นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) เปิดเผยว่า จากการสำรวจลู่ทางและโอกาสการส่งออกสินค้าไทยในประเทศต่างๆ ล่าสุดได้รับข้อมูลจากนางสาวจันทนา โชติมุณี ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงมะนิลา ฟิลิปปินส์ ถึงโอกาสในการส่งออกสินค้าอาหารสัตว์เลี้ยงเข้าสู่ตลาดฟิลิปปินส์ เพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มต่อเนื่อง จากแนวโน้มการเติบโตของประชากรที่นิยมเลี้ยงสัตว์เลี้ยงเพิ่มขึ้น โดยมีข้อมูลยืนยันจากการสำรวจของบริษัทราคูเท็น (Rakuten) ที่พบว่าปี 2564 อัตราการเป็นเจ้าของสุนัขของฟิลิปปินส์สูงที่สุดในเอเชียที่ 67% และอัตราความเป็นเจ้าของแมวสูงเป็นอันดับ 2 ที่ 43%
ทูตพาณิชย์ยังได้รายงานข้อมูลเพิ่มเติมว่าGlobal.Agricultural.Information.Network ของหน่วยงาน Foreign Agricultural Service (FAS) ภายใต้กระทรวงเกษตรสหรัฐฯ (USDA) ได้ระบุความต้องการอาหารสัตว์เลี้ยง ของฟิลิปปินส์ ในปี 2566 คาดว่าจะมีมูลค่า 434 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 9% เนื่องจากจำนวนผู้เลี้ยงสัตว์เลี้ยงที่เพิ่มขึ้นและเทรนด์การเลี้ยงสัตว์เลี้ยงในบ้านที่ได้รับความนิยมมากขึ้น โดยเฉพาะช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ผ่านมา ส่งผลให้อัตราการเป็นเจ้าของสัตว์เลี้ยงและยอดจำหน่ายอาหารสัตว์เลี้ยงในฟิลิปปินส์เพิ่มขึ้นอย่างมาก
นอกจากนี้ ตามรายงานของ USDA-FAS ยังได้คาดการณ์การเติบโตของอาหารสัตว์เลี้ยงในแต่ละหมวดหมู่ว่าในปี 2566 ตลาดอาหารสุนัขแบบแห้ง (Dry Dog Food) จะเติบโต 9% และอาหารแมวแบบเปียก (Wet Cat Food) จะเติบโต 13% ขณะที่ผลิตภัณฑ์อาหารสำหรับนกปลา และสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดเล็ก จะเติบโตเพียงเล็กน้อย โดยตลาดผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์ดังกล่าว มีมูลค่าเฉลี่ยประมาณ 4 ล้านเหรียญสหรัฐต่อปี มาตั้งแต่ปี 2560 และ USDA-FAS ยังระบุว่าฟิลิปปินส์เป็นตลาดส่งออกใหญ่อันดับ 9 สำหรับผลิตภัณฑ์อาหารสุนัขและแมวของสหรัฐฯ และยังเป็นตลาดส่งออกสินค้าเกษตรใหญ่เป็นอันดับ 7 ของสหรัฐฯ โดยในปี 2564 พบว่า การส่งออกผลิตภัณฑ์อาหารสุนัขและแมวไปยังฟิลิปปินส์เติบโตขึ้นมาก และคาดว่าจะเติบโตต่อเนื่องในปี 2566 ส่วนใหญ่ผลิตภัณฑ์อาหารสุนัขและแมวนำเข้าของฟิลิปปินส์จะนำเข้าจากไทย สหรัฐฯ และยุโรปเป็นหลัก
USDA–FAS ยังระบุด้วยว่า เจ้าของสัตว์เลี้ยงพันธุ์แท้ในฟิลิปปินส์ส่วนใหญ่ยังคงนิยมชื่นชอบอาหารสัตว์เลี้ยงนำเข้ามากกว่าและยังพบว่าแบรนด์อาหารสัตว์เลี้ยงนำเข้า มีการเข้าร่วมกับแพลตฟอร์มค้าปลีกออนไลน์ รวมถึงเครือข่ายร้านจำหน่ายสัตว์เลี้ยง ซึ่งช่วยนำเสนอโอกาสในการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ของแบรนด์อาหารสัตว์เลี้ยงนำเข้าใหม่ๆ ได้อย่างต่อเนื่อง
นายภูสิต กล่าวว่าปัจจัยสนับสนุนสำคัญจากการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ดีอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ผู้บริโภคชาวฟิลิปปินส์มีกำลังการซื้อสัตว์มาเลี้ยงมากขึ้น ทำให้ตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงเติบโตไปด้วย และยังพบว่านิยมเลือกซื้ออาหาร
สัตว์เลี้ยงนำเข้ามากกว่าอาหารสัตว์เลี้ยงในท้องถิ่น เนื่องจากเชื่อมั่นในคุณภาพและมีความน่าเชื่อถือ
สูงกว่า ทำให้ฟิลิปปินส์เป็นหนึ่งในตลาดที่มีศักยภาพและเป็นโอกาสสำหรับผู้ประกอบการอาหารสัตว์เลี้ยงของไทย
“ปัจจุบันอาหารสัตว์ของไทย ได้รับความนิยมในลำดับต้นๆ เพราะได้รับการยอมรับเรื่องคุณภาพ มาตรฐาน โดยในปี 2565 ไทยส่งออกผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยงไปยังฟิลิปปินส์มูลค่า 4,238.49 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 52.19% และคาดว่า
จะโตต่อเนื่องในปี 2566 ผู้ประกอบการไทยควรใช้กลยุทธ์ผสมผสานทั้งการกำหนดราคาที่แข่งขันได้และการสร้างแบรนด์ โดยอาจร่วมกับคู่ค้าในฟิลิปปินส์จัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดเพื่อสร้างภาพลักษณ์ ความตระหนักรู้ในแบรนด์สินค้าให้เป็นที่จดจำ และต้องรักษาคุณภาพ พัฒนาผลิตภัณฑ์ให้น่าสนใจ ตรงตามที่ผู้บริโภคต้องการ จะทำให้สินค้าไทยแข่งขันได้ดีเป็นที่ต้องการมากขึ้น”นายภูสิตกล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี