ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2567 ธนาคารออมสิน โดยนายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน และ นายบัณฑิต อนันตมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ BAM ได้ร่วมลงนามในสัญญาจัดตั้งบริษัทสินทรัพย์อารีย์ จำกัด หรือ ARI-AMC โดยมีทุนจดทะเบียนเริ่มต้น1 พันล้านบาท โดยสัดส่วนการถือหุ้นฝ่ายละ 50%เท่ากัน มีระยะเวลาดำเนินการไม่เกินกว่า 15 ปี นับตั้งแต่วันที่เริ่มดำเนินการ โดยดำเนินธุรกิจบริหารสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ ในระยะแรกจะรับซื้อและรับโอนหนี้จากธนาคารออมสินเพียงแห่งเดียวก่อน เป็นการรับซื้อหนี้สินเชื่อทั่วไปทั้งที่มีหลักประกันและไม่มีหลักประกัน เป็นกลุ่มลูกหนี้สินเชื่อรายย่อย SMEs รวมถึงหนี้บัตรเครดิต บัตรกดเงินสด ที่มีสถานะ NPLs หนี้สูญ รวมถึง NPA ที่มียอดหนี้ไม่เกิน 20 ล้านบาท ครอบคลุมลูกหนี้ที่ยังไม่ดำเนินคดี และดำเนินคดีแล้ว ที่ยังมีสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย
นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสินเปิดเผยว่า จากปัญหาหนี้ครัวเรือนในประเทศ เป็นปัญหาเรื้อรังที่ส่งผลกระทบต่อการเติบโตของเศรษฐกิจไทยมาเป็นเวลานาน โดยเฉพาะหลังเกิดวิกฤตโควิด-19 ผู้ประกอบการรายย่อย SMEs และประชาชนจำนวนมากขาดสภาพคล่องไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามปกติ จนกลายเป็นหนี้เสีย (NPLs) และเพื่อแก้ปัญหาสินทรัพย์ด้อยคุณภาพของลูกหนี้สถาบันการเงินเฉพาะกิจ(SFIs) โดยเพิ่มความคล่องตัวให้สามารถแก้ไขปัญหาให้กับลูกหนี้ได้มากขึ้น เนื่องจากสามารถโอนหนี้บางส่วนของ SFIs ไปยังบริษัทร่วมทุนที่จัดตั้งขึ้น ซึ่งมีความเชี่ยวชาญในการบริหารจัดการหนี้โดยเฉพาะ ธนาคารออมสิน กับ BAM จึงได้ร่วมกัน จัดตั้งบริษัท บริหารสินทรัพย์อารีย์ จำกัด หรือ ARI-AMC มีวัตถุประสงค์หลักเป็นธุรกิจเพื่อสังคมและโดยมีกำไรในระดับที่เหมาะสมเพื่อช่วยเหลือลูกหนี้ ทั้งที่เป็น NPLs และ NPA ได้เข้ากระบวนการปรับโครงสร้างหนี้หรือไกล่เกลี่ยหนี้ มีโอกาสหลุดพ้นจากการเป็นผู้เสียประวัติทางเครดิตได้เร็วขึ้น กลับมาเป็นสถานะหนี้ผ่อนปกติหรือหนี้ปิดบัญชีจะทำให้สามารถเข้าถึงสินเชื่อในระบบได้ในอนาคต และลดการพึ่งพาหนี้นอกระบบได้
ทั้งนี้ ARI-AMC จะมีรับซื้อหนี้ในราคายุติธรรม และและจะบริหารโดยคำนึงถึงประโยชน์ที่ลูกหนี้จะได้รับสอดคล้องจากความสามารถในการชำระหนี้ของลูกหนี้แต่ละราย ซึ่งจะมีความยืดหยุ่นและหลากหลาย อาทิ การปรับลดเงินต้น ปรับลดอัตราดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมต่างๆ หรือการตัดหนี้บางส่วนให้กับลูกหนี้ ฯลฯ โดยคาดว่าในช่วงไตรมาส 3 ของปี 2567จะสามารถเริ่มรับซื้อและรับโอนหนี้จากธนาคารออมสิน ก้อนแรก ประมาณ 1.4 แสนราย คิดเป็นวงเงิน ประมาณ 1 หมื่นล้านบาท จากเป้าหมายของโครงการที่นี้ที่จะช่วยเหลือลูกหนี้จำนวนกว่า 500,000 บัญชี หรือคิดเป็นมูลหนี้เงินต้นกว่า 45,000 ล้านบาท และในอนาคตจะขยายการดำเนินการให้ครอบคลุมการรับซื้อหนี้ประเภทอื่น รวมถึงหนี้ของ SFIs อื่น ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงการคลัง ภายในปี 2568
“คาดว่าจะมีลูกหนี้ 70-80% จาก 5 แสนราย ที่หลุดจากการเป็นหนี้เสียได้จากโครงการนี้ ส่วนเงินทุนเริ่มที่ 1 พันล้านบาท เพียงพอต่อการดำเนินการในขั้นแรกและเรายังมีสินเชื่อพิเศษสำหรับ ARI-AMC สำหรับการขยายพอร์ตหรือซื้อหนี้เสีย จากสถาบันการเงินของรัฐแห่งอื่นเข้ามาบริหารเพิ่มเติมในอนาคต” นายวิทัยกล่าว
ด้าน นายบัณฑิต อนันตมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ BAM กล่าวว่า ชื่อมั่นว่าเรามีความพร้อมทั้งในด้านประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญของบุคลากร ตลอดจนระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ การให้บริการลูกค้าในทุกช่องทางอย่างครบวงจร และการมีเครือข่ายสาขาทั่วประเทศ จะช่วยให้ความร่วมมือในการผลักดันการดำเนินงานของบริษัทร่วมทุนลุล่วงไปได้ด้วยดี อีกทั้งทำให้บริษัท บริหารสินทรัพย์อารีย์ จำกัด ที่ก่อตั้งขึ้น สามารถตอบโจทย์การเป็นธุรกิจเพื่อสังคม โดยที่ยังสามารถบริหารจัดการให้ได้รับผลตอบแทนที่ดีได้
ด้านนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า เวลาติดแบล็กลิสต์ คือ 5 ปี บวกกับอีก 3 ปี ที่เก็บข้อมูลไว้ รวมกันเป็นติดสถานะมีประวัติค้างชำระหนี้ 8 ปี ถือว่ายาวเกินไป ดังนั้น คงต้องไปดู โดยจะลดในส่วนของแบล็กลิสต์ 5 ปีแรกให้เร็วขึ้น เช่น เหลือติดแบล็กลิสต์แค่ 2 ปี บวกกับ 3 ปี หรือเหลือ 1 ปี บวกกับ 3 ปี ซึ่งกฎหมายติดแบล็กลิสต์ อยู่ระหว่างการพิจารณาในส่วนของ กฎหมายว่าจะร่นระยะเวลาการลงได้หรือไม่ เพื่อให้ประชาชนกลุ่มดังกล่าวสามารถเข้าถึงสินเชื่อจากสถาบันการเงินได้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี