นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย(FETCO) เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน (FETCO Investor Confidence
Index : ICI) ผลสำรวจในเดือนเมษายน 2567 (สำรวจระหว่างวันที่ 19-30 เมษายน 2567) พบว่าดัชนีในอีก 3 เดือนข้างหน้าอยู่ที่ระดับ 92.29 โดยยังคงอยู่ในเกณฑ์ “ทรงตัว” ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3
นักลงทุนมองว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ เป็นปัจจัยหนุนความเชื่อมั่นมากที่สุด รองลงมาคือการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศและการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว ขณะที่ปัจจัยที่ฉุดความเชื่อมั่นนักลงทุนมากที่สุด ได้แก่ สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างประเทศ รองลงมาคือสถานการณ์เงินเฟ้อ และผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน
ผลสำรวจโดยสรุป ดังนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นรวมทุกกลุ่มนักลงทุนในอีก 3 เดือนข้างหน้า (กรกฎาคม 2567) อยู่ในเกณฑ์ “ทรงตัว” (ช่วงค่าดัชนี 80-119) ที่ระดับ 92.29
ความเชื่อมั่นกลุ่มนักลงทุนบุคคล และกลุ่มบัญชีบริษัทหลักทรัพย์อยู่ในเกณฑ์ “ซบเซา” ความเชื่อมั่นกลุ่มนักลงทุนสถาบันอยู่ในเกณฑ์ “ร้อนแรง” ขณะที่กลุ่มนักลงทุนต่างประเทศอยู่ในเกณฑ์ “ทรงตัว”
หมวดธุรกิจที่น่าสนใจมากที่สุด คือ หมวดท่องเที่ยวและสันทนาการ (TOURISM)
หมวดธุรกิจที่ไม่น่าสนใจมากที่สุด คือ หมวดแฟชั่น (FASHION)
ปัจจัยหนุนที่มีอิทธิพลต่อตลาดหุ้นไทยมากที่สุด คือ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ
ปัจจัยฉุดที่มีอิทธิพลต่อตลาดหุ้นไทยมากที่สุด คือ สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างประเทศ
“ผลสำรวจ ณ เดือนเมษายน 2567 รายกลุ่มนักลงทุน พบว่า ความเชื่อมั่นกลุ่มนักลงทุนบุคคลปรับลด 28.9% มาอยู่ที่ระดับ 76.47 กลุ่มบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ปรับลด 31.9% มาอยู่ที่ระดับ 77.78 กลุ่มนักลงทุนสถาบันในประเทศปรับลด 13.1% มาอยู่ที่ระดับ 123.08 และกลุ่มนักลงทุนต่างประเทศทรงตัว อยู่ที่ระดับ 100.00”
ในช่วงต้นเดือนเมษายน 2567 SET Index แกว่งตัวอยู่ในกรอบแคบและมีมูลค่าซื้อขายเบาบางก่อนเข้าสู่ช่วงวันหยุดยาว ในช่วงกลางเดือน SET Index ปรับตัวขึ้นเหนือระดับ 1,400 จุด โดยได้แรงหนุนจากเงินทุนไหลเข้าจากต่างประเทศก่อนการประกาศผลประกอบการไตรมาส 1/2567 ก่อนจะปรับตัวลงแรงหลังเทศกาลสงกรานต์จากความกังวลต่อสถานการณ์ความขัดแย้งในอิสราเอลและอิหร่าน และผลประมาณการตัวเลข GDP สหรัฐฯ ไตรมาส 1 ปี 2567 ขยายตัวที่ 1.6% ซึ่งต่ำกว่าคาดการณ์ที่ 2.4% และเป็นการชะลอตัวที่ต่ำที่สุดในรอบ 2 ปี
โดย SET Index ณ สิ้นเดือนเมษายน 2567 ปิดที่ 1,367.95 ปรับตัวลดลง 0.7% จากเดือนก่อนหน้า ปริมาณซื้อขายเฉลี่ยต่อวันในเดือนเมษายน 2567 อยู่ที่ 45,435 ล้านบาท และนักลงทุนต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิกว่า 3,787 ล้านบาทโดยตั้งแต่ต้นปี นักลงทุนต่างชาติยังคงขายสุทธิกว่า 65,075 ล้านบาท
ปัจจัยต่างประเทศที่ต้องติดตาม ได้แก่ แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยทั่วโลกที่ยังทรงตัวอยู่ในระดับสูง อีกทั้งตัวเลขเงินเฟ้อในสหรัฐอเมริกายังอยู่ในระดับสูงซึ่งจะส่งผลต่อการตัดสินใจของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในการคงอัตราดอกเบี้ยต่อไป รวมถึงต้องจับตามองสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลางที่ยังมีความไม่แน่นอน ในส่วนของปัจจัยในประเทศที่น่าติดตาม ได้แก่ มาตรการภาครัฐในกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นเพื่อประคองเศรษฐกิจ ความชัดเจนของโครงการดิจิทัลวอลเล็ต และแนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในช่วงครึ่งหลังของปี 2567
ขณะที่ FETCO หั่นเป้าดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทย (SET Index) สิ้นปี 2567 มาที่ 1,537 จุด จากเดิม 1,590 จุด เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยค้างสูงนานกว่าคาด ส่งผลให้เศรษฐกิจโลกชะลอตัว และภาคการเงินโลกผันผวน อย่างไรก็ตามมองว่า SET ในครึ่งปีหลังมีโอกาสฟื้นตัว จากแรงหนุนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ภาครัฐเร่งเบิกจ่ายงบประมาณ ภาคการท่องเที่ยวคึกคัก พร้อมทั้งธนาคารกลางในประเทศต่างๆ เริ่มทยอยลดอัตราดอกเบี้ย
นายกอบศักดิ์กล่าวว่า เตรียมหารือคลังปรับเงื่อนไขระยะเวลาลงทุนของ กองทุนรวมเพื่อส่งเสริมการออมระยะยาวหรือ SSF สั้นลงใกล้เคียงกับกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF)หรือยกเลิก SSF นำ LTF กลับมาใช้แทน พร้อมมองโอกาสขอปรับเงื่อนไขระยะเวลาลงทุนกองทุน ThaiESG สั้นลงจาก 8 ปี เพื่อดึงดูดผู้ลงทุนให้สนใจมากขึ้น
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี