 2565 ซึ่งสูงกว่าระดับเงินกองทุนที่ต้องดำรงตามเกณฑ์ที่ 140%
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี