นายกมลภพ วีระพละ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่าด้วยคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ)มีมติให้ส่งเสริมการลงทุนกิจการที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อย ตามโครงการส่งเสริมการลงทุน “กิจการที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อย” สนับสนุนให้ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์สร้างที่อยู่อาศัยคุณภาพที่ดี ในระดับราคาขายไม่เกิน 1.5 ล้านบาท (รวมค่าที่ดิน)โดยจะได้รับสิทธิประโยชน์ในการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล เป็นระยะเวลา 3 ปี ในวงเงินไม่เกิน 100% ของเงินลงทุน
ธอส. ในฐานะสถาบันการเงินของรัฐ สังกัดกระทรวงการคลัง ที่มีพันธกิจ “ทำให้คนไทยมีบ้าน” ยังคงพร้อมเดินหน้าสนับสนุนหน่วยงานภาครัฐ ในการส่งเสริมให้คนไทยโดยเฉพาะผู้มีรายได้น้อย ให้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองได้ง่ายขึ้น ในโอกาสนี้ จึงร่วมมือกับบีโอไอในการเป็นหน่วยงานกลาง เชื่อมโยงข้อมูลด้านต่างๆ ระหว่างบีโอไอกับผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ทั่วประเทศ รวมถึง ธอส. จะพิจารณาคุณสมบัติของผู้ประกอบการอสังหาฯ แต่ละราย เพื่อออกหนังสือรับรอง ก่อนนำไปยื่นคำขอรับการส่งเสริมการลงทุนกับบีโอไอ ภายในสิ้นปี 2568 โดย ธอส. จะเปิดช่องทางให้ผู้ประกอบการอสังหาฯ แจ้งความประสงค์ขอรับการส่งเสริมการลงทุนในโครงการดังกล่าว ทาง www.ghbank.co.th ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2567 เป็นต้นไป
“ปัจจุบันประชาชนเลือกซื้อที่อยู่อาศัยในระดับราคาไม่เกิน 1.5 ล้านบาท ได้ยากขึ้น เนื่องจากต้นทุนในการก่อสร้าง รวมถึงปัจจัยด้านต่างๆ ที่อาจทำให้ผู้ประกอบการอสังหาฯ ไม่สามารถก่อสร้างที่อยู่อาศัยในระดับราคาดังกล่าวได้ ดังนั้นจึงเชื่อว่าการสนับสนุนด้วยการยกเว้นภาษีให้กับผู้ประกอบการอสังหาฯ ในครั้งนี้ จะเป็นแรงจูงใจที่จะทำให้มีที่อยู่อาศัยในระดับราคาไม่เกิน 1.5 ล้านบาท ในตลาดเพิ่มมากขึ้น ส่งผลดี
กับประชาชนผู้มีรายได้น้อยให้มีโอกาสในการมีบ้านมากขึ้น ซึ่ง ธอส. พร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือประชาชนตามนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงการคลังอย่างเต็มที่” นายกมลภพ กล่าว
นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการบีโอไอกล่าวว่าในการขอรับการส่งเสริมการลงทุน บีโอไอได้กำหนดเงื่อนไขว่าต้องจำหน่ายให้แก่บุคคลธรรมดาในราคาหน่วยละไม่เกิน 1.5 ล้านบาท เป็นเกณฑ์เดียวกันทุกพื้นที่ ทั้งประเภทที่อยู่อาศัยแนวราบ (บ้านแถวหรือบ้านเดี่ยว) หรือแนวสูง (อาคารชุด-คอนโดมิเนียม) โดยบ้านแถวหรือบ้านเดี่ยว ต้องมีพื้นที่ใช้สอยไม่น้อยกว่า 70 ตารางเมตร และกรณีก่อสร้างอาคารชุด ต้องมีพื้นที่ใช้สอยต่อหน่วยไม่น้อยกว่า 24 ตารางเมตร นอกจากนี้ จะต้องมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ได้มาตรฐาน เช่น กล้องวงจรปิดทั้งโครงการ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง พื้นที่ส่วนกลางและที่จอดรถในสัดส่วนที่เหมาะสม ฯลฯ โดยต้องได้รับความเห็นชอบจาก ธอส. ก่อนยื่นคำขอรับการส่งเสริม
“ที่อยู่อาศัยเป็นปัจจัยที่สำคัญต่อการดำรงชีพของประชาชน และเป็นค่าใช้จ่ายก้อนใหญ่ที่สุดส่วนหนึ่งของครอบครัว บีโอไอจึงเล็งเห็นถึงความสำคัญในการสนับสนุนให้ประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มผู้มีรายได้น้อย กลุ่มคนวัยทำงานที่กำลังเริ่มสร้างครอบครัว และกลุ่มผู้สูงอายุ สามารถมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองได้ โดยช่วยเพิ่มทางเลือกที่อยู่อาศัยในทำเลที่ตั้งที่มีสภาพแวดล้อมที่ดี และเป็นที่พักที่มีมาตรฐานในระดับราคาเหมาะสม อีกทั้งยังเป็นการกระตุ้นการลงทุนและเศรษฐกิจผ่านภาคอสังหาริมทรัพย์ซึ่งจะทำให้มีธุรกิจเกี่ยวเนื่องอื่นๆ ได้รับประโยชน์อีกเป็นจำนวนมาก” นายนฤตม์ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี