‘บิ๊ก NT’กางแผนธรกิจปี67 เน้นให้บริการมือถือ แบบ M2M ดันบริการเสริมให้ลูกค้าโทรศัพท์บ้านเพิ่มขึ้น หลังลูกค้าโทรฯบ้านปรับลดลงต่อเนื่อง รับรายได้ยังทรงๆ ขาดทุนสะสมถึงปี70 สาเหตุหลักจากธุรกิจมือถือสัญญาสัมปทาน 3 คลื่นหมดสัญญาปี68 เผยผลประกอบการงวด 10 เดือน กวาดรายได้แล้วกว่า 7 หมื่นล้านบาท รับหากไม่รวมค่าใช้จ่าย มีกำไร 2,000 ล้านบาท
17 ธันวาคม 2566 พันเอกสรรพชัยย์ หุวะนันทน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT เปิดเผยว่า การดำเนินธุรกิจ ปี 2566 ภายหลังการควบรวบกว่า 2 ปี และจะเข้าสู่ปีที่ 3 ในวันที่ 7 ม.ค.2567 ระหว่าง บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) หรือ TOT และ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) หรือ CAT โดยมีผลประกอบการ ณ สิ้นเดือน 31 ตุลาคม 2566 งวด 10 เดือน มีรายได้รวม 72,233 ล้านบาท แหล่งที่มาของรายได้มาจากการดำเนินงานของ 5 กลุ่มธุรกิจหลัก ประกอบด้วย
1. กลุ่มธุรกิจโครงสร้างพื้นฐาน 8,041 ล้านบาท คิดเป็น 10% ของรายได้รวม
2. กลุ่มธุรกิจระหว่างประเทศ (International) 1,414 ล้านบาท คิดเป็น2% ของรายได้รวม
3. กลุ่มธุรกิจสื่อสารไร้สาย (Fixed Line Broadband) 15,345 ล้านบาท คิดเป็น 22%
4.กลุ่มธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ ( Mobile) 42,091 ล้านบาท คิดเป็น 60% ของรายได้รวม (รายได้สัญญาสัมปทาน 40,000 ล้านบาท 50% รายได้จากบริการ My by NT 2,000 ลบ. 10%)
5.กลุ่มธุรกิจดิจิทัล 3,473 ล้านบาท คิดเป็น 4% ของรายได้รวม และบริการอื่นๆ ที่ไม่ใช่โทรคมนาคม และรายได้อื่นๆ 3,860 ล้านบาท คิดเป็น 2% ของรายได้รวม
“ตามแผนธุรกิจขาดทุน 4,000 ล้านบาท แต่ปัจจุบันสิ้นเดือน พ.ย.นี้น่าจะกลับมาเป็นบวก หากไม่รวมโครงการเกษียรณก่อนอายุเรามีกำไร 2,000 ล้านบาท แต่หากรวมจะขาดทุน 1,700 ล้านบาท รายได้ ทำดีกว่าแผน แผนติดลบ จริงๆ ปีนี้ 10 เดือน เรามีกำไร 1,000 กล่าวล้านบาท แต่เจอพวกคดีข้อพิพาทที่จะจ่าย ทรัพย์สินโครงสร้างพื้นฐาน 4,000 ล้านบาท จัสมิน 2,000 ล้านบาท รวมติดลบ 9,000 ล้านบาท ปกติเรากำไร ไม่รวมER ถ้าเป็นการบริหารปกติ น่าจะกำไร แต่พอมามีค่าใช้จ่ายที่มาโผล่มาตอนสิ้นปี ER ซึ่งเป้ารายได้ปีนี้ ตั้งไว้ที่ 98,355 ล้านบาท แค่คาดว่าสิ้นปีทำรายได้รวมต่ำกว่าแผน มีรายได้เพียง 80,000 ล้านบาท” พันเอกสรรพชัยย์ กล่าว
พันเอกสรรพชัยย์ กล่าวว่า อย่างไรก็ตามแผนปี 2567 NT ได้ทำแผนธุรกิจเสนอบอร์ด หากไม่รวมค่าใช้จ่ายโครงการเกษียณอายุก่อนกำหนด (Early Retirement ) NT ทำแผนปีหน้า จะมีกำไร 2,000 ล้านบาท มีคน ER จำนวน 1,200 คน มูลค่า 3,800 ล้านบาท หากรวมค่าใช้จ่าย ER ขาดทุน 1,700 ปัจจุบันโครงสร้างบริษัท มีพนักงานประมาณ 12,600 คน ลูกจ้างประมาณ 4,000 คน รวมทั้งสิ้น 16,600 คน โดยปี 2567 NT ตั้งเป้ารายได้รวม 89,000 ล้านบาท ซึ่งการเติบโตของรายได้รวมยังอยู่ระดับทรงตัว โดยแผนปีที่แล้วรายได้ 90,000 ล้านบาท ดังนั้น NT พยายามทำให้ได้ หากไม่สามารถทำได้ จำเป็นต้องลดค่าใช้จ่าย ขณะเดียวกันปีหน้างบการลงทุน จะถูกตัดไปประมาณ 1,000 ล้านบาท จากงบลงทุนรวม 5,000 ล้านบาท
สำหรับแผนธุรกิจปี 2567 ในกลุ่มธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ จะเน้นให้บริการรูปแบบ Machine To Machine (M2M) เทคโนโลยีที่ทำให้อุปกรณ์ต่างๆ สามารถส่งข้อมูลระหว่างกันผ่านการเชื่อมต่อระหว่างเครื่องและอุปกรณ์อินเทอร์เน็ต และการให้บริการ รัฐบาล รูปแบบ BTB ส่วน คลื่นความถี่ย่าน 26 กิกะเฮิรตซ์ (GHz) บริษัทจะโฟกัสเรื่องของสมาร์ทต่างๆ เนื่องจากปัจจุบันอุปกรณ์มาช้า คงต้องรอ ไตรมาส 2/2567 ขณะที่ธุรกิจ IDD การให้บริการจากข้อมูล ยังทรงๆ ไม่ได้หวือหวา ลูกค้าไม่โทรบ้าน ค่อยๆ ปรับลด ส่วนบริการ ฟิกไลน์ ตอนนี้ชุมสายโทรศัพท์ประจำที่ (ฟิกไลน์) ต่างๆ ดำเนินการปิดไปเป็นจำนวนมากแล้ว กว่า530 แห่ง ซึ่งประหยัดงบไปได้ เดือนละ 7 ล้านบาท ปัจจุบันมีลูกค้าที่ใช้ฟิกไลน์จำนวน 2ล้าน แต่ลูกค้า SME มีอัตราเติบโต ดังนั้นในปีหน้า จะมีออปชั่นพิเศษให้สำหรับกลุ่มลูกค้า SME เช่น เบอร์นี้มีโมบิลิตี้ได้ และให้บริการโทรข้ามโครงข่าย (โรมมิ่ง) ระหว่างกัน ไม่ต้องเสียค่าบริการรวมถึงมีประกันอัคคีภัยให้กับกลุ่มลูกค้าที่ยังใช้โทรศัพท์บ้าน NT อีกด้วย
ก่อนหน้านี้ NT ได้ทำการประมาณการผลประกอบการปี 2566 จะขาดทุนสุทธิ 4,117.69 ล้านบาท โดยผลประกอบการจะเป็นบวกในปี 2571-2572 หากไม่รวมค่าใช้จ่ายโครงการเกษียณอายุก่อนกำหนด (Early Retirement ) ปี 2566 ผลประกอบการจะกำไรสุทธิ 175 ล้านบาท และจะกลับมาขาดทุนในปี 2569-2570 โดยมีสาเหตุหลักมาจากการหายไปของรายได้ธุรกิจบริการค้าส่งความจุในคลื่นความถี่โทรศัพท์เคลื่อนที่
ทั้งนี้ประมาณการรายได้ปี 2566-2572 จากสมมติฐานได้รวมรายได้โครงการให้บริการบนคลื่นความถี่ 700 เมกะเฮิรตซ์ (MHz) และ 26 กิกะเฮิรตซ์ (GHz) ที่ได้รับจากการประมูลคลื่นความถี่ เมื่อปี 2563 และรวมรายได้ ธังท์ โมบาย (Trunked Mobile) โครงการสำคัญ เน็ตประชารัฐ,USO,Big rock ไว้แล้ว
ขณะเดียวกันในปี 2568 ใบอนุญาต (ไลเซ่นส์) คลื่นความถี่ 850,2100 และ 2300 MHz จะหมดอายุ NT จะไม่มีรายได้ในธุรกิจค่าส่งความจุในคลื่นความถี่ทั้ง 3 คลื่น ทำให้ประมาณการรายได้ภาพรวมคงเหลือเพียง 44,998.35 ล้านบาท เมื่อสิ้นปี 2569
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี