นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ยอดรถยนต์ทั้งหมดที่ผลิตในเดือนม.ค. 2567 มีทั้งสิ้น 142,102 คัน ลดลง 12.45% จาก ม.ค. 2566 เพราะผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศลดลง 33.62% จากการผลิตรถกระบะเพื่อจำหน่ายในประเทศลดลงถึง 50.89% ตามยอดขายที่ลดลง และผลิตรถยนต์นั่งเพื่อจำหน่ายในประเทศลดลง 14.68% จากรถยนต์ไฟฟ้านำเข้าที่มียอดจดทะเบียน ม.ค. 2567 จำนวน 13,314 คัน ในขณะที่การผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยมีเพียง 652 คัน แต่เพิ่มขึ้น 11.96% จาก ธ.ค. 2566 และ ผลิตเพื่อส่งออกได้ 95,110 คัน เท่ากับ 66.93% ของยอดการผลิตทั้งหมด เพิ่มขึ้น 3.91% จาก ม.ค. 2566 ขณะที่ผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศผลิตได้ 46,992 คัน เท่ากับ 33.07% ของยอดการผลิตทั้งหมด แต่ลดลง 33.62% จาก ม.ค. 2566

นายสุรพงษ์ กล่าวว่า ยอดขายรถยนต์ภายในประเทศ ม.ค. 2567 มีจำนวนทั้งสิ้น 54,814 คัน ลดลง 16.42% จาก ม.ค. 2566 เพราะรถกระบะมียอดขายแค่ 14,864 คัน ลดลงถึง 43.47% จากการเข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่อของสถาบันการเงินเพราะหนี้ครัวเรือนสูงมาก รถ PPV มียอดขายลดลง 43.86% เพราะยังไม่มีรุ่นใหม่ออกมา ประกอบกับมีรถ SUV แบบ Hybrid ออกใหม่ในราคาจับต้องได้มาเอาส่วนแบ่งตลาดไป และรถบรรทุกขายลดลง 32.01% จากงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 ล่าช้าออกไปหลายเดือน ทำให้การลงทุน การใช้จ่าย และการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลล่าช้าไปไปด้วย เศรษฐกิจของประเทศขยายตัวในระดับต่ำตั้งแต่ไตรมาสสี่ปี 2566

“ยอดขายที่ลดลงมาจากการเข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่อของสถาบันการเงินเพราะหนี้ครัวเรือนยังคงสูงเนื่องจากที่ผ่านมาผู้ปล่อยสินเชื่อยึดนโยบายแบบต้องรับผิดชอบ ผู้มาเช่าซื้อ หรือ กู้ประกอบกิจการจะต้องมีฐานะการเงิน มีรายได้ชำระได้ตลอดไป ซึ่งเกณฑ์นี้หลักฐานการเงินต้องมั่นคง ซึ่งตั้งแต่ปีที่ผ่านมาจนถึงขณะนี้มียอดปฏิเสธสินเชื่อแล้วประมาณ 50% โดยเฉพาะยอดขายรถกระบะที่ลดลง 30-50% ของปีที่แล้ว ทั้งนี้คาดหวังว่างบประมาณปี 2567 ที่จะออกมาในช่วงพ.ค. 2567 นี้จะทำให้เกิดการลงทุน รวมทั้งจากการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐจะดีขึ้นทำให้ประชาชนมีรายได้สามารถกู้ซื้อรถรวมถึงสินค้าอื่นๆ ได้มากขึ้นไปด้วย” นายสุรพงษ์กล่าว

นายสุรพงษ์ กล่าวว่า ส.อ.ท. ยังคงเป้าหมายการผลิตรถยนต์ปี 2567 อยู่ที่ 1,900,000 คันเพิ่มขึ้น3.17% จากปี 2566 แยกเป็นผลิตเพื่อการส่งออกที่ 1,150,000 คันล ดลง 0.52% จากปี 2566 การผลิตเพื่อการจำหน่ายในประเทศ 750,000 คันเพิ่มขึ้น 9.39%