นางสาวปฐมา พรประภา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฐิติกร หรือ TK เปิดเผยว่า แม้ช่วงปี 2565 ธุรกิจเช่าซื้อรถจักรยานยนต์และรถยนต์แปรผันตามตลาด รวมทั้งจากปัจจัยภายนอก ทั้งจากเศรษฐกิจของประเทศ และจากประกาศเรื่องให้ธุรกิจให้เช่าซื้อรถยนต์และรถจักรยานยนต์เป็นธุรกิจที่ควบคุมสัญญา พ.ศ. 2565 ซึ่งประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2565 โดยจะมีผลบังคับเมื่อพ้นกำหนด 90 วันนับแต่วันที่ออกประกาศ คือเริ่มมีผลบังคับใช้ในวันที่ 10 มกราคม 2566 แต่ธุรกิจเช่าซื้อต่างได้รับผลกระทบจากประกาศดังกล่าวตั้งแต่ไตรมาสสุดท้ายในปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม TK ยังคงดำเนินธุรกิจด้วยการยึดกลยุทธ์ทางธุรกิจสำคัญ ทั้งการปล่อยสินเชื่อและการบริการการเงินอย่างระมัดระวัง เน้นรักษาสถานะเงินสดของบริษัท สูงถึงประมาณ 2,000 ล้านบาท พร้อมเติบโตพอร์ตทันทีโดยไม่ต้องกู้เงินเพิ่มอีกอย่างน้อย 18 เดือน
“จากการดำเนินธุรกิจของ TK ในปี 2565 พอร์ตลูกหนี้เช่าซื้อรวมจากทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศมีรวม 4,158.6 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 5.3% จาก 3,949.4 ล้านบาท เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2564 ทำให้ผลประกอบการในปี2565 มีรายได้รวม 1,947.8 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 367.1 ล้านบาท สามารถจ่ายเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินธุรกิจในปีที่ผ่านมาให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราหุ้นละ 0.42 บาท รวมเป็นเงิน 210 ล้านบาท และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 18 พฤษภาคม 2566 โดยได้รับอนุมัติจัดสรรกำไรจากผู้ถือหุ้นในการประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2566” นางสาวปฐมา กล่าว
นายประพล พรประภา กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ฐิติกร หรือ TK กล่าวเกี่ยวกับภาพรวมยอดขายรถจักรยานยนต์ในประเทศว่า ในช่วง 3 เดือนแรกของปี 2566 ตลาดเติบโตประมาณ 13.9% ด้วยยอดขาย 512,210 คัน โดยคาดการณ์ว่ายอดขายรถจักรยานยนต์ทั้งปีจะถึง 1,750,000 คัน หรือหดตัวประมาณ 3% จากปี 2565 ที่มียอดขาย 1,801,902 คัน ในส่วนของหนึ้เสีย หรือ NPL ภาพรวมยังคงขยับขึ้น จากหนี้ครัวเรือนในประเทศที่อยู่ในระดับสูง ประกอบกับอัตราเงินเฟ้อที่สูง ส่งผลให้กำลังในการจ่ายค่างวดลดลง
ในปี 2566 ยังคงเน้นการดำเนินงานสร้างรายได้จากธุรกิจเช่าซื้อเป็นหลัก โดยจะเน้นขยายพอร์ตเช่าซื้อรถจักรยานยนต์เติบโตไปที่ตลาดต่างประเทศ ระหว่างที่รอความชัดเกี่ยวกับรายละเอียดเกณฑ์การกำกับธุรกิจการให้เช่าซื้อและการเช่าซื้อแบบลีสซิ่งรถยนต์และรถจักรยานยนต์จากธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) เพื่อจะได้ปรับแผนธุรกิจให้สอดรับกับเกณฑ์ความเสี่ยงผลตอบแทน และต้นทุนในการดำเนินการ
“ตลาดกัมพูชาหนี้ครัวเรือนไม่สูง ขณะที่รายได้ประชากรเพิ่มขึ้นส่งผลให้มีกำลังซื้อ ประเทศเปิดมากกว่า จึงไม่มีปัญหาเรื่องค่าเงินซึ่ง TK ได้เข้าไปดำเนินธุรกิจเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ตั้งแต่ปี 2554 ปัจจุบันมี 12 สาขา พอร์ตเช่าซื้อในกัมพูชาเติบโตอย่างต่อเนื่องในปี 2565 เติบโต 7.9% และปี 2566 เราตั้งเป้าพอร์ตสินเชื่อเช่าซื้อในกัมพูชาจะโต 20% จากพอร์ตสินเชื่อ 1,100 ล้านบาท สำหรับกิจการใน สปป. ลาวปีนี้อาจจะขยายตัวไม่มากจากปัญหาค่าเงินกีบอ่อนค่าลง นอกจากรายได้หลักจากธุรกิจเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ในประเทศรวมทั้งต่างประเทศแล้ว เรากำลังค่อยๆ สร้างธุรกิจอื่นๆ ที่เป็นธุรกิจใหม่ทั้งธุรกิจนายหน้าประกันวินาศภัย สินเชื่อจำนำเบียนรถ และบริการสินเชื่อส่วนบุคคล”นายประพลกล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี