นายสมพล ธนาดำรงศักดิ์ ประธาน เจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฟอร์จูน พาร์ท อินดัสตรี้ หรือ FPI เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานงวดปี 2566 บริษัทฯ มีรายได้ 2,513 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 374 ล้านบาท รับผลดีจากการขยายตลาดเพิ่มขึ้นไปยังแอฟริกา อเมริกาใต้ และทวีปยุโรป อีกทั้งบริษัทลูกที่ประเทศอินเดีย มีรายได้เพิ่มขึ้น โดยมี MSIL เป็นลูกค้ารายสำคัญ ทำให้มีกำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น และได้รับคำสั่งซื้อจาก Toyota Kirloskar Motor ประเทศอินเดียเข้ามา
พร้อมกันนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2567 ได้มีมติให้จ่ายเงินปันผลเป็นเงินสด ประจำปี 2566 เพิ่มอีกจำนวนหุ้นละ 0.04 บาท จากผลประกอบการของบริษัทฯ งวด 6 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม - 31 ธันวาคม 2566 รวมเป็นเงินปันผลจ่ายในครั้งนี้ทั้งสิ้น 60,521,197.36 ล้านบาท โดยกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผลวันที่ 3 พฤษภาคม 2567 และจ่ายเงินปันผลในวันที่ 15 พฤษภาคม 2567 ทั้งนี้ต้องได้รับอนุมัติจากผู้ถือหุ้นด้วย โดยเมื่อรวมกับเงินปันผลระหว่างกาลที่บริษัทได้จ่ายให้แก่ผู้ถือหุ้นแล้วจำนวน 0.06 บาท สำหรับงวด 6 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม - 30 มิถุนายน จะรวมเป็นเงินปันผลจ่ายในปี 2566 ทั้งสิ้น จำนวนหุ้นละ 0.10 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 151,302,993.40 บาท
สำหรับปี 2567 บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้เพิ่มขึ้นแตะระดับ 3,000 ล้านบาท เติบโต 10% จากปีก่อน เน้นกลยุทธ์บริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อช่วยผลักดัน
ให้มาร์จิ้นสูงขึ้น และประเมินว่าภาพรวมอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ในปีนี้จะเติบโตไปในทิศทางเดียวกันกับภาพรวมอุตสาหกรรมรถยนต์ที่คาดว่าปีนี้จะโต 3% เป็น 1.95 ล้านคัน
พร้อมกันนี้ ในปี 2567 บริษัทฯ ตั้งงบลงทุน 600 ล้านบาท ขยายธุรกิจในประเทศซาอุดีอาระเบีย อินเดีย และประเทศไทย โดยจะใช้เงินลงทุนในซาอุดีอาระเบีย 200-300 ล้านบาท สำหรับเป็นศูนย์กลางการส่งออกแห่งใหม่ในซาอุดีอาระเบีย ประกอบด้วยโรงงานผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ และศูนย์กระจายสินค้า เพิ่มการผลิตสินค้ารองรับตลาดตะวันออกกลาง และจะใช้เงินลงทุนในอินเดีย 100 ล้านบาท สำหรับการลงทุนโรงงานแม่พิมพ์ แม่พิมพ์ และเครื่องจักร ส่วนเงินลงทุนที่เหลือจะใช้ลงทุนในไทย สำหรับขยายโรงงานแม่พิมพ์ และสร้างออฟฟิศใหม่ อย่างไรก็ตาม ธุรกิจในอินเดียปี 2567 มีแนวโน้มสดใสล่าสุดบริษัทฯ ได้งานจากลูกค้าที่อินเดีย (TOYOTA India) มูลค่ากว่า 200 ล้านรูปี คิดเป็นเงินไทยประมาณ 100 ล้านบาท คาดว่าจะเริ่มดำเนินงานในไตรมาส 2/2567
“ในปี 2567 บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้3,000 ล้านบาท โต 10% จากปีก่อน รายได้หลักยังคงมาจากการทำธุรกิจในไทย ที่เติบโตตามภาพรวมอุตสาหกรรมยานยนต์ทั้งรถสันดาปและรถยนต์ไฟฟ้า ขณะเดียวกัน มีแนวโน้มว่าตลาดซาอุดีอาระเบียจะเติบโตแบบก้าวกระโดด ขณะที่ตลาดอินเดียจะเติบโตสูงกว่า 50% และมีโอกาสจะเติบโตเป็นเท่าตัวในลำดับถัดไป”นายสมพล กล่าว
FPI ยังอยู่ระหว่างการเจรจาร่วมลงทุน (JV) พันธมิตรธุรกิจแม่พิมพ์ในอินเดียและจีน เพื่อก่อสร้างโรงงานแห่งใหม่ เพื่อต่อยอดไปสู่ฐานการผลิตในประเทศเม็กซิโก เพื่อบุกตลาดทวีปอเมริกา ซึ่งเป็นฐานสำคัญในการทำตลาดในสหรัฐและแคนาดาโดยเฉพาะสินค้าประเภทแม่พิมพ์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี