ช่วงนี้มีกระแสความกังวลเรื่องราคาน้ำมันดีเซลจะถูกปรับขึ้นไปรวดเดียว 5 บาทต่อลิตรหากไม่ได้ต่อมาตรการลดภาษีสรรพสามิตดีเซลซึ่งมีเงื่อนเวลาถึง 20 ก.ค.2566 เพราะยังมีสุญญากาศของรัฐบาลชุดใหม่ที่จะเข้ามาบริหารประเทศ แต่อย่างไรก็ดี ปลัดกระทรวงพลังงานได้ออกมาสยบเรื่องวิตกดังกล่าว ยืนยันแม้ว่าจะไม่ได้ต่อมาตรการลดภาษีดีเซล กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงก็มีสภาพคล่องมากพอจะเข้าช่วยพยุงราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลให้อยู่ที่ราว 32 บาทต่อลิตรได้นาน 3-4 เดือนเลยทีเดียว ที่สำคัญยังเร็วเกินไปจะไปห่วงเพราะมาตรการยังคงอยู่อีกเกือบ 2 เดือน
ที่ผ่านมาเราจะเห็นได้ว่า บทบาทกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงหนุนดีเซลได้มีส่วนช่วยพยุงราคาขายปลีกดีเซลในประเทศในยามที่ราคาผันผวนโดยเฉพาะในปีที่แล้วที่เกิดสงครามรัสเซีย - ยูเครน ส่งผลต่อราคาน้ำมันพุ่งทะยานทะลุ 100 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล กองทุนน้ำมันฯ จึงต้องใช้เงินเข้าอุดหนุนราคาดีเซลในประเทศเพื่อลดผลกระทบค่าครองชีพประชาชน จนกระทั่งกองทุนติดลบบักโกรกมากกว่าแสนล้านบาท รัฐจึงต้องใช้กลไกร่วมกับมาตรการทางการคลังลดภาษีสรรพสามิตลงเพื่ออุ้มน้ำมันเศรษฐกิจนี้ไว้เรื่อยมาจนถึงขณะนี้
นอกเหนือจากบทบาทในการพยุงราคาน้ำมันแล้ว ยังมีอีกบทบาทของกองทุนน้ำมันฯ ตามมาตรา 55 พ.ร.บ.กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. 2562 คือ การลดการชดเชยราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่มีส่วนผสมของเชื้อเพลิงชีวภาพ โดยกฎหมายกำหนดให้ลดการอุดหนุนภายใน 24 กันยายน 2565 หรือสองปีนับจากกฎหมายมีผลบังคับใช้ หากจำเป็นสามารถเลื่อนได้อีก2 ครั้งครั้งละ 2 ปี ซึ่งก็ได้ขยายไปแล้วรอบแรกถึง 24 กันยายน 2567 เนื่องจากมีปัจจัยที่ทำให้สถานการณ์ยังไม่เอื้อต่อการลดการชดเชยดังกล่าว การขยายเวลาลดการชดเชยจะช่วยเป็นกลไกในการรักษาระดับค่าการตลาดของน้ำมันเชื้อเพลิงที่มีส่วนผสมของเชื้อเพลิงชีวภาพ โดยการสร้างส่วนต่างราคาขายปลีกจูงใจให้เกิดการใช้พลังงานชีวภาพ และยังเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรให้มีรายได้จากการขยายพืชผลทางเกษตรอีกด้วย
ในระหว่างขยายเวลาลดการชดเชยราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่มีส่วนผสมของเชื้อเพลิงชีวภาพนี้ สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง(สกนช.) จะติดตามข้อมูลจากกลุ่มอุตสาหกรรมผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพทั้งเอทานอล และไบโอดีเซลอย่างต่อเนื่อง พร้อมมอบให้สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยร่วมเก็บข้อมูลเพื่อศึกษาและหาแนวทางต่อยอดให้กับธุรกิจเชื้อเพลิงชีวภาพทั้งเอทานอล และไบโอดีเซลให้สามารถพัฒนาไปสู่ความหลากหลายในอุตสาหกรรมอื่นๆ นอกเหนือจากการใช้เป็นเชื้อเพลิง ซึ่งสำหรับเอทานอลผู้ประกอบการมีช่องทางต่อยอดผลิตภัณฑ์ได้หลากหลาย
ล่าสุดในการเข้าเยี่ยมชม บมจ.อุบล ไบโอ เอทานอล ผู้บริหารได้สะท้อนมุมมองว่า หากภาพรวมของอุตสาหกรรมเอทานอลยังไม่ปลดล็อกเรื่องตลาดเสรีให้สามารถขยายไปในอุตสาหกรรมอื่นๆ ได้ และก็ยังต้องการให้กองทุนน้ำมันฯอุดหนุนให้เกิดการใช้น้ำมัน E20 เป็นน้ำมันพื้นฐานและช่วยผลักดันการใช้งานเอทานอลเกรดเชื้อเพลิงไปสู่อุตสาหกรรมการบิน เพื่อเป็นน้ำมันเชื้อเพลิงสะอาด หนุนปริมาณการใช้เอทานอลในประเทศให้ใกล้เคียงกับกำลังการผลิตที่มีอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งที่สำคัญจะมีส่วนช่วยเหลือเกษตรกรอีกด้วย
ฟังความเห็นผู้ประกอบการแล้ว แนวทางที่กำหนดไว้ตามพ.ร.บ.กองทุนน้ำมันฯ ทยอยลดการชดเชยน้ำมันเชื้อเพลิงที่มีส่วนผสมของชีวภาพ มีทั้งความเป็นไปได้ และเป็นไปได้ยาก เพราะมีความเกี่ยวพันกับภาคเกษตรที่เป็นต้นทางผลิตวัตถุดิบผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพอย่างมีนัยสำคัญ และถ้ายกเลิกการชดเชยในภาคพลังงาน แต่ยังไม่สามารถปลดล็อกให้เอทานอลนำไปใช้เป็นเกรดอุตสาหกรรมอื่นๆ นอกเหนือจากเชื้อเพลิง และแอลกอฮอล์ ธุรกิจเอทานอลก็น่าจะได้รับผลกระทบวงกว้าง เมื่อถึงเงื่อนเวลาในปี 2567 ก็อาจจะต้องขยายต่อไปอีกเป็นรอบที่สอง เป็นแน่
กระบองเพชร
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี