นายกรนิจ โนนจุ้ย รองอธิบดีกรมการค้าภายใน(คน.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ผลไม้ภาคตะวันออกได้ออกสู่ตลาดแล้วประมาณ 90% คงเหลือเพียง 10% ก็จะหมดฤดูกาล และเข้าสู่ผลไม้ภาคเหนือ คือ ลำไย มะม่วง ลิ้นจี่ สับปะรด ที่ผลผลิตจะเริ่มออกตั้งแต่ปลายเดือนมิถุนายน และผลไม้ภาคใต้ คือ ทุเรียน มังคุด เงาะ ลองกอง จะออกตั้งแต่ปลายเดือนมิถุนายนเช่นเดียวกัน ซึ่งกรมฯได้เตรียมมาตรการรับมือไว้แล้ว และมั่นใจจะสามารถดูแลราคาให้ทรงตัวอยู่ในระดับสูง เหมือนกับราคาผลไม้ภาคตะวันออก ที่ปี 2567 นี้ถือเป็นปีทองอีกปีหนึ่งของเกษตรกรผู้ปลูกผลไม้

ทั้งนี้ในส่วนของลำไย ได้ประสานผู้ประกอบการเข้าไปรับซื้อ และทำสัญญารับซื้อล่วงหน้า เพื่อส่งออกและกระจายในประเทศ โดยเฉพาะเกรด “ช่อ” ที่มีสัดส่วนประมาณ 30% ส่วนช่วงกลางฤดู ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเกรด “รูดร่วง” ได้เตรียมแผนรับมือ โดยได้หารือกับสมาคมผู้ผลิตลำไยอบแห้ง ที่จะเข้าไปรับซื้อผลผลิตจำนวน 1 แสนตัน และยังจะดึงปั๊มน้ำมันให้เข้าไปช่วยซื้อ และนำไปเป็นของสมนาคุณให้กับผู้เติมน้ำมัน

สำหรับทุเรียนภาคใต้ ได้ประสานผู้ส่งออก ผู้รวบรวม ล้ง ให้เตรียมพร้อมในการย้ายฐานการรับซื้อและแรงงานลงไปภาคใต้โดยเร็ว เพื่อให้ทันกับช่วงที่ผลผลิตออกสู่ตลาด และจะเกาะติดด้านราคาอย่างใกล้ชิด เพราะตอนนี้มีฐานราคาจากทุเรียนภาคตะวันออก เกรด “AB” เฉลี่ย 165-170 บาท ก็ต้องผลักดันให้ราคาอยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสมและป้องกันไม่ให้มีการกดราคารับซื้อ

ส่วนมังคุด ก็มีแผนรับมือไว้แล้ว โดยได้ประสานผู้ส่งออก ผู้ประกอบการ ล้ง เข้าไปเปิดจุดรับซื้อ และเร่งระบายผลผลิตในช่วงที่ออกสู่ตลาดมาก ทั้งกระจายผ่านห้างค้าปลีกค้าส่ง ห้างท้องถิ่น ปั๊มน้ำมัน หมู่บ้าน คอนโดมิเนียม ซึ่งทั้งหมดนี้พร้อมดำเนินการทันที