นายอมร แดงโชติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัทพรีไซซ คอร์ปอเรชั่น หรือ PCCคาดการณ์ว่าแนวโน้มผลประกอบการในไตรมาส 2/2566 เติบโตต่อเนื่อง บริษัทมีแผนเดินหน้าเข้าประมูลงานใหม่อย่างต่อเนื่องณ สิ้นไตรมาส 1/2566 งานในมือ(Backlog) 1.99 พันล้านบาท

สำหรับแผนธุรกิจในปี 2566 บริษัท ตั้งเป้ารายได้จะเติบโตจากปีก่อนที่ทำได้ 4,860 ล้านบาท เนื่องจากยังมีโอกาสการเติบโตตามอุตสาหกรรม อาทิ โครงการเปลี่ยนมิเตอร์จากจานหมุน ให้เป็น สมาร์ทมิเตอร์ ซึ่งเป็นโครงการของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) โดยกฟภ.มีแผนจะเปลี่ยนมิเตอร์ 18 ล้านเครื่อง ภายใน 7 ปี หรือระหว่างปี 2565-2571 คาดว่าปีนี้เปิดประมูลราว 2 ล้านเครื่อง บริษัทพร้อมเข้าร่วมประมูลดังกล่าว เพื่อสร้างการเติบโตของบริษัทอย่างแข็งแกร่ง

รวมถึงระบบไฟฟ้าในอนาคตที่ต้องมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องและสามารถตรวจสอบได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งการที่มีจำนวนรถไฟฟ้า (EV) และ สถานีชาร์จ (Charging Station) รวมถึงการลงทุนSolar cell จากบ้านเรือนเพิ่มมากขึ้นทำให้มีความจำเป็นที่ระบบไฟฟ้าย่อมจะต้องมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นตามไปด้วยซึ่งบริษัท ในฐานะผู้ดำเนินธุรกิจโซลูชั่นครบวงจร ของระบบ Smart Gridหรือ ระบบโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะ ที่นำเทคโนโลยีหลากหลายประเภทเข้ามาทำงานร่วมกัน โดยครอบคลุมตั้งแต่การประยุกต์ใช้งานเทคโนโลยีทั้งห่วงโซ่ของระบบไฟฟ้าตั้งแต่การผลิตไฟฟ้าการส่งไฟฟ้า การจำหน่ายไฟฟ้า ไปจนถึงภาคส่วนของผู้บริโภค รวมถึงการสื่อสารในการเก็บข้อมูลและทำการสั่งการควบคุม ถือเป็นโอกาสของบริษัทอีกมากในอนาคต

นอกจากนี้เรายังเห็นโอกาสการเติบโตจากการที่ Tesla มีแผนจะขยายสถานีชาร์จ Tesla Supercharger ซึ่งในไตรมาส 1/2566 บริษัท ได้รับงานจาก Tesla แล้วในการติดตั้งระบบ 2 สถานีชาร์จ

“เรายังคงเป้าหมายแผนธุรกิจ3 ปี (2566-2568) รายได้แตะ 6,000 ล้านบาท จากการลงทุนด้านสมาร์ทกริดที่เพิ่มขึ้นทั้งจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชนอย่างแน่นอน” นายอมร กล่าว