นายกฯ ยินดีการใช้สิทธิประโยชน์การค้า ภายใต้กรอบความตกลง FTA ช่วงมกราคม 2566 การส่งออกไทยมีสัดส่วนอัตราการใช้สิทธิประโยชน์สูงกว่า 72% ยอดรวมถึง 5.4 พันล้านดอลลาร์
18 เมษายน 2566 นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยินดีที่การใช้สิทธิประโยชน์ จากการเจรจาความตกลงการค้าเสรี 12 ฉบับ ในช่วงเดือนมกราคม 2566 ผลักดันให้มูลค่าการใช้สิทธิประโยชน์จาก FTA เดือนมกราคม 2566 มูลค่าส่งออก 7.5 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ มูลค่าการใช้สิทธิฯ 5.4 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การใช้สิทธิประโยชน์ทางการค้าสำหรับการส่งออกภายใต้ความตกลงการค้าเสรี (FTA) จำนวน 12 ฉบับ ในเดือนมกราคม 2566 มีมูลค่าการค้ารวม 5,399.38 ล้านเหรียญสหรัฐ มีสัดส่วนการใช้สิทธิประโยชน์ กว่า 71.79% โดยแบ่งเป็นการใช้สิทธิประโยชน์ในกรอบความมือสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่
อันดับ 1. ความตกลงเขตการค้าเสรีอาเซียน (AFTA) มีสัดส่วนการใช้สิทธิประโยชน์ 68.74% มูลค่าการส่งออก 3,026.20 ล้านเหรียญสหรัฐฯ มูลค่าการใช้สิทธิ 2,081.46 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยเป็นสินค้าจำพวก ยานยนต์สำหรับขนส่งของ น้ำตาล รถยนต์ส่วนบุคคล (1,500-3,000 ซี.ซี.) และน้ำมันปิโตรเลียมและน้ำมันจากแร่บิทูมินัส
อันดับ 2. ความตกลงเขตการค้าเสรีอาเซียน-จีน (ACFTA) มีสัดส่วนการใช้สิทธิประโยชน์ 78.53% อาทิ มันสำปะหลัง ผลิตภัณฑ์ยางสังเคราะห์ผสมยางธรรมชาติ ทุเรียนสด ผลไม้สดอื่นๆ และสตาร์ชทำจากมันสำปะหลัง รวมมูลค่าการใช้สิทธิ 1,208.83 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
อันดับ 3. ความตกลงการค้าเสรีไทย-ออสเตรเลีย (TAFTA) มีสัดส่วนการใช้สิทธิประโยชน์ 72.97% ในสินค้าจำพวก รถยนต์และยานยนต์อื่นๆ รถยนต์ขนส่งบุคคลขนาด 2,500 ซี.ซี.ขึ้นไปและขนาด 1,000-1,500 ซี.ซี. ส่วนประกอบของเครื่องปรับอากาศ และปลาทูน่าปรุงแต่ง
อันดับ 4. ความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจไทย-ญี่ปุ่น (JTEPA) มีสัดส่วนการใช้สิทธิประโยชน์ 75.05% ในสินค้าจำพวก เนื้อไก่และเครื่องในไก่ปรุงแต่ง เนื้อไก่แช่เย็น เดกซ์ทริน และโมดิไฟด์สตาร์ช และกระสอบและถุงทำด้วยพลาสติก รวมมูลค่าการใช้สิทธิ 487.12 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
อันดับ 5 ความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-อินเดีย (AIFTA) มีสัดส่วนการใช้สิทธิฯ 70.65% โดยสินค้าสำคัญที่มีมูลค่าสูง และ สารประกอบออร์แกโนอินออร์แกนิกอื่นๆ ลวดทองแดง โพลิเมอร์ของไวนิลคลอไรด์หรือของฮาโลเจเนเต็ดโอลีฟิน ในลักษณะขั้นปฐมภูมิ รวมมูลค่าการใช้สิทธิ 400.37 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
นอกจากนี้ ยังมีกรอบความตกลง FTA เช่น ความตกลงเขตการค้าเสรีอาเซียน-เกาหลี (AKFTA) ความตกลงเขตการค้าเสรีอาเซียน-ออสเตรเลีย-นิวซีแลนด์ (AANZFTA) ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค(RCEP) ที่สร้างมูลค่าการส่งออกมหาศาลเช่นกัน
“นายกรัฐมนตรี ชื่นชมการทำงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่ได้ผลักดันส่งเสริมความร่วมมือทางก้านการค้า การใช้สิทธิประโยชน์ในการค้า ตามกรอบความร่วมมือที่รัฐบาลได้ผลักดันจนเกิดการลงนามไว้หลายฉบับ เพื่อเพิ่มมูลค่าการค้าการส่งออกให้กับผู้ประกอบการในประเทศไทย อีกทั้งเป็นการช่วยขยายตลาด ลดอุปสรรคทางการค้า เพิ่มศักยภาพในการแข่งขันของประเทศไทย ทั้งนี้ รัฐบาลมุ่งมั่นในการเจรจากรอบความตกลงฯ เพื่อประโยชน์แห่งชาติเป็นที่ตั้ง เชื่อมั่นว่าในภายหน้า จะมีกรอบความร่วมมือที่บรรลุวัตถุประสงค์จากการเจรจาที่ผ่านมาอีกมาก ทั้งในด้านการค้าและการลงทุน รวมทั้งความร่วมมือด้านอื่นที่ไทยมีศักยภาพ” นายอนุชา กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี