นายสุรพล โอภาสเสถียร ผู้จัดการใหญ่บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด (ศูนย์ข้อมูลเครดิตบูโร) กล่าวว่า สถานการณ์ปัญหาหนี้เสียกลุ่มประเภทรถยนต์มีความน่าเป็นห่วงมากขึ้น โดยขณะนี้เห็นสัญญาณกลุ่มลูกหนี้กำลังจะกลายเป็นหนี้เสียหรือค้างชำระ 1-2 งวดมีลักษณะการผ่อนเลี้ยงหนี้ มูลหนี้ทั้งสิ้น6 แสนล้านบาท จากมูลหนี้ทั้งหมดของสินเชื่อในระบบ 13.2 ล้านล้านบาทของข้อมูลเครดิตบูโร โดยลูกหนี้ที่ต้องจับตาเป็นพิเศษ คือ หนี้กลุ่มรถยนต์ เพราะเห็นสัญญาณผ่อนเลี้ยงงวดมาตั้งแต่ปี 2563-2564 เนื่องจากปัญหาเศรษฐกิจชะลอตัว จึงมีปัญหาการผ่อนชำระต่อเนื่องมาจนถึงปี 2566 โดยส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคน Gen Y เพิ่งจบการศึกษาและเข้าสู่ระบบแรงงาน
ทั้งนี้จากข้อมูลของเครดิต บูโร พบว่า มีลูกหนี้รถยนต์ค้าผ่อนชำระค่างวดรถ 1-2 งวด ในไตรมาสแรกปีนี้ คิดเป็นมูลหนี้ประมาณ 1.9 แสนล้านบาทเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีมูลหนี้ 1.3 แสนล้านบาท ของมูลหนี้ทั้งสิน 2.6 ล้านล้านบาท ขณะที่ลูกหนี้กลุ่มสีแดง ค้างชำระเกิน 90 วัน หรือกลุ่มหนี้เสีย (NPL)มีมูลหนี้ 1.8 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น จากไตรมาสแรกปี 2565 มีมูลหนี้ 1.5 แสนล้านบาท
ดังนั้น ปัญหาหนี้รถยนต์ จะกลายเป็นโจทย์ใหญ่ของรัฐบาลใหม่ และธนาคารแห่งประเทศไทย ที่จะต้องหาแนวทางแก้ปัญหา โดยเฉพาะลูกหนี้ที่อยู่ในส่วนของนอนแบงก์ ที่ไม่ได้อยู่ในการกำกับดูแลของ ธปท. จึงเสนอตั้งศูนย์แก้ปัญหาหนี้ กระจายไปทั่วทุกภูมิภาค ขอย้ำว่าเมื่อสร้างหนี้แล้ว ต้องแก้ไข ทางออกดีที่สุดคือ การปรับโครงสร้างหนี้ ด้วยการเจรจากับแบงก์ เพื่อยืดเวลาผ่อนชำระ โดยเฉเพาะช่วงดอกเบี้ยขาขึ้น อาจมีภาระเพิ่ม ติดต่อ 1213 ทางด่วนแก้หนี้ของ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี