‘คมนาคม’ร่างกฎกระทรวง บรรเทาภาระ-อำนวยความสะดวกขออนุญาตใช้เรือสำหรับประมง
9 มิถุนายน 2567 นางรัดเกล้า อินทวงศ์ สุวรรณคีรี รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เพื่อเป็นการลดภาระ และอำนวยความสะดวกแก่ประชาชน เนื่องจากปัจจุบัน มีการกำหนดเงื่อนไขให้เจ้าของเรือจะต้องขอหนังสือรับรองจากกรมประมงก่อน จึงจะทำการขอใบอนุญาตใช้เรือจากกรมเจ้าท่าได้ กระทรวงคมนาคม (คค.) จึงได้เสนอคณะรัฐมนตรี (4 มิ.ย. 2567) พิจารณาอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการขอและการออกใบอนุญาตใช้เรือ และการประกันภัยเรือสำหรับโดยสาร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... โดยกำหนดเอกสารและหลักฐานเท่าที่จำเป็น และสอดคล้องกับสภาพการณ์
รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรีคราวเดียวกัน สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร (สผ.) ได้เสนอรายงานของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาและเสนอแนะการแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับกิจการประมงให้เกิดความเหมาะสมและเป็นธรรมกับผู้ประกอบการประมงและกิจการประมงทั้งระบบ ให้รับทราบด้วย โดยมีผลการศึกษาตามกรอบการพิจารณา 4 ขั้นตอน
1. ศึกษาปัญหาผลกระทบจากการออกกฎหมายและบังคับใช้กฎหมาย
2. ศึกษากฎหมายลำดับรองที่เกี่ยวข้องกับกิจการประมง จำนวน 19 ฉบับ โดยได้ข้อยุติแล้ว ซึ่งไม่จำเป็นต้องแก้ไข 4 ฉบับ ได้ข้อยุติแล้ว โดยต้องมีการแก้ไขปรับปรุง 9 ฉบับ ต้องออกประกาศใหม่ 2 ฉบับ ได้แก่ ร่างประกาศกรมประมง เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการในการวางประกันแทนการยึดเครื่องมือทำการประมงหรือกักเรือประมง พ.ศ. ... และประกาศกระทรวงคมนาคม เรื่อง การงดจดทะเบียนเรือประมงเป็นการชั่วคราว (ฉบับที่ 6) พ.ศ. ... และอยู่ระหว่างหารือร่วมกัน 4 ฉบับ
3. ศึกษากฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องกับกิจการประมง โดยคณะกรรมาธิการได้กำหนดกรอบการพิจารณา 4 ประเด็นหลัก
-ประเด็นเกี่ยวกับเรือไทย การเดินเรือ และคนประจำเรือ
-ประเด็นเกี่ยวกับแรงงานประมง
-ประเด็นเกี่ยวกับการรักษาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งและความมั่นคงทางทะเล
-ประเด็นเกี่ยวกับการส่งออก นำเข้า และการตรวจสอบสินค้าประมง
4. ศึกษากฎหมายว่าด้วยการประมง
โดยมีข้อสังเกตต่อแนวทางต่างๆ สรุปภาพรวมสำคัญ อาทิ รัฐควรพิจารณาภาพรวมการแก้ไขกฎหมาย ควรปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพเรือประมง เพื่อลดการใช้แรงงาน ปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงานของ PIPO ควรมุ่งเน้นการสนับสนุนเครื่องมือที่ทันสมัยและยุทโธปกรณ์ที่จำเป็นต้องใช้ในการปฏิบัติงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับมาตรการป้องกัน ติดตาม ตรวจสอบ ควบคุม และเฝ้าระวังเรือที่มิใช่เรือประมงไทยเข้ามาทำการประมงในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย และควรดำเนินการเพื่อป้องกันหรือยุติปัญหาการนำเข้าสินค้าประมงที่มีความเสี่ยงไม่ให้ความร่วมมือในการต่อต้านการทำประมงผิดกฎหมายและสวมสิทธิเป็นสินค้าไทย เป็นต้น
ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นหน่วยงานหลักรับรายงานและข้อสังเกตไปพิจารณาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางและความเหมาะสมของข้อสังเกตดังกล่าว และสรุปผลการพิจารณาหรือผลการดำเนินการในภาพรวมให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เพื่อนำเสนอ ครม. ต่อไป
“รัฐบาลให้ความสำคัญกับการควบคุมมิให้มีการใช้เรือประมงโดยผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และไร้การควบคุม ที่ปัจจุบันสถานการณ์ได้คลี่คลายลง ดังนั้นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินการด้านการบริหารจัดการ ลดภาระ และอำนวยความสะดวกแก่ประชาชน ให้ใช้เอกสารและหลักฐานเท่าที่จำเป็นและสอดคล้องกับสภาพการณ์ และพร้อมรับฟัง ศึกษา และพิจารณาศึกษาแนวทางและความเหมาะสมจากทุกฝ่าย ช่วยเสริมศักยภาพการดำเนินงาน ให้มีประสิทธิภาพอย่างสูงสุดต่อไป” นางรัดเกล้า กล่าว
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี