ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจ (REPORT ON BUSINESS SENTIMENT INDEX) ในเดือนตุลาคม 2566 โดยรวมลดลงมาอยู่ที่ระดับ 48.9 จาก 50.4 ในเดือนก่อนตามการลดลงในเกือบทุกองค์ประกอบ นำโดยด้านการผลิต ผลประกอบการ และต้นทุน ดัชนีความเชื่อมั่นในภาคการผลิตลดลงจากกลุ่มผลิตเคมี ปิโตรเลียม ยางและพลาสติก ที่ความเชื่อมั่นด้านผลประกอบการการผลิต และคำสั่งซื้อลดลงมาก คาดว่าจากอุปสงค์จีนที่ชะลอลงตามเศรษฐกิจจีนที่ฟื้นตัวช้าเช่นเดียวกับกลุ่มผลิตอาหารที่ความเชื่อมั่นปรับลดลงจากด้านการผลิตส่วนหนึ่งจากภาวะ เอลนีโญที่ทำให้วัตถุดิบทางการเกษตรมีปริมาณลดลง
ดัชนีความเชื่อมั่นในภาคที่มิใช่การผลิตลดลงต่ำกว่าระดับ 50 จากความเชื่อมั่นของกลุ่มการค้าที่ลดลงโดยเฉพาะกลุ่มค้าส่งที่ความเชื่อมั่นด้านปริมาณการค้าปรับลดลงและกลุ่มโรงแรมและร้านอาหารที่ความเชื่อมั่นด้านผลประกอบการ และการบริการปรับลดลง ส่วนหนึ่งอาจสะท้อนจากความกังวลต่อผลกระทบของเหตุยิงกลางห้างสรรพสินค้าช่วงต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา
ในอีก 3 เดือนข้างหน้าดัชนีความเชื่อมั่นโดยรวมลดลงมาอยู่ที่ระดับ 53.3 จาก 54.7 ในเดือนก่อน ตามการลดลงในเกือบทุกองค์ประกอบโดยความเชื่อมั่นภาคการผลิตลดลงในทุกหมวดธุรกิจ นำโดยกลุ่มผลิตเคมีปิโตรเลียม ยางและพลาสติก และผลิตยานยนต์ที่ความเชื่อมั่นลดลงในเกือบทุกด้าน ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นในภาคที่มิใช่การผลิตทรงตัวโดยความเชื่อมั่นของกลุ่มก่อสร้างลดลงจากด้านต้นทุน การจ้างงานและคำสั่งซื้อ ส่วนหนึ่งอาจเป็นผลจากงบประมาณปี 2567 ที่ล่าช้ากระทบต่อการประมูลโครงการก่อสร้างภาครัฐ ขณะที่ความเชื่อมั่นกลุ่ม การค้าปลีกปรับดีขึ้นจากปริมาณการค้า และผลประกอบการ ดัชนีความเชื่อมั่นโดยรวมและเกือบทุกหมวดธุรกิจอยู่เหนือระดับ 50 ต่อเนื่องสะท้อนความเชื่อมั่นว่าภาวะธุรกิจจะดีขึ้น
ดัชนีความเชื่อมั่นด้านการส่งออกโดยรวมและเกือบทุกหมวดในภาคการผลิตปรับเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน แต่ยังต่ำกว่าระดับ 50 ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นในอีก 3 เดือนข้างหน้าลดลงมาอยู่ใกล้เคียงกับระดับ 50 สะท้อนแนวโน้มการส่งออกที่ยังไม่แน่นอน ปัญหาต้นทุนการผลิตสูงยังคงเป็นอุปสรรคอันดับแรกในการดำเนินธุรกิจต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 26 และมีสัดส่วนใกล้เคียงเดือนก่อน ขณะที่ความกังวลด้านความต้องการและการแข่งขันที่รุนแรงขึ้นจากตลาดในประเทศเป็นข้อจำกัดที่ผู้ประกอบการกังวลมากขึ้น สำหรับอัตราเงินเฟ้อคาดการณ์ในอีก 12 เดือนข้างหน้าปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อยมาอยู่ที่ 3.1% จาก 3.0%ในเดือนก่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี