นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่ากรมฯได้ออกประกาศสำนักงานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกรุงเทพมหานคร เรื่อง จะขีดชื่อห้างหุ้นส่วนบริษัทออกจากทะเบียน โดยพบว่า ปัจจุบันมีนิติบุคคล 8,221 ราย หรือ 0.9% ของนิติบุคคลที่ดำเนินกิจการอยู่กว่า 9 แสนราย ที่ไม่ส่งงบการเงินต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้าติดต่อกัน 3 ปี เป็นเหตุให้เชื่อว่าธุรกิจดังกล่าวไม่ได้ค้าขายหรือดำเนินธุรกิจแล้ว ดังนั้นจึงต้องเข้าสู่กระบวนการขีดชื่อตามกฎหมาย เพื่อปรับปรุงข้อมูลนิติบุคคลของประเทศให้มีความสมบูรณ์และเป็นปัจจุบัน โดยนิติบุคคลจำนวนดังกล่าวเป็นนิติบุคคลที่มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในกรุงเทพมหานคร สำหรับนิติบุคคลที่ตั้งอยู่ในต่างจังหวัด สำนักงานพาณิชย์จังหวัดจะเป็นหน่วยงานที่ดำเนินการตรวจสอบในแนวทางปฏิบัติเดียวกัน
อธิบดีกล่าวต่อว่า นับแต่วันที่ออกประกาศไป เมื่อวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2567 กรมได้ส่งจดหมายแจ้งเตือนไปยังนิติบุคคล โดยจดหมายเตือนดังกล่าวจะไม่มีลิงก์ ไม่มี QR Code ระบุในจดหมาย แต่หากนิติบุคคลมีข้อสงสัยสามารถติดต่อสอบถามได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ของกรม 02-5474439 เท่านั้นโดยกรมฯจะไม่มีการโทรติดต่อก่อน เพื่อความปลอดภัยและป้องกันความสับสนกับมิจฉาชีพ สำหรับนิติบุคคลรายใดประสงค์จะระงับการขีดชื่อดังกล่าว ต้องทำหนังสือชี้แจงมายังกรมฯ มิฉะนั้น หากพ้นกำหนดเวลา 90 วัน คือ พ้นวันที่ 29 พฤษภาคม 2567 นิติบุคคลจะถูกขีดชื่อออกจากทะเบียนเปลี่ยนสถานะเป็นร้าง และสิ้นสภาพนิติบุคคลทันที
นิติบุคคลที่ถูกเปลี่ยนเป็นสถานะร้างแล้ว ไม่สามารถทำนิติกรรมใดๆ ได้อีกต่อไปแต่ความรับผิดของหุ้นส่วนผู้จัดการ ผู้เป็นหุ้นส่วน กรรมการ ผู้จัดการ และผู้ถือหุ้นยังคงมีอยู่และพึงเรียกบังคับได้ อย่างไรก็ดีนิติบุคคลสามารถคืนสู่ทะเบียนได้ โดยการร้องขอต่อศาลภายใน 10 ปี นับแต่วันที่นายทะเบียนขีดชื่อออกจากทะเบียน กรมฯ ขอกำชับให้นิติบุคคลปฏิบัติตามกฎหมาย เพื่อร่วมสร้างธุรกิจไทยให้มีความน่าเชื่อถือและมีข้อมูลทางการเงินที่จะสร้างความเชื่อมั่นแก่นักลงทุนไทยและต่างประเทศ
สำหรับรายชื่อห้างหุ้นส่วนและบริษัทที่ขาดส่งงบการเงินต่อกรมฯติดต่อกัน 3 ปี และจะถูกขีดชื่อออกจากทะเบียนสามารถเข้าไปตรวจสอบได้ที่เว็บไซต์กรมพัฒนาธุรกิจการค้า www.dbd.go.th เลือกหัวข้อคู่มือทำธุรกิจ เลือกบริการข้อมูล เลือกจดทะเบียนธุรกิจ และเลือกประกาศถอนทะเบียนร้างและคืนสู่ทะเบียน
การศึกษาคู่ค้าหรือการจะร่วมลงทุนต้องศึกษาข้อมูลของคู่ค้าอย่างละเอียดเพื่อป้องกันความเสียหายจากการถูกหลอกลวง เนื่องจากปัจจุบันมิจฉาชีพมักจะแอบอ้างนำชื่อบริษัทที่ไม่ได้มีการจดทะเบียนจัดตั้งจริงหรือนิติบุคคลที่ถูกถอนร้างไปแล้ว มาสร้างความน่าเชื่อถือให้หลงเชื่อและสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจ ซึ่งประชาชนสามารถตรวจสอบข้อมูลหรือสถานะของนิติบุคคลด้วยตนเองได้ตลอด 24 ชั่วโมง ที่เว็บไซต์กรมฯเลือกหัวข้อบริการออนไลน์ และ หัวข้อ DBD Datawarehouse+ หรือแอปพลิเคชั่น DBD e-Service โดยไม่มีค่าใช้จ่าย
นางอรมนกล่าวอีกว่าได้รับเรื่องร้องเรียนจากผู้ประกอบธุรกิจว่ามีมิจฉาชีพแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้าให้ดำเนินการอัปเดตข้อมูลนิติบุคคลผ่านช่องทางออนไลน์และสื่อสังคมออนไลน์(โซเชียลมีเดีย) โดยมาทั้งในรูปแบบการโทรศัพท์และส่งเป็นหนังสือราชการ (ปลอม) ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ เพื่อให้ผู้ประกอบการเร่งดำเนินการอัปเดตข้อมูลนิติบุคคลให้เป็นปัจจุบัน โดยอ้างชื่อและโลโก้กรมฯทำให้ดูน่าเชื่อถือ รวมถึง การปลอมแปลงหน้าเว็บไซต์ให้มีรูปแบบคล้ายกับหน้าเว็บไซต์กรมฯ...ที่ผ่านมา กรมฯได้มีการแจ้งเตือนภัยอย่างต่อเนื่องให้ระวังการให้ข้อมูลหรือคลิกลิงก์ที่ไม่มีแหล่งที่มาที่ชัดเจน เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น
ล่าสุด มิจฉาชีพได้พัฒนากลโกงไปอีกขั้นโดยแอบอ้างว่ากรมฯได้จัดตั้ง “กองทะเบียนธุรกิจออนไลน์” ขึ้น เพื่อให้ผู้ประกอบการยืนยันตัวตนของนิติบุคคลให้เป็นปัจจุบัน โดยอ้างเหตุผลเพื่อความปลอดภัยของข้อมูลธุรกิจ ปรับปรุงรายชื่อนิติบุคคลที่ไม่ได้ประกอบกิจการโดยอ้างว่าจะลบชื่อนิติบุคคลนั้นออกจากระบบหากไม่อัปเดตข้อมูลโดยด่วน รวมทั้ง อ้างว่าเพื่อแก้ปัญหานิติบุคคลเป็นนอมินีให้นักลงทุนชาวต่างชาติซึ่งเป็นการประกอบธุรกิจที่ผิดกฎหมาย ทำให้ผู้ประกอบธุรกิจเกิดความหวาดกลัวและหลงเชื่อดำเนินการคลิกลิงก์เพื่ออัปเดตข้อมูลนิติบุคคลหรือข้อมูลส่วนบุคคลตามกลโกงของมิจฉาชีพ นอกจากนี้ มิจฉาชีพยังได้อ้างข้อกฎหมายที่มีบทลงโทษหนักเพื่อให้ภาคธุรกิจและประชาชนเกิดความหวาดกลัว และทำตามที่มิจฉาชีพหลอก รู้ตัวอีกที..เงินที่มีอยู่ในบัญชีถูกโอนออกไปจนหมดทำให้ทั้งภาคธุรกิจและประชาชนได้รับความเสียหายเป็นอันมาก
ขอย้ำว่า กรมฯไม่มีนโยบายทักหาภาคธุรกิจและประชาชนก่อน โดยเฉพาะผ่านช่องทางออนไลน์หรือโซเชียลมีเดีย จึงขอเตือนหากได้รับ
การติดต่อจากบุคคลในลักษณะดังกล่าว อย่าหลงเชื่อหรือกดดาวน์โหลดไฟล์เอกสารหรือคลิกลิงก์ที่แนบมา เนื่องจากเป็นการกระทำของ
มิจฉาชีพ หากต้องการทราบข้อมูลติดต่อได้ที่สายด่วน 1570 เว็บไซต์ www.dbd.go.th และFB : กรมพัฒนาธุรกิจการค้า DBD
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี