นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ เปิดเผยผลการหารือกับนายโอตากะ มาซาโตะ เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2567 ว่า ทั้ง 2 ฝ่ายได้เน้นย้ำการส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้า การยกระดับการเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์อย่างรอบด้านต่อไป เพื่อขับเคลื่อนการค้า การลงทุน และความร่วมมือทางเศรษฐกิจ
ทั้งนี้ไทยได้เน้นย้ำการใช้สิทธิประโยชน์จากความตกลงการค้าเสรี (FTA)โดยเฉพาะการส่งออกสินค้าเกษตรของไทยภายใต้ความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจที่ใกล้ชิดไทย-ญี่ปุ่น (JTEPA) เช่น กล้วยหอมทอง โดยปี 2567 นี้ กระทรวงฯร่วมกับภาคเกษตรกรไทย ทำสัญญาซื้อ-ขายกับผู้นำเข้าญี่ปุ่น เพื่อเตรียมส่งออกกล้วยหอมทองไปตลาดญี่ปุ่นแล้ว 5,000 ตัน และจะเพิ่มปริมาณอีกในปีต่อๆ ไป และขอให้ญี่ปุ่นสนับสนุนสินค้าน้ำตาลทรายที่ปัจจุบันญี่ปุ่นยังเก็บภาษีและค่าธรรมเนียมในอัตราที่สูง โดยไทยได้ขอให้ญี่ปุ่นพิจารณาให้เจ้าหน้าที่ระดับเทคนิคหารือกันเพื่อนำไปสู่การลดภาษีต่อไป
สำหรับการลงทุน ญี่ปุ่นกับไทยถือเป็นพันธมิตรสำคัญในห่วงโซ่อุตสาหกรรม โดยเฉพาะอุตสาหกรรมยานยนต์ของญี่ปุ่นที่เข้ามาตั้งฐานผลิตในไทยกว่า 60 ปีแล้ว จึงเชิญชวนนักลงทุนญี่ปุ่นเข้ามาขยายการลงทุนในไทยเพิ่มเติมในกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ ทั้งที่เป็นยานยนต์สันดาป และยานยนต์สมัยใหม่ เพื่อให้ไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตยานยนต์ให้กับญี่ปุ่นต่อไป และได้เชิญชวนนักลงทุนญี่ปุ่นมาลงทุนในพื้นที่ EEC สำหรับอุตสาหกรรมชั้นนำอื่นๆ ที่ญี่ปุ่นมีศักยภาพ อาทิ เครื่องมือแพทย์ หุ่นยนต์ และพลังงานสะอาด อีกด้วย
ส่วนความร่วมมือด้านทรัพย์สินทางปัญญา เป็นที่น่ายินดีที่ญี่ปุ่นได้รับจดทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) ให้กับสินค้าไทยแล้ว 2 รายการ คือ กาแฟดอยช้าง และกาแฟดอยตุง ซึ่งได้รับแจ้งว่าสับปะรดห้วยมุ่น จะเป็นสินค้า GI รายการต่อไปที่คาดว่าจะได้รับการจดทะเบียนในเดือนสิงหาคม 2567
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี