นายวิชัย กุลสมภพ ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สหพัฒนาอินเตอร์โฮลดิ้ง หรือ SPI เปิดเผยว่า เครือสหพัฒน์ โดยบริษัทสหพัฒนาอินเตอร์โฮลดิ้งได้ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางธุรกิจ กับ กลุ่มบริษัท Zhen Ding Tech ตั้งบริษัทร่วมทุนเพื่อดำเนินธุรกิจพัฒนาผลิตและจำหน่ายแผงวงจรพิมพ์ด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงหลายชั้น (Multi-layer PCB) โดยเริ่มก่อสร้างโรงงานในสวนอุตสาหกรรมเครือสหพัฒน์กบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี เมื่อเดือนธันวาคม 2566

“เครือสหพัฒน์ หวังว่า การขยายการลงทุนของกลุ่มบริษัท Zhen Ding Tech จะเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันให้ไทยมีสัดส่วนการผลิต PCB ในตลาดโลกเพิ่มขึ้น เป็นฐานการผลิต PCB ที่สำคัญในภูมิภาคอาเซียน สร้างโอกาสการจ้างงานที่มีคุณภาพ และเกิดการถ่ายทอดเทคโนโลยีขั้นสูงที่ใช้ในกระบวนการผลิตมายังไทย รวมทั้งสร้างโอกาสการดึงดูดผู้ประกอบการรายใหญ่ในห่วงโซ่อุปทานให้เข้ามาลงทุนในไทยได้เพิ่มเติมในอนาคต”

การร่วมทุนระหว่างเครือสหพัฒน์ และกลุ่มบริษัท Zhen Ding Tech ครั้งนี้ เครือสหพัฒน์คาดว่าจะมีมูลค่าการลงทุนเข้าสู่ประเทศไทยประมาณ 10,000 ล้านบาทในเฟสแรก และมากกว่า 50,000 ล้านบาท ภายในปี 2573 อุตสาหกรรม PCB เป็นอีกหนึ่งอุตสาหกรรมเป้าหมายที่รัฐบาลส่งเสริม และได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(BOI )

นายชาร์ล เสิ่น ประธานกลุ่มบริษัท Zhen Ding Tech โดย บริษัท Zhen Ding Technology Holding Limited กล่าวว่า กลุ่ม Zhen Ding Tech เล็งเห็นศักยภาพของไทย และมีความเชื่อมั่นที่ได้ร่วมมือทางธุรกิจกับเครือสหพัฒน์ พร้อมที่จะเข้ามาขยายการลงทุนสร้างความเติบโต ผลักดันธุรกิจให้เป็นไปตามเป้าหมาย นับเป็นโอกาสเติบโตที่ยิ่งใหญ่เพราะ PCB ถือเป็นส่วนประกอบสำคัญในสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ทุกชนิด

ปัจจุบันกลุ่มบริษัท Zhen Ding Tech เป็นผู้ดำเนินธุรกิจออกแบบ ค้นคว้าวิจัย พัฒนา ผลิตและจำหน่ายแผงวงจร (Printed Circuit Board, PCB) รายใหญ่อันดับ 1 ของโลก หรือคิดเป็นสัดส่วน 7%มีฐานการผลิตที่สำคัญ 6 แห่งตั้งอยู่ในเมืองเซิ่นเจิ้น เมืองหฺวายอาน เมืองฉินหวงเต่า เขตเถา-ยฺเหวียน และเกาสฺยง และเมืองเจนไน ทางตอนใต้ของอินเดีย คาดว่าภายในปี 2573 ส่วนแบ่งทางการตลาดของกลุ่มบริษัท Zhen Ding Tech จะเพิ่มขึ้นเท่ากับ 10% ของตลาดทั้งหมด

นายวิชัยกล่าวเพิ่มเติมว่า “เครือสหพัฒน์พร้อมร่วมมือกับพันธมิตรที่ตั้งใจเข้ามาลงทุนในไทย เรามีที่ดินเพียงพอครอบคลุม 4 ทำเลยุทธศาสตร์ได้แก่ 1.อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี 2.อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี 3.อำเภอเมืองลำพูน จังหวัดลำพูน 4.อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก การลงทุนครั้งนี้ใช้ที่ดินกว่า 300 ไร่เป็นการเปิดประตูเข้าสู่อุตสาหกรรมใหม่และเป็นอีกก้าวย่างที่สำคัญในการปูรากฐานสู่อนาคต ให้กับบริษัทในเครือสหพัฒน์เข้าสู่เศรษฐกิจยุคใหม่ ที่เน้นเทคโนโลยี สร้างงานที่พัฒนาทักษะด้านวิศวกรรมช่วยยกระดับขีดความสามาถในการแข่งขันให้กับอุตสาหกรรมในประเทศอีกด้วย”