ศาสตราจารย์ ทัชมัย ฤกษะสุต อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผู้เชี่ยวชาญกฎหมายธุรกิจ กฎหมายเศรษฐกิจ และกฎหมายเศรษฐกิจระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า ร่างผลการไต่สวนการหลบเลี่ยงมาตรการตอบโต้การทุ่มตลาดและการอุดหนุน (AC) กรณีสินค้าเหล็กแผ่นรีดร้อนเจืออัลลอยจากจีน พบว่าจากข้อมูลและข้อเท็จจริงที่กรมการค้าต่างประเทศ ใช้ในการไต่สวนและได้เผยแพร่ในเว็บไซต์กรมฯ นั้นมีความครบถ้วนตรงตามหลักการของการใช้มาตรการ AC และเป็นไปตาม พ.ร.บ. การตอบโต้การทุ่มตลาดและอุดหนุน พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติมใน พ.ศ. 2562 เนื่องจากมีข้อมูลเชิงประจักษ์ว่าสินค้าเหล็กเจืออัลลอยมีการส่งออกจากจีนเพิ่มมากขึ้น หลังจากที่มีการใช้มาตรการตอบโต้การทุ่มตลาด (AD) และมีข้อมูลทางเทคนิคว่าเหล็กเจืออัลลอยเป็นสินค้าที่มีการแก้ไขดัดแปลงเพียงเล็กน้อย โดยไม่มีผลต่อลักษณะหรือคุณสมบัติของสินค้ารวมถึงมีการทุ่มตลาดด้วย

ทั้งนี้จากการทำวิจัยในปี 2562-2563 เรื่องการใช้มาตรการ AC ของสหภาพยุโรปที่เป็นประเทศต้นแบบของมาตรการ AD และ AC ของไทย พบว่ามีหลักการและแนวทางการใช้มาตรการที่สอดคล้องกัน จึงเป็นโอกาสดีที่ไทยจะมีมาตรการทางการค้าที่มีประสิทธิภาพ เพื่อป้องกันการปฏิบัติทางการค้าที่ไม่เป็นธรรมจากต่างประเทศ เพราะที่ผ่านมาแม้จะมีการใช้มาตรการ AD หลายมาตรการ แต่อาจจะมีประสิทธิภาพการบังคับใช้ไม่เต็มที่ เนื่องจากมีการหลบเลี่ยงในหลายรูปแบบ ซึ่งหากไทยมีกฎหมาย AC ที่ช่วยอุดช่องว่างนี้ เชื่อว่าประสิทธิภาพการใช้มาตรการทางการค้าของไทยจะมีมากยิ่งขึ้น และช่วยให้ผู้ประกอบการไทยอยู่รอดได้ท่ามกลางการแข่งขันทางการค้าที่ไม่เป็นธรรม

นายนาวา จันทนสุรคน หนึ่งในแกนนำ 10 สมาคมผู้ประกอบอุตสาหกรรมเหล็ก กล่าวว่า หากปล่อยให้สินค้าเหล็กดังกล่าวจากจีนยังทะลักเข้ามาไทย อาจส่งผลให้อุตสาหกรรมเหล็กแผ่นรีดร้อนภายในประเทศต้องปิดตัวลง กระทบการจ้างงานทั้งทางตรงและต่อเนื่องร่วมหมื่นคน อีกทั้งเสียการสร้างเศรษฐกิจหมุนเวียนและการสร้างมูลค่าเพิ่มในประเทศมูลค่ามหาศาล ดังนั้น 10 สมาคมเหล็กจึงสนับสนุนคณะกรรมการพิจารณาการทุ่มตลาดและการอุดหนุน ที่จะได้บังคับใช้มาตรการ AC กับสินค้าเหล็กแผ่นรีดร้อนเจืออัลลอยจากจีนเป็นกรณีนำร่องของไทย