แบงก์ชาติชี้ลดดอกเบี้ยไม่ใช่เครื่องมือหลักแก้หนี้ ช่วยลดภาระหนี้ระยะสั้น แต่เกิดยอดคงค้างหนี้เพิ่มขึ้นในระยะยาว พร้อมจับตาการประชุมสมาคมธนาคารไทยเย็นนี้
24 เม.ย.67 ดร.ปิติ ดิษยทัต ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) กล่าวในการประชุมชี้แจงนักวิเคราะห์ (Monetary Policy Forum )ครั้งที่ 1/2567หลังคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติ 5 ต่อ 2 ให้คงอัตราดอเบี้ยนโยบาย ที่ร้อยละ 2.50 ต่อปี เมื่อ 10 เม.ย.2567 ที่ผ่านมา โดยระบุว่า ดอกเบี้ยไม่ใช่เครื่องมือหลักในการแก้ปัญหาหนี้เป็นเพียงการช่วยบรรเทาปัญหา ซึ่งในต่างประเทศ แม้จะมีการลดดอก แต่ก็ไม่สามารถแก้ปัญหาหนี้สูงได้ ปัจจัยหลักที่จะแก้หนี้ ต้องทำให้รายได้เพิ่มขึ้น จากแรงส่งที่ไม่เกี่ยวกับดอกเบี้ย เช่น การส่งออกที่ดีขึ้น การผลิตที่สูงขึ้น ทั้งนี้ กนง.พร้อมปรับดอกเบี้ย แต่ต้องดูว่าจะมีปัจจัยใหญ่ใดๆ เข้ามาหรือไม่ และผลกระทบมีความยั่งยืนขนาดไหน มีนัยยะต่อนโยบายเพียงพอจะปรับมั้ย 0.25-0.50 ไม่ได้มีผลต่อภาพใหญ่มากนัก
ส่วนกรณีที่สมาคมธนาคารไทย นัดประชุมกันเย็นนี้ หลังธนาคารตัวแทนสมาคมธนาคารไทย 4 ธนาคาร เข้าพบนายกรัฐมนตรีวานนี้ (23 เม.ย.) หากเป็นการมุ่งเน้นช่วยเหลือกลุ่มเปราะบาง ก็สอดคล้องกับแนวทางของแบงก์ชาติ ที่จะดูแลกลุ่มนี้ตั้งแต่หลังโควิด ขึ้นอยู่กับสมาคมธนาคารไทย จะมีมาตรการอย่างไรออกมา หากเป็นการช่วยกลุ่มเปราะบางถือเป็นเรื่องที่ดี เป็นเรื่องของกลไกตลาด
ขณะที่นาย สุรัช แทนบุญ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายนโยบายการเงิน ธปท. ระบุว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ย เพื่อช่วยแก้ปัญหาหนี้ ช่วยลดภาระหนี้ได้เพียงระยะสั้น แต่จะส่งผลให้เกิดยอดคงค้างหนี้เพิ่มขึ้นในระยะยาว และเกิดการก่อหนี้เพิ่มขึ้น ธนาคารแห่งประเทศไทย ส่งผลต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจในระยะยาว ทำให้ แบงก์ชาติ มองว่า อัตราดอกเบี้ยระดับปัจจุบัน ที่ 2.50% เหมาะสมที่จะช่วยเสริมสร้างเสถียรภาพเศรษฐกิจและรองรับความเสี่ยงในระยะยาว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี