นายสมบูรณ์ เอื้ออัชฌาสัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง (GUNKUL) เปิดเผยถึงภาพรวมธุรกิจปี 2566 เชื่อว่าจะเติบโตต่อเนื่องจากปี 2565 ที่มีกำไรสุทธิ 3,010.52 ล้านบาท รายได้รวม 9,515.10ล้านบาท เนื่องจากธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน ธุรกิจงานรับเหมาก่อสร้างและวางระบบทางด้านวิศวกรรม (EPC) ยังเป็นตัวขับเคลื่อน และยังคงตั้งเป้าหมายเพิ่มกำลังการผลิตแตะระดับ 1,000 เมกะวัตต์ ภายในปี 2566 ซึ่งบริษัท มีแผนเข้าร่วมประมูลโครงการพลังงานทดแทน ทั้งโครงการโซลาร์ฟาร์ม และพลังงานลมอย่างต่อเนื่อง
กลุ่มบริษัทมีความพร้อมทางด้านการเงิน และสัดส่วนหนี้สินต่อทุนที่สามารถรองรับการเติบโตและการลงทุนได้มากกว่า 40,000 ล้านบาท ภายใน 3 ปี เพื่อรองรับการเข้าร่วมการยื่นขอเป็นผู้ได้รับใบอนุญาตจำหน่ายไฟฟ้าในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ และโรงไฟฟ้าพลังงานลม ตามแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้าของประเทศ ขนาด 5 กิกะวัตต์
“กลุ่มบริษัท มีเป้าหมายสร้างการเติบโตของรายได้และกำไรในทุกกลุ่มธุรกิจที่ดำเนินการอยู่ ทั้งธุรกิจพลังงานทดแทน ธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับพลังงานและนวัตกรรมพลังงาน ธุรกิจผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์ไฟฟ้า ธุรกิจด้านการบริการก่อสร้างครบวงจร เพื่อรองรับการขยายตัวของธุรกิจพลังงานในอนาคตทำให้บริษัท มั่นใจว่า ผลการดำเนินงานของกลุ่มบริษัทจะเติบโตได้ตามแผน คือ ไม่ต่ำกว่า 15% ซึ่งเป็นการเติบโตต่อเนื่องกว่า 12 ปีของบริษัท นับตั้งแต่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ “นายสมบูรณ์กล่าวในที่สุด
สำหรับธุรกิจพลังงานบริษัท ได้ร่วมประมูลจัดหาไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในรูปแบบ Feed-in Tariff (FiT) ปี 2565-2573 ซึ่งได้กำหนดการรับซื้อไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน 3 ประเภท ได้แก่ ก๊าซชีวภาพ พลังงานลม พลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดินและพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดินร่วมกับระบบกักเก็บพลังงาน (Battery Energy Storage System : BESS)โดยบริษัทผ่านคุณสมบัติและเทคนิคขั้นต่ำของการประมูลรวมกว่า 20 โครงการ ส่งผลให้บริษัทมั่นใจว่าจะมี portfolio เมกะวัตต์รวม เติบโตตามเป้า 1,000 เมกะวัตต์ ที่บริษัท ได้ตั้งไว้ ซึ่งตามระเบียบคาดว่าจะประกาศรายชื่อผู้ยื่นขอผลิตไฟฟ้าที่ได้รับการคัดเลือกภายในวันที่ 5 เมษายน 2566 โดยบริษัทมีงบลงทุนที่เตรียมไว้กว่า 2.5 หมื่นล้านบาท
ส่วนความคืบหน้าในการ Spin-Offบริษัท กันกุล พาวเวอร์ ดีเวลลอปเม้นท์(GPD) ดำเนินธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง (EPC) ในการก่อสร้างโรงไฟฟ้าเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.)คาดว่าจะเข้าจดทะเบียนในไตรมาส 4/2566 ซึ่งประเมินว่างานรับเหมาก่อสร้างจะมีเพิ่มขึ้นมากในช่วง 5 ปีนี้ เพราะมีแผนจะเข้าไปรับงานภาคเอกชนมากขึ้น จากปัจุบันมีงานในมือที่รอรับรู้รายได้กว่า 5,000 ล้านบาท คาดว่าปีนี้จะมีการประมูลงานใหม่กว่า 10,000 ล้านบาท เพื่อมาสนับสนุนงานในมือให้เพิ่มมากขึ้น
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี