นางสาวสินีนุช โกกนุทาภรณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยอีสเทิร์น กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ หรือ TEGH ผู้ผลิตและจำหน่ายยางธรรมชาติ และน้ำมันปาล์มดิบรายใหญ่ในภาคตะวันออก และผู้นำด้านการผลิตพลังงานทดแทนและรับบริหารจัดการกากอินทรีย์แบบครบวงจร ที่นำพลังงานสะอาดมาใช้ในกระบวนการผลิต เปิดเผยว่า
แนวโน้มผลการดำเนินงานในปี 2567 มีทิศทางที่ดีต่อเนื่องจากปี 2566โดยเฉพาะธุรกิจผลิตและจำหน่ายยางแท่ง มีโอกาสที่ยอดขายจะทำสถิติสูงสุดใหม่ (All Time High) จากปริมาณขายที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 20% จากปีก่อนที่มียอดขายยางแท่ง 197,000 ตัน
ส่วนธุรกิจผลิตและจำหน่ายน้ำมันปาล์มดิบ มีแนวโน้มดีขึ้นเช่นเดียวกัน หลังจากปรับปรุงกระบวนการผลิต ซ่อมบำรุงเครื่องจักร ติดตั้งหม้อต้มไอน้ำ (Boiler) ลูกใหม่ ทำให้ประสิทธิภาพการผลิตดีขึ้น และจะติดตั้งหม้อนึ่งปาล์ม (Sterilizer) เพิ่มเติม ซึ่งจะทำให้กำลังการผลิตน้ำมันปาล์มดิบเพิ่มขึ้นอีก 50% ภายในปี 2569 ขณะที่ธุรกิจด้านพลังงานทดแทนและบริหารจัดการกากอินทรีย์ จะรับรู้รายได้จากการขยายกำลังการผลิตก๊าซชีวภาพเฟสที่ 1 ได้ภายในไตรมาสแรก และคาดว่าเริ่ม COD โครงการขยายกำลังการผลิตก๊าซชีวภาพเฟสที่ 2 ได้ในปีนี้ ขณะเดียวกัน ยังได้รับผลเชิงบวกจากการบังคับใช้กฎหมาย EUDR เนื่องจากบริษัทฯ มีความพร้อม และลูกค้าให้ความสนใจขอเจรจาทำสัญญาซื้อขายยางแท่งเกรด EUDR แล้วทั้งในโซนยุโรปและเอเชีย ซึ่งจะเริ่มส่งมอบในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2567 นี้ และคาดว่ามีโอกาสที่จะผลักดันผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ให้เติบโตก้าวกระโดดในอนาคต
“ผลการดำเนินงานปี 2567 มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องจากปีก่อน โดยเฉพาะยางแท่งที่ยอดขายมีโอกาสทำ ออล ไทม์ ไฮ โดยปัจจัยสนับสนุนมาจากภาพรวมเศรษฐกิจฟื้นตัว และอุตสาหกรรมยางล้อเติบโตในทิศทางที่ดี ทำให้ราคาขายยางแท่งปรับตัวดีขึ้น บวกกับความต้องการสินค้าจากยุโรป และจีน รวมถึงขยายตลาดไปยังประเทศอินเดียได้มากขึ้น ที่สำคัญคือได้รับผลเชิงบวกจากการบังคับใช้กฎหมาย EUDR ที่เราได้มีการเจรจาทำสัญญาซื้อขายยางแท่งเกรด EUDR แล้วทั้งในโซนยุโรปและเอเชีย ซึ่งจะเริ่มส่งมอบสินค้าในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2567 นี้ด้วย” นางสาวสินีนุช กล่าว
นอกจากแผนขยายธุรกิจให้เติบโตต่อเนื่องทั้งในประเทศและต่างประเทศแล้ว ในปี 2567 บริษัทฯ ยังคงมุ่งมั่นพัฒนาองค์กรให้เติบโต สร้างผลตอบแทนที่เหมาะสมให้กับนักลงทุน ควบคู่กับการดูแลชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อม พร้อมตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เพื่อก้าวสู่การเป็นองค์กรที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ภายในปี 2573
อนึ่ง ผลดำเนินงานในปี 2566 บริษัทฯ มีรายได้ 12,143 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 215 ล้านบาท โดยมีรายได้จากการขายสินค้าและการให้บริการ จำนวน 12,143 ล้านบาท เป็นรายได้จากธุรกิจผลิตและจำหน่ายยางธรรมชาติ จำนวน 10,093 ล้านบาท, ธุรกิจผลิตและจำหน่ายน้ำมันปาล์มดิบ จำนวน 1,907 ล้านบาท และธุรกิจพลังงานทดแทนและบริหารจัดการกากอินทรีย์ จำนวน 133 ล้านบาทและที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2567มีมติอนุมัติให้จ่ายเงินปันผลจากผลการดำเนินงานงวดวันที่ 1 มกราคม 2566 ถึง 31 ธันวาคม 2566 ในอัตราหุ้นละ 0.10 บาท โดยกำหนดวันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผล (Record Date) ในวันที่ 20 มีนาคม 2567 และจ่ายเงินปันผลวันที่ 24 พฤษภาคม 2567 ทั้งนี้จะต้องได้รับอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้น ซึ่งมีกำหนดจัดประชุมในวันที่ 26 เมษายน 2567
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี