GAC AION ผยโฉม AION V เจเนอเรชั่นที่ 2 ในงานมหกรรมรถยนต์นานาชาติปักกิ่ง 2024 ที่ผ่านมา  และเป็นรถยนต์รุ่นแรก ที่ติดตั้งโลโก้ตัวอักษร AION  พร้อมประกาศราคาขายในประเทศจีน เดือนก.ค. 2567

GAC AION ได้เปิดตัวรถยนต์รุ่นเรืองธงระดับโลกเป็นครั้งแรก  AION V เจเนอเรชั่นที่ 2 โดยมุ่งมั่นให้เป็นมาตรฐานใหม่ ของความคลาสสิกระดับโลก และนำเสนอทางเลือกใหม่ของรถยนต์อัจฉริยะสุดคลาสสิกให้กับผู้ใช้ทั่วโลก โดย GAC AION คาดว่าจะเป็นมาตรฐานใหม่สําหรับ SUV ไฟฟ้าอัจฉริยะทั่วโลก  และรถรุ่นนี้ยังถือเป็นรถยนต์ไฟฟ้า Global Model รุ่นแรกของแบรนด์อีกด้วย รวมถึงการผสานรวมเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย 23 รายการของ AION เข้าด้วยกัน

การออกแบบภายนอกของ AION V เจเนอเรชั่นที่ 2 ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก  DNA ของ Tyrannosaurus Rex รูปทรงโดยรวมมีความแข็งแกร่งและหล่อเหลา แสดงถึงความแข็งแกร่งของ ไทแรนโนซอรัสเร็กซ์ไฟฟ้า ผสานการออกแบบที่เน้นในเรื่องของ "Ecological-Function" ซึ่งผสมผสานความแข็งแกร่ง เทคโนโลยีและสุนทรียศาสตร์ ร่วมสมัยเข้าไว้ด้วยกัน  โดดเด่นด้วย     ไฟหน้า ดีไซน์แบบกรงเล็บมังกร และเส้นสายของตัวรถ ที่ดูดุดันและแข็งแกร่งในแบบฉบับของรถ SUV

AION V เจเนอเรชั่นที่ 2 ถูกสร้างขึ้นบนแพลตฟอร์มรถยนต์ไฟฟ้า AION Electric Platform (AEP) รุ่นใหม่ ที่มาพร้อมกับคุณสมบัติที่โดดเด่น ไม่ว่าจะเป็น การจัดวางเซลล์แบตเตอรี่ ทำได้ดีมากยิ่งขึ้น การจัดวางอุปกรณ์และชิ้นส่วนใหม่ ทำให้พื้นที่ภายในกว้างขวาง และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พื้นที่ในรถได้ถึง 20% ตัวรถมีความยาว 4,605 มิลลิเมตร และฐานล้อ 2,775 มิลลิเมตร พื้นที่สำหรับผู้โดยสารแถวหลังกว้าง เบาะโดยสารด้านหน้าพับลงได้ง่าย ด้วยการแตะเพียงครั้งเดียว กลายเป็น  "เตียงคิงไซส์"  ขนาดใหญ่ถึง 2 เมตร และมีพื้นที่มากถึง 6 ตารางเมตร เบาะหลังปรับเอนได้ถึง 137 องศา พร้อมด้วยฟีเจอร์ตู้เย็นอัจฉริยะ ตั้งอุณหภูมิได้ตั้งแต่ -15℃ ถึง 50℃

นอกจากนี้ ยังติดตั้งลำโพง Belgian Primium 9 ตำแหน่ง ทำให้รถคันนี้กลายเป็น "โรงภาพยนตร์ระดับไฮเอนด์" พร้อมระบบสั่งการด้วยเสียงแบบ 4 โซน หน้าจอควบคุมกลางขนาดใหญ่ พร้อมด้วยระบบการจ่ายไฟฟ้าสู่อุปกรณ์ภายนอก VtoL สามารถเชื่อมต่อห้องครัว และห้องน้ำภายนอกได้ ทำให้รถคันนี้เป็นเพื่อนที่ยอดเยี่ยม สำหรับนักเดินทางทั่วโลก

AION V เจเนอเรชั่นที่ 2 เป็นผลงานของเทคโนโลยีสามชนิด ที่ทันสมัยที่สุดของ AION ด้วยประสิทธิภาพการขับเคลื่อน ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าชั้นนำระดับโลกถึง 90.5% พร้อมด้วยความเร็วรอบของมอเตอร์ไฟฟ้าที่สูงที่สุด ในเซกเมนต์เดียวกันที่  20,000 รอบ/นาที และมีค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานที่ต่ำที่สุด ในรถเซกเมนต์เดียวกันที่ 0.273cd  ส่งผลให้สามารถใช้งานในช่วงอุณหภูมิสากล (ทั้งอากาศร้อนจัดและเย็นจัด) ได้ไกลถึง 750 กม. มีอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนาน และยังสามารถใช้งานได้อย่างเสถียรในช่วงอุณหภูมิตั้งแต่ -30°C ถึง 55°C สามารถลดการใช้พลังงานของเครื่องปรับอากาศลง 50% มีอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนาน (วิ่งได้ไกล) ตอบโจทย์การใช้งานในทุกสภาพอากาศทั่วโลก สามารถเดินทางจากรัสเซีย ไปยังเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้อย่างอิสระ

แบตเตอรี่ AION V เจเนอเรชั่นที่ 2 ได้นำเทคโนโลยีซิลิคอนคาร์ไบด์ มาใช้ในแพลตฟอร์มรถยนต์ระดับ 400V เป็นครั้งแรก ซึ่งไม่เพียงแต่มีประสิทธิภาพสูง แต่ยังสามารถปรับใช้กับสถานีชาร์จไฟฟ้าทั่วโลกได้อีกด้วย โดยใช้เทคโนโลยีการวางชั้นแผ่นขั้วแบตเตอรี่ ที่เป็นนวัตกรรมแรกของโลก ผนวกกับเทคโนโลยีการชาร์จไว ที่มีส่วนผสมของกราฟีนที่เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะ สามารถลดเวลาในการชาร์จลงได้ถึง 60%  สามารถชาร์จได้ 370 กิโลเมตร ในเวลาเพียง 15 นาที

AION ได้สร้างเครือข่ายสถานีชาร์จพลังงาน โดยมีรัศมีไม่เกิน “5 กิโลเมตรในเขตเมือง และ 10 กิโลเมตร บนถนนสายหลัก" ในประเทศจีน โดยผู้ใช้สามารถเดินทางไปสถานีชาร์จของ AION ได้ภายใน 10 นาที ในเวลาเดียวกัน AION กำลังสร้างเครือข่ายการชาร์จที่กว้างขวางในต่างประเทศ เพื่อให้ AION V เจเนอเรชั่นที่ 2 สามารถขับเคลื่อนจากประเทศจีน ไปยังเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สามารถชาร์จได้ทั่วโลก

AION V เจเนอเรชั่นที่ 2 มาพร้อมระบบการเชื่อมต่ออัจฉริยะ และเทคโนโลยีช่วยเหลือการขับขี่ที่ล้ำสมัย รถยนต์รุ่นนี้ไม่เพียงแต่ติดตั้งระบบการขับขี่อัจฉริยะ ADiGO PILOT ชั้นนำของโลก แต่ยังได้รับการติดตั้งฮาร์ดแวร์ชั้นนำอย่างชิป Orin X และกล้องไลดาร์ รวมถึงใช้อัลกอริธึม AI ที่ทันสมัยที่สุดในโลก

รวมถึงมีเทคโนโลยีนำทาง ที่สามารถเรียนรู้ลักษณะเส้นทาง สภาพการจราจร และการขับขี่ได้ด้วยตนเอง ซึ่งเป็นนวัตกรรมแรกในอุตสาหกรรม สามารถรับรู้สภาพแวดล้อมได้อย่างแม่นยำรอบด้าน โดยไม่ต้องอาศัยแผนที่ที่มีความแม่นยำสูง พร้อมด้วยฟีเจอร์ช่วยเหลือการขับขี่อัจฉริยะระดับไฮเอนด์ เช่น ฟีเจอร์ NDA สำหรับการขับขี่ในเมือง และ NDA สำหรับขับขี่ด้วยความเร็วสูง รวมถึงระบบสั่งจอดรถจากระยะไกล

AION V เจเนอเรชั่นที่ 2 มาพร้อมกับห้องโดยสาร AI ที่สามารถพัฒนาตัวเอง เป็นผู้ช่วยที่มีไหวพริบดี รถยนต์รุ่นนี้เป็นรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกของโลกที่ใช้ ADiGO SENSE AI ระดับโลก ซึ่งสามารถตอบสนองความต้องการที่แตกต่าง ของแต่ละคนได้อย่างแม่นยำ และสามารถพัฒนาตัวเองให้เข้าใจผู้ใช้มากขึ้นเรื่อย ๆ รองรับการเชื่อมต่อกับโทรศัพท์มือถือยี่ห้อหลักในปัจจุบัน  ระบบอินโฟเทนเม้นท์ใช้งานง่ายที่สุดในระดับเดียวกัน และสามารถใช้งานได้เหมือนแท็บเล็ต

AION V รุ่นใหม่นี้ ได้รับการพัฒนาตามมาตรฐานความปลอดภัย ระดับโลก โดยเป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัยระดับห้าดาว ของทั้งจีนและยุโรป สามารถทำผลลัพธ์ได้ดีเยี่ยมในการทดสอบความปลอดภัย GGG ของสถาบันวิจัยประกันภัยจีน (CIRI Auto Technology Institute) ตรงตามข้อกำหนดด้านความปลอดภัยสูงสุดของโลก

โดยรถ AION V รุ่นใหม่มาพร้อมกับ Magazine Bettery เจเนอเรชั่นที่สอง ที่ผ่านการทดสอบยิงด้วยกระสุนปืน โดยไม่ติดไฟหรือเกิดการระเบิด รถยนต์ไฟฟ้า AION ที่ใช้ Magazine Bettery เกือบ 1 ล้านคันทั่วโลก ปัจจุบันยังไม่พบการระเบิด แม้แต่ครั้งเดียว ความปลอดภัยรอบด้านทำให้ AION V เจเนอเรชั่นที่ 2 กลายเป็นมาตรฐานใหม่ ในเรื่องความปลอดภัยของรถไฟฟ้า SUV

ปัจจุบันอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าของจีน อยู่ในช่วงของการลงทุน และทำตลาดในต่างประเทศ ทาง AION ยังได้วางรากฐานตลาดที่แข็งแกร่ง และสร้างชื่อเสียงที่ดีในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้  AION V เจเนอเรชั่นที่ 2 ได้รับการพัฒนาตามมาตรฐานระดับโลก ทั้งในด้านการออกแบบภายนอก การตกแต่งภายใน ความกว้างขวางของพื้นที่ ความปลอดภัย ประสิทธิภาพการขับขี่ และระบบอัจฉริยะ และด้วยปัจจัยข้างต้นที่กล่าวมา ทำให้ AION V รุ่นนี้ เหนือกว่าคู่แข่งในระดับเดียวกัน พร้อมยกระดับไปสู่มาตรฐานใหม่ที่ AION พัฒนาขึ้นเพื่อผู้ใช้งานทั่วโลก

AION V เจเนอเรชั่นที่ 2 จะเป็นรถยนต์รุ่นแรก ที่ติดตั้งโลโก้ตัวอักษร AION ซึ่งเป็นการเปิดศักราชใหม่ของการพัฒนาสำหรับ AION  โดยจะเปิดตัวพร้อมประกาศราคาขายในประเทศจีน ในเดือนกรกฎาคมปี 2567  

สำหรับประเทศไทย ยังไม่มีแผนทำตลาดในช่วงนี้ แต่รอลุ้นงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป 2024 ช่วงปลายปี ว่าจะนำมาขายหรือไม่ โดยคาดว่าจะเป็นรถยนต์ไฟฟ้า รุ่นยอดนิยมอีกรุ่นหนึ่งของ AION ที่จะกลายเป็นดาวเด่นด้านยอดขาย ในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าอย่างแน่นอน