นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลังและประธานกรรมการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่าที่ผ่านมาภาคการเกษตรได้รับผลกระทบ ทั้งจากปัญหา COVID-19 ความขัดแย้งทางการค้า สงคราม สภาพภูมิอากาศที่แปรปรวน ส่งผลโดยตรง ทั้งต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น ราคาสินค้าผันผวน และได้รับความเสียหายจากภัยธรรมชาติทำให้หนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPLs) ของ ธ.ก.ส. เคยสูงถึง 14.64% ในปีบัญชี 2565 แต่จากการดำเนินงานตามมาตรการของรัฐบาล และในส่วนของ ธ.ก.ส.ทำให้ผลการดำเนินงานปีบัญชี 2566(1 เมษายน 2566 – 31 มีนาคม 2567) สามารถลด NPLs ลงมาที่ 5.5% ผลจากการพัฒนาเครื่องมือและเทคโนโลยีการดูแลกลุ่มลูกค้าเป้าหมายอย่างต่อเนื่อง และคาดว่าจะควบคุม NPLs ให้อยู่ในระดับที่ต่ำกว่า 4% ตามแผนยุทธศาสตร์ของธนาคารในปีบัญชี 2567
ในส่วนของบทบาทหลักธ.ก.ส.ได้เติมเม็ดเงินสินเชื่อเพื่อเสริมสภาพคล่องและกระตุ้นการลงทุนภาคการเกษตรไปแล้ว 859,575 ล้านบาทมียอดสินเชื่อคงเหลือ 1.69 ล้านล้านบาท เติบโตจากต้นปีบัญชี 51,736 ล้านบาท หรือคิดเป็น 3.16% ยอดเงินฝากสะสม 1.89 ล้านล้านบาท เติบโตจากต้นปี 58,822 ล้านบาท หรือคิดเป็น 3.22% มีสินทรัพย์ 2.30 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.72% หนี้สินรวม 2.14 ล้านล้านบาท ส่วนของเจ้าของ 158,865 ล้านบาท อัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (BIS) 12.75% สูงกว่าเกณฑ์ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กำหนด
ด้านการขับเคลื่อนงานตามนโยบายรัฐบาล มาตรการพักชำระหนี้เกษตรกรรายย่อย ให้กับเกษตรกรที่มีหนี้รวมต้นเงินคงค้างทุกสัญญา ณ 30 กันยายน 2566 ไม่เกิน 300,000 บาทซึ่งมีผู้แจ้งความประสงค์เข้าร่วมมาตรการผ่าน Application ของ ธ.ก.ส. BAAC Mobile ถึง 1.84 ล้านราย คิดเป็น 92% ของจำนวนลูกค้าที่มีสิทธิ์เข้าร่วมมาตรการ โดยมีการลงนามบันทึกข้อตกลงต่อท้ายสัญญาเงินกู้แล้ว 1.39 ล้านราย หรือคิดเป็น 80% ของผู้แจ้งความประสงค์ร่วมมาตรการ และในจำนวนนี้แสดงความประสงค์เข้าหลักสูตรการฟื้นฟูศักยภาพในการประกอบอาชีพภายใต้แนวคิด “ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้” แล้ว 1.3 แสนราย ธนาคารจะดำเนินการฟื้นฟูอาชีพให้กับลูกค้าที่เข้าร่วมมาตรการพักชำระหนี้ให้ได้ 3 แสนรายภายในเดือนกันยายน 2567 มาตรการสินเชื่อเพื่อช่วยเหลือและรองรับหนี้นอกระบบ ผ่านสินเชื่อเพื่อชำระหนี้นอกระบบ วงเงินไม่เกิน 20,000 บาท จ่ายสินเชื่อไปแล้ว 545 ล้านบาท สินเชื่อกองทุนหมุนเวียนเพื่อการกู้ยืมเกษตรกรและผู้ยากจน 9,572 ล้านบาท
นอกจากนี้ยังให้คำปรึกษาด้านการจัดการหนี้ทั้งในและนอกระบบ เพื่อบรรเทาปัญหาและลดภาระการเป็นหนี้ในอนาคตผ่านโครงการหนี้นอกบอก ธ.ก.ส. แก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบให้กลับเข้ามาอยู่ในระบบของ ธ.ก.ส. ไปแล้ว 713,013 ราย เป็นเงินกว่า 60,389 ล้านบาท ส่วนในช่วงสถานการณ์ความขัดแย้งในต่างประเทศได้ออกมาตรการสินเชื่อคืนถิ่นแรงงานไทย เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรและบุคคลในครอบครัวที่ได้รับผลกระทบจากภาวะความไม่สงบในอิสราเอลเพื่อนำไปชำระหนี้ที่เกิดจากการกู้เงินไปทำงานอิสราเอลและลงทุนประกอบอาชีพใหม่
ส่วนของเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาการลักลอบนำเข้าหมูเถื่อน ธ.ก.ส. ได้ดำเนินมาตรการฟื้นฟูศักยภาพผู้เลี้ยงสุกรผ่านสินเชื่อสานฝันสร้างอาชีพ รายละไม่เกิน 100,000 บาท และสินเชื่อเพื่อส่งเสริมและพัฒนาระบบเกษตรพันธสัญญา เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการลงทุนและชำระหนี้สินเดิม รายละไม่เกิน20 ล้านบาท มีเกษตรกรที่ได้รับประโยชน์ 11,016 ราย วงเงินกว่า 2,782 ล้านบาท โครงการสินเชื่อแทนคุณ เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรลูกค้าที่อายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป โดยเปิดให้ทายาทเข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไขหนี้อย่างยั่งยืน จ่ายสินเชื่อไปแล้ว 3,433 ล้านบาท โดยมีทายาทเกษตรกรเข้าร่วมโครงการแล้วกว่า 3,687 คน
โครงการสินเชื่อเงินด่วนคนดี วงเงินรวม 10,000 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการอุปโภคบริโภคส่วนบุคคลให้กับสมาชิกอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) และอาสาสมัครสาธารณสุขกรุงเทพมหานคร ให้กู้รายละไม่เกิน 20,000 บาท อัตราดอกเบี้ย 0.67%ต่อเดือนหรือ 8% ต่อปี เริ่มปล่อยสินเชื่อภายในเดือนเมษายน 2567 เป็นต้นไป
ด้านการพัฒนา ธ.ก.ส. ได้สนับสนุนชุมชนในการดูแลสิ่งแวดล้อมผ่านโครงการธนาคารต้นไม้กว่า 6,800 ชุมชน จำนวนต้นไม้ 12.4 ล้านต้น การต่อยอดไปสู่การจำหน่ายคาร์บอนเครดิตภาคป่าไม้เต็มรูปแบบผ่านโครงการ BAAC Carbon Credit
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี