นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้ประชุมร่วมกันระหว่างผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์ พาณิชย์จังหวัด และทูตพาณิชย์ ซึ่งเกิดจากแนวคิดในการผลักดันให้ทูตพาณิชย์เป็นทัพหน้าร่วมกับพาณิชย์จังหวัด ทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด ด้วยการจัดระบบโครงสร้างภายในภูมิภาคและต่างประเทศ โดยพาณิชย์จังหวัดต้องขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้ตามบริบทเชิงพื้นที่ของจังหวัดและกลุ่มจังหวัดหรือ Area-based Agendaอาทิ นำจุดเด่นของกลุ่มจังหวัดมาผสมผสานเพื่อสร้างอัตลักษณ์ให้กับสินค้าและบริการ วางแผนพัฒนาเศรษฐกิจการค้าโดยใช้ความต้องการของตลาดเป็นตัวตั้งและค้นหาจุดแข็ง/ศักยภาพเชิงพื้นที่ของกลุ่มจังหวัด รวมทั้งยกระดับผู้ประกอบการในท้องถิ่นให้เกาะเกี่ยวในห่วงโซ่ไปสู่ตลาด ส่งเสริมการค้าระหว่างภาค และเชื่อมโยงกับทูตพาณิชย์ซึ่งเป็นด่านแรกที่จะพบผู้ค้ารายใหม่ไปยังต่างประเทศ โดยวางแผนงานการดำเนินงาน เป้าหมาย และประเมินความสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม

ในการส่งเสริมเศรษฐกิจเชิงพื้นที่พาณิชย์จังหวัดจะมีบทบาทส่งเสริมการใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์จากสินค้าเกษตรเฉพาะถิ่น นวัตกรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่น โดยเฉพาะสินค้าหัตถกรรม เกษตรอินทรีย์ และ GIรวมทั้งการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาของสินค้าเหล่านี้ ทั้งภายในประเทศและในตลาดเป้าหมาย ตลอดจนแสวงหาโอกาสทางการตลาดรองรับการปลูกพืชทางเลือกต่างๆ โดยมุ่งเน้นการค้าสินค้าเกษตรคุณภาพที่ผ่านการรับรอง สินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สร้างการรับรู้ต่อแบรนด์ภูมิภาค โดยวางแผนร่วมกันระหว่างภาคีตลอดห่วงโซ่มูลค่า

พาณิชย์จังหวัด และทูตพาณิชย์จะต้องมีบทบาทเป็นกลไกเชิงรุกในการสื่อสารทำความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่โดยวางระบบติดตามสถานการณ์สินค้าเกษตรที่จะออกสู่ตลาดตามฤดูกาล เพื่อเตรียมการตอบสนองข้อเรียกร้อง และรับมือกับปัญหาล่วงหน้าได้ รวมทั้งมุ่งเน้นการเชื่อมโยงเศรษฐกิจใน 3 ระดับ ได้แก่ ระดับท้องถิ่น ภาค และต่างประเทศ

ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้ทูตพาณิชย์และพาณิชย์จังหวัดค้นหา Influencer หรือผู้มีอิทธิพลในโลกออนไลน์เพื่อช่วยเพิ่มช่องทางให้คนรู้จักสินค้าไทยมากขึ้นด้วยการรีวิวสินค้า เพื่อโน้มน้าวให้คนสนใจซื้อสินค้าและบริการ และมอบหมายให้ทูตพาณิชย์ค้นหาร้าน Thai SELECT จำนวน 5 ร้านในแต่ละประเทศเพื่อเป็นที่จัดแสดงสินค้าไทยและสะท้อนภูมิปัญญาของไทย เช่น อาหาร เพลง มวยไทย เป็นต้น ผลักดันให้เป็น Soft Power