นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ (คต.) เปิดเผยว่าการค้าชายแดนและการค้าผ่านแดน เดือนตุลาคม 2566 มีมูลค่า 139,695 ล้านบาท ลดลง 5.85% แบ่งเป็นการส่งออกมูลค่า 70,042 ล้านบาท ลดลง 14.55% และการนำเข้ามูลค่า 69,653 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.90% โดยไทยได้ดุลการค้า มูลค่า 389 ล้านบาท หากแยกเป็นการค้าชายแดนกับ 4 ประเทศ มาเลเซีย สปป.ลาว กัมพูชา และเมียนมามีมูลค่า 74,778 ล้านบาท ลดลง 14.50% แยกเป็นการส่งออกมูลค่า 46,223 ล้านบาท ลดลง 15.43% และนำเข้ามูลค่า 28,555 ล้านบาท ลดลง 12.95% ได้ดุลการค้า 17,667 ล้านบาท ส่วนการค้าผ่านแดนไปประเทศที่ 3 จีน สิงคโปร์ เวียดนาม และประเทศอื่นๆ มีมูลค่า 64,917 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.6% แบ่งเป็นการส่งออกมูลค่า 23,820 ล้านบาท ลดลง 12.80% และนำเข้ามูลค่า 41,098 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22.34% ขาดดุลการค้า 17,278 ล้านบาท
“การค้าชายแดนเดือนตุลาคม 2566 ที่หดตัว เนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจของประเทศเพื่อนบ้านยังมีความเปราะบาง ไม่ว่าจะเป็น สปป.ลาว ที่อัตราเงินเฟ้อสูงและค่าเงินกีบยังคงอ่อนค่าต่อเนื่อง สถานการณ์การสู้รบในเมียนมา ส่งผลต่อการส่งออกของไทยไปยังทั้ง 2 ประเทศ ซึ่งมากกว่า 80% เป็นการค้าชายแดน โดยการส่งออกชายแดนไป สปป.ลาว และเมียนมา หดตัว 14.5% และ 9.9% ตามลำดับ ขณะที่การส่งออกผ่านแดนไปจีนขยายตัว 9% ขยายตัวเป็นเดือนที่ 5 ติดต่อกัน สินค้าที่ขยายตัวสูง เช่นทุเรียนสด เพิ่ม 162.8% ไม้แปรรูป เพิ่ม 131.7% และยาง T.S.N.R. เพิ่ม 48.7%”
การค้าชายแดนและผ่านแดนช่วง 10 เดือนของปี 2566 (มกราคม-ตุลาคม) มีมูลค่า 1,451,068 ล้านบาท ลดลง 2.62% แบ่งเป็นการส่งออก มูลค่า 825,248 ล้านบาท ลดลง 3.26% นำเข้า มูลค่า 625,820 ล้านบาท ลดลง 1.75% ได้ดุลการค้า มูลค่า 199,427 ล้านบาท หากแยกเป็นการค้าชายแดน มีมูลค่า 776,182 ล้านบาท ลดลง 12.49% แบ่งเป็นการส่งออก มูลค่า 485,443 ล้านบาท ลดลง 10.57% นำเข้า มูลค่า 290,739 ล้านบาท ลดลง 15.53% ได้ดุลการค้า มูลค่า 194,703 ล้านบาท และการค้าผ่านแดน มูลค่า 674,886 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.92% แบ่งเป็นการส่งออก มูลค่า 339,805 ล้านบาท เพิ่มขึ้น9.53% นำเข้า มูลค่า 335,081 ล้านบาท เพิ่มขึ้น14.44% ได้ดุลการค้า 4,724 ล้านบาท
กรมจะเดินหน้าจัดกิจกรรมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อขับเคลื่อนการค้าชายแดน โดยมีแผนจะติดตามการยกระดับ การเปิดจุดผ่านแดน ซึ่งปัจจุบันมีจุดผ่านแดนฝั่งไทยเปิดแล้ว 86 แห่ง จากทั้งหมด 95 แห่ง ขณะที่ฝั่งประเทศเพื่อนบ้านเปิดแล้ว 73 แห่ง การผลักดันโครงการจับคู่กู้เงิน โดยร่วมมือกับธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย(EXIM Bank) และบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อย (บสย.) ปล่อยสินเชื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการส่งออก รวมถึงผู้ประกอบการค้าชายแดน ณ วันที่ 17 พฤศจิกายน 2566 มียื่นขอสินเชื่อ 1,710 ราย วงเงินรวม 6,631.7 ล้านบาท อนุมัติวงเงินแล้ว 1,658 ราย วงเงินรวม 6,458.3 ล้านบาท
นอกจากนี้จะสนับสนุนและให้ความช่วยเหลือประเทศเพื่อนบ้าน ในการออกหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า (C/O) เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ประกอบการและประสานงานการจัดตั้งศูนย์บริการการค้าชายแดนเบ็ดเสร็จจุดเดียว (OSS) ใน 7 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย ตาก ตราด สงขลา หนองคาย นครพนม และมุกดาหาร รวมทั้งเสนอแต่งตั้งคณะกรรมการส่งเสริมการค้าและการลงทุนชายแดนและผ่านแดน เพื่อขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ส่งเสริมการค้าและการลงทุนชายแดนและผ่านแดน ปี 2567–70 ซึ่งมีเป้าเพิ่มมูลค่าการค้าชายแดนและการค้าผ่านแดนเป็น 2 ล้านล้านบาทต่อปี ในปี 2570
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี