nn บมจ.ไทยออยล์...คาดการณ์แนวโน้มสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบรอบสัปดาห์นี้ (10–14 เม.ย. 2566)...โดยระบุว่า...ราคาน้ำมันดิบคาดการณ์ว่าทรงตัวในระดับสูง หลังกลุ่มโอเปกและรัสเซียประกาศลดกำลังการผลิตเพิ่มเติมกว่า 1.66 ล้านบาร์เรลต่อวัน ตั้งแต่เดือน พ.ค. 2566 เป็นต้นไป ส่งผลให้เกิดความกังวลเรื่องอุปทานตึงตัว รวมถึงปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ที่มีแนวโน้มปรับลดลง จากปริมาณความต้องการใช้ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม ราคายังได้รับแรงกดดันจากเศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มชะลอตัวลง และการส่งออกของอิรักที่มีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากสามารถบรรลุข้อตกลงในการกลับมาส่งออกน้ำมันดิบผ่านท่อ Kirkuk-Ceyhan ซึ่งมีกำลังขนส่งน้ำมันดิบทั้งสิ้นราว 450,000 บาร์เรลต่อวัน...ไทยออยล์...คาดราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในสัปดาห์นี้จะเคลื่อนไหวที่กรอบ 75-85 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล...ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวที่กรอบ 80-90 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล...
nn บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่บีซีพีจีเป็นผู้ถือหุ้นทางอ้อมของบริษัท มอนซูน วินด์ พาวเวอร์ จำกัด ซึ่งเป็นผู้ดำเนินการโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม “มอนซูน” ขนาด 600 เมกะวัตต์ที่แขวงเซกอง และแขวงอัตตะปือ ใน สปป. ลาว...ระบุว่า ขณะนี้โครงการฯ ได้ลงนามในสัญญาเงินกู้กับธนาคารพัฒนาเอเชีย (Asian Development Bank) หรือ เอดีบี และกลุ่มธนาคารที่ให้การสนับสนุนผ่านเอดีบีเรียบร้อยแล้ว พร้อมกันนี้สัญญาสัมปทาน (Concession Agreement) ในการใช้พื้นที่ดำเนินโครงการฯ ที่ได้ลงนามกับรัฐบาล สปป.ลาว และสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (Power Purchase Agreement) ของโครงการฯที่ได้ลงนามกับการไฟฟ้าแห่งสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม (EVN) ได้มีผลบังคับใช้สมบูรณ์แล้ว โดยโครงการฯ พร้อมรับเงินกู้งวดแรกตามสัญญาเงินกู้ และกำลังดำเนินการก่อสร้างโรงไฟฟ้าตามแผนงานที่กำหนด ซึ่งบริษัทฯ มั่นใจว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จ และสามารถเปิดดำเนินการขายไฟฟ้าให้กับ EVN ได้ในปี 2568 ภายใต้สัญญาซื้อขายไฟฟ้าเป็นระยะเวลาทั้งสิ้น 25 ปี...โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม “มอนซูน” เป็นโรงไฟฟ้าพลังงานลมที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียในขณะนี้ และเป็นโรงไฟฟ้าพลังงานลมแห่งแรกที่มีการซื้อขายไฟฟ้าข้ามพรมแดน ระหว่าง สปป.ลาว และเวียดนาม ผ่านสายส่งขนาด 500 กิโลโวลต์...ถือเป็นโรงไฟฟ้าพลังงานสีเขียวที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สามารถลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ไม่น้อยกว่า 750,000 ตันคาร์บอนเทียบเท่าต่อปี...
nn กระทรวงพลังงาน ได้หารือร่วมกับกระทรวงการคลัง...เพื่อหาแนวทางการปรับลดค่าไฟฟ้ารอบเดือนพฤษภาคม-สิงหาคม...เพื่อเหลือกลุ่มเปราะบางผู้ใช้ไฟฟ้าบ้านไม่เกิน 300 หน่วยต่อเดือน...ผลการหารือพบว่าทางกระทรวงคลังไม่สามารถจัดหางบกลางมาดำเนินการตามแนวคิดดังกล่าวได้ เนื่องจากมีงบประมาณไม่เพียงพอ...ทั้งนี้ต้องใช้งบสูงถึง 8,000 ล้านบาท โดยค่าไฟฟ้ารอบเดือน ม.ค.-เม.ย. ได้ใช้งบกลางไปอุดหนุนค่าไฟฟ้าบ้านกลุ่มนี้แล้ว 7,500 ล้านบาท ตามมติคณะกรรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ(กพช.) ซึ่งเป็นเงินจากงบกลาง 3,200 ล้านบาทและเงินสนับสนุนจากบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) อีก 4,300 ล้านบาท...ดังนั้น...ค่าไฟฟ้าผันแปร (เอฟที) รอบเดือน พ.ค.-ส.ค. ตามที่ได้ประกาศออกมาแล้วปรับขึ้น 5 สต.ต่อหน่วย และทำให้ค่าไฟฟ้าเฉลี่ยทั้งระบบอยู่ที่ 4.77 บาทต่อหน่วย...อย่างไรก็ตาม ล่าสุดทางคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.)ได้รับหนังสือแจ้งจาก การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เพื่อขอทบทวนระยะเวลาการคืนหนี้อุดหนุนค่าไฟฟ้าดังกล่าวจาก 2 ปี เป็น 2 ปี 4 เดือน หรือจากเดิมต้องชำระตั้งแต่เดือน ม.ค. 2566 สิ้นสุดในเดือน ธ.ค. 2567 ขยายเวลาเป็นสิ้นสุดเดือน เม.ย. 2568 หรือชำระคืน 6 งวด งวดละ 22,000 ล้านบาทจากเดิมกำหนดชำระ 5 งวด งวดละ 27,000 ล้านบาท...ทั้งนี้จะช่วยลดให้ค่าไฟฟ้ารอบใหม่ได้ เฉลี่ย 7 สต.ต่อหน่วย หรือค่าไฟเฉลี่ยลดจาก 4.77 บาทเหลือประมาณ 4.70 บาท/หน่วย...
nn หลังจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) ได้ประกาศรายชื่อผู้จัดหาไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในรูปแบบ Feed-in Tariff (FiT) ปี 2565-2573 สำหรับกลุ่มไม่มีต้นทุนเชื้อเพลิง พ.ศ. 2565 ซึ่งมีผู้ผ่านการพิจารณาคัดเลือก 175 ราย รวมปริมาณการเสนอขาย 4,852.26 เมกะวัตต์ จากกำหนดรับซื้อทั้งหมด 5,203 เมกะวัตต์...ผู้ผลิตไฟฟ้าหลายรายได้ทยอยแจ้งผลการได้คัดเลือกแล้ว...โดยพบว่า...บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) (GULF) ชนะการคัดเลือกมากที่สุดกว่า 28 โครงการ ทั้งพลังงานลม พลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดินร่วมกับระบบกักเก็บพลังงาน และพลังงานแสงอาทิตย์ คิดเป็นปริมาณเสนอขายไฟฟ้าเกือบ 2,000 เมกะวัตต์...บริษัทกันกุล เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) (GUNKUL) ได้ 17 โครงการ ปริมาณเสนอขายไฟฟ้า 832.4 เมกะวัตต์...บมจ.แอ๊บโซลูท คลีน เอ็นเนอร์จี้ (ACE)...ซึ่งบริษัทย่อยที่ ACE ถือหุ้นในสัดส่วน ร้อยละ 100 จำนวน 14 บริษัท ในโครงการพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดิน 18 โครงการ คิดเป็นกำลังการผลิตเสนอขาย (PPA) รวม 112.73 เมกะวัตต์ คาดจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ ภายในช่วงปี’67-70...บมจ. ซุปเปอร์เอนเนอร์ยี คอร์เปอเรชั่น (SUPER) จำนวน 19 โครงการ กำลังการผลิตติดตั้งรวม 359.487 เมกะวัตต์ คิดเป็นกำลังการผลิตตามสัญญาซื้อขายรวม 194.5 เมกะวัตต์...บมจ.บี.กริม เพาเวอร์ (BGRIM) บริษัทย่อยและบริษัทร่วมทุนจำนวน 9 บริษัท ได้รับคัดเลือกเป็นผู้ผลิตและขายไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนให้กับรัฐบาลตามประกาศคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน รวม 339.3 เมกะวัตต์ ทั้งพลังงานลมและแสงอาทิตย์...ด้าน บมจ.ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ (“WHAUP”) จำนวน 5 โครงการ คิดเป็นกำลังผลิตไฟฟ้าตามสัดส่วนการถือหุ้น 125.4 เมกะวัตต์...nn
กระบองเพชร
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี