ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) สรุปมูลค่าซื้อขายหลักทรัพย์สะสมตามกลุ่มนักลงทุนตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม-22 มีนาคม 2567 พบว่าสถาบันในประเทศขายสุทธิ 3,416.49 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ (โบรกเกอร์) ขายสุทธิ 2,402.39 ล้านบาท นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 69,212.79 ล้านบาท นักลงทุนในประเทศ(รายย่อย)ซื้อสุทธิ 75,031.66 ล้านบาท

ทั้งนี้เฉพาะวันที่ 1-22 มีนาคม 2567 พบว่าสถาบันในประเทศซื้อสุทธิ 4,445.46 ล้านบาทโบรกเกอร์ขายสุทธิ 1,077.10 ล้านบาทนักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 41,200.82 ล้านบาทรายย่อยซื้อสุทธิ 37,832.46 ล้านบาท

ขณะที่ความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นไทยในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา (18-22 มีนาคม 2567)ตลาดหุ้นไทยเผชิญแรงกดดันเกือบตลอดสัปดาห์ท่ามกลางแรงขายอย่างหนักจากนักลงทุนต่างชาติ หุ้นไทยปรับตัวลงในช่วงต้น-กลางสัปดาห์ในระหว่างรอติดตามผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)หุ้นที่เผชิญแรงเทขายหลักๆ เป็นหุ้นบิ๊กแคปในกลุ่มวัสดุก่อสร้างและกลุ่มพลังงานจากปัจจัยเฉพาะของแต่ละบริษัท แต่หุ้นไทยดีดตัวขึ้นช่วงสั้นๆ ในช่วงต่อมา สอดคล้องกับทิศทางของตลาดหุ้นส่วนใหญ่ในภูมิภาคหลังผลการประชุมเฟด ซึ่งมีสัญญาณบ่งชี้ว่า ยังมีโอกาสลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 3 ครั้งในปีนี้ตามมุมมองเดิมในช่วงการประชุม FOMC เดือนธันวาคม 2566

หุ้นไทยกลับมาเผชิญแรงขายอีกครั้งช่วงปลายสัปดาห์เพราะขาดปัจจัยใหม่ๆ เข้ามาหนุน ประกอบกับนักลงทุนต่างชาติกลับมามีสถานะขายสุทธิหุ้นไทยอีกครั้ง

วันทำการสุดท้ายของสัปดาห์ (22 มีนาคม 2567) ดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,381.04 จุด ลดลง 0.36% จากระดับปลายสัปดาห์ก่อน ขณะที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 45,817.76 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.50% จากสัปดาห์ก่อน ส่วนดัชนี mai ลดลง 0.83% มาปิดที่ระดับ 415.28 จุด บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทยประเมินตลาดหุ้นไทย สัปดาห์นี้ (25-29 มีนาคม 2567) ดัชนี SET (SET index) มีแนวรับที่ 1,370 และ 1,360 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,390 และ 1,400 จุด ตามลำดับ

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ตัวเลขส่งออกเดือนกุมภาพันธ์ของไทย และทิศทางเงินทุนต่างชาติส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯได้แก่ ยอดขายบ้านใหม่ ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน รายได้และรายจ่ายส่วนบุคคล ดัชนี PCE/Core PCE Price Index เดือนกุมภาพันธ์ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 4/66 รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์