นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ เปิดเผยภายหลังพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจระหว่างกระทรวงพาณิชย์แห่งราชอาณาจักรไทยกับสำนักงานการค้าต่างประเทศแห่งราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย ว่าด้วยการส่งเสริมความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างกันร่วมกับ ดร.มาญิด บิน อับดุลเลาะฮ์ อัลกอเศาะบีรมว.พาณิชย์ ซาอุดีอาระเบีย ในโอกาสเดินทางเยือนประเทศไทยในฐานะแขกกระทรวงพาณิชย์ ระหว่างวันที่ 8-10 พฤษภาคม 2567ซึ่งซาอุดีอาระเบียเป็น 1 ใน 10 ประเทศยุทธศาสตร์ภายใต้นโยบายการทูตเศรษฐกิจเชิงรุกของรัฐบาลไทย การเดินทางเยือนครั้งนี้ ถือเป็นครั้งประวัติศาสตร์ เพื่อกระชับความสัมพันธ์ทางการค้า โดยซาอุดีอาระเบียได้นำภาคเอกชนกว่า 90 บริษัทมาเพื่อเจรจาจับคู่ธุรกิจด้วย
นายภูมิธรรม กล่าวว่า ซาอุดีอาระเบียเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ที่สำคัญของไทยเป็นประตูสำคัญสู่ตะวันออกกลาง แอฟริกาและยุโรป และไทยมีภูมิรัฐศาสตร์อยู่ในจุดศูนย์กลางของเอเชีย ซึ่งไทยมีความพร้อมด้านอาหารฮาลาล และสินค้าเกษตร สามารถเป็นแหล่งมั่นคงทางอาหารให้แก่ซาอุดีอาระเบียได้ และตนได้ฝากเชิญชวนนักธุรกิจ ภาคเอกชนซาอุดีอาระเบียเข้าร่วมงานแสดงสินค้าสำคัญของไทย อาทิ งาน Bangkok Gems & Jewelry Fair (อัญมณีและเครื่องประดับ) งาน STYLE (สินค้ากลุ่ม Lifestyle) และงาน THAIFEX - Anuga Asia (อาหารและเครื่องดื่ม) เป็นต้น เพื่อส่งเสริมความร่วมมือด้านการค้าและการลงทุนเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ ได้ขอบคุณซาอุดีอาระเบียที่ให้การสนับสนุนข้าวไทยมาโดยตลาด ซึ่งซาอุดีอาระเบียเป็นตลาดส่งออกข้าวที่สำคัญของไทยในภูมิภาคตะวันออกกลาง เป็นอันดับ 5 ของตลาดส่งออกข้าวไทยในตะวันออกกลาง แต่ละปีไทยส่งออกข้าวไปซาอุดีอาระเบีย ประมาณ 15,000-30,000 ตัน และไทยมีข้าวชนิดที่มีค่าดัชนีน้ำตาล (Glycemic Index : GI) ต่ำ เหมาะสำหรับคนรักษาสุขภาพ จากนี้ทั้ง 2 ประเทศจะส่งเสริมความร่วมมือทางการค้าการลงทุน และผลักดัน SMEมากขึ้น
“ถือเป็นตลาดใหม่ที่เราสนใจ เชื่อว่าจะเพิ่มตลาดได้มากขึ้น ซึ่งบรรยากาศดีมากตนได้ให้มะม่วงไทยกลับไป ซึ่งท่านชื่นชอบและ ความสัมพันธ์ครั้งนี้เป็นไปได้ด้วยดี จากนี้คณะทำงานจะกลับไปคุยกันให้คืบหน้าเป็นรูปธรรมทันที ซึ่งทางซาอุดีฯอยากร่วมมือกับเราทั้งในสินค้าเกษตร ธุรกิจบริการทางการแพทย์และการท่องเที่ยว” นายภูมิธรรม กล่าว
ด้านฝ่ายซาอุดีอาระเบีย ให้ความสำคัญกับไทยและยินดีที่จะร่วมมือในการสร้างความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและส่งเสริมการค้าการลงทุนระหว่างกันมากขึ้น และเชิญชวนให้นายภูมิธรรมและคณะเดินทางเยือนซาอุดีอาระเบีย เพื่อสนับสนุนการเจรจาการค้าให้ประสบความสำเร็จต่อไป
ผู้สื่อข่าวระบุว่าในการประชุมทวิภาคีมีนายสุชาติ ชมกลิ่น รมช.พาณิชย์ นางนลินี ทวีสิน ผู้แทนการค้าไทย และผู้บริหารระดับสูงกระทรวงพาณิชย์ เข้าร่วมด้วย
โดยภาคเอกชนซาอุดีฯ ที่เข้าร่วมจับคู่ธุรกิจมีจำนวนกว่า 90 บริษัท ในภาคธุรกิจสำคัญ อาทิ เกษตร อาหารและเครื่องดื่ม ยานยนต์
และชิ้นส่วน อสังหาริมทรัพย์ เภสัชกรรม สุขภาพและบริการทางการแพทย์ การก่อสร้าง เทคโนโลยี การท่องเที่ยวและธุรกิจเกี่ยวเนื่อง
ทั้งนี้ ซาอุดีอาระเบียเป็นคู่ค้าอันดับที่ 17 ของไทย และอันดับที่ 2 ในภูมิภาคตะวันออกกลาง โดยในปี 2566 การค้าระหว่างกันมีมูลค่า 8,796.44 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (305,738.80 ล้านบาท) คิดเป็นสัดส่วนการค้าร้อยละ 1.53 ของการค้าทั้งหมดของไทยกับโลกโดยไทยส่งออกไปซาอุดีอาระเบีย 2,667.68 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (92,076.43 ล้านบาท) และไทยนำเข้าจากซาอุดีอาระเบีย 6,128.76 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (213,662.37 ล้านบาท) สินค้าส่งออกสำคัญ เช่น รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ไม้และผลิตภัณฑ์ไม้ อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป ผลิตภัณฑ์ยาง และเครื่องจักรกลและส่วนประกอบ สินค้านำเข้าสำคัญ เช่น น้ำมันดิบเคมีภัณฑ์ ปุ๋ยและยากำจัดศัตรูพืชและสัตว์ ก๊าซธรรมชาติ และน้ำมันสำเร็จรูป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี