นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า จำนวนนิติบุคคลที่มีการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่ในเดือนเมษายน 2567 มีจำนวน 6,530 ราย เพิ่มขึ้น 8.09% เมื่อเทียบกับเดือนเมษายน 2566 มีมูลค่าทุนจดทะเบียน 27,271.87 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30.50% เมื่อเทียบกับเดือนเมษายน 2566 และยังเป็นการจัดตั้งธุรกิจใหม่นับเฉพาะเดือนเมษายนสูงที่สุดในทุกๆ ปี ตั้งแต่กรมฯเปิดให้บริการจดทะเบียนธุรกิจมา 101 ปี โดยธุรกิจที่มีการจัดตั้งใหม่สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 565 ราย ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป 455 ราย และธุรกิจภัตตาคาร/ร้านอาหาร 329 ราย
ทั้งนี้ถือเป็นสัญญาณเชิงบวก ที่สะท้อนว่าตัวเลขการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่ในไตรมาส 2 จะสูงกว่าในปีที่ผ่านมา เนื่องจากมีสัญญาณที่ดีทั้งการขับเคลื่อนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านต่างๆ รวมทั้งนโยบายที่ชัดเจนในกิจกรรมกระตุ้นเศรษฐกิจ อย่างโครงการ Digital Wallet สร้างความมั่นใจให้กับประชาชนและผู้ประกอบธุรกิจมากขึ้น
สำหรับนิติบุคคลที่มีการจัดตั้งธุรกิจใหม่สะสม 4 เดือนของปี 2567 มีจำนวน 31,533 ราย ลดลง 2.14% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ทุนจดทะเบียน 95,212.41 ล้านบาทลดลง 73.59% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากปี 2566 มีการควบรวมกิจการของบริษัทที่มีมูลค่าทุนเกิน 100,000 ล้านบาท แต่ยังคาดว่าตัวเลขการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจในครึ่งปีแรก 2567 จะอยู่ที่ 44,000-47,000 ราย
“อย่างไรก็ตามธุรกิจที่มีอัตราการเติบโตน่าสนใจ อยู่ในกลุ่มธุรกิจด้านความบันเทิง คือ ธุรกิจเกี่ยวกับกิจกรรมของบริษัทโฆษณา โดยในเดือนเมษายน 2567 มีการจัดตั้งธุรกิจใหม่ 106 ราย และมีแนวโน้มเติบโตของการจัดตั้งธุรกิจ 32.50% เมื่อเทียบกับเดือนเมษายน 2566 ตามการเติบโตของสื่อดิจิทัลที่ขยายตัวเพิ่มขึ้น และธุรกิจผลิตภาพยนตร์ ที่เติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยในช่วง 4 เดือนแรกปี 2567 ธุรกิจผลิตภาพยนตร์ ที่จดทะเบียนนิติบุคคลอยู่ที่ 56 ราย เพิ่มขึ้น 12% และทุนจดทะเบียน 195 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 146.44% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน เป็นผลจากการฟื้นตัวของธุรกิจในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยที่มีการเปิดกว้างในความหลากหลายทางเพศมากขึ้น โดยเฉพาะซีรี่ส์วายที่สามารถสร้างกำไรและเม็ดเงินขยายไปสู่ธุรกิจอื่นๆได้อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจโฆษณา ธุรกิจจัดกิจกรรม (Event) และธุรกิจท่องเที่ยว”นางอรมน กล่าว
ส่วนการจดทะเบียนเลิกประกอบกิจการในเดือนเมษายน 2567 มีจำนวน 810 รายลดลง 13.46% เมื่อเทียบกับเดือนเมษายน 2566 มูลค่าทุนจดทะเบียน 5,096.83 ล้านบาท ลดลง 1.55% เมื่อเทียบกับเดือนเมษายน 2566 โดยธุรกิจที่เลิกประกอบกิจการ 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจภัตตาคาร/ร้านอาหาร ส่งผลให้การจดทะเบียนเลิกสะสม 4 เดือนแรกปี 2567 อยู่ที่ 3,619 ราย ลดลง 13.92% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และทุนจดทะเบียนเลิกสะสม 17,040.40 ล้านบาท ลดลง 51.41% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ทำให้จนถึงวันที่ 30 เมษายน 2567 มีธุรกิจที่จดทะเบียนนิติบุคคลรวม 1,908,768 ราย โดยมีนิติบุคคลที่ดำเนินกิจการอยู่ 917,916 ราย
ในขณะที่การอนุญาตให้นักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนประกอบธุรกิจในไทย ภายใต้พระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 นั้น ในเดือนเมษายน 2567 มีจำนวน 75 ราย เพิ่มขึ้น 7% เมื่อเทียบกับเดือนมีนาคม 2567 โดยนักลงทุนต่างชาติที่เข้ามาลงทุน 3 อันดับแรก คือ ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา และสิงคโปร์ ส่งผลให้ 4 เดือนแรกปี 2567 มีการอนุญาตให้นักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนประกอบธุรกิจในไทย 253 ราย เพิ่มขึ้น 17% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เงินลงทุนรวมทั้งสิ้น 54,958 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 42% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี