nn การเกิดขึ้นของรถยนต์ไฟฟ้าหรือรถ EV แม้ว่าสหรัฐจะเริ่มก่อน...แต่ไม่ได้สั่นสะเทือนโลกเหมือนกับการเกิดของรถ EV สัญชาติจีน...ก่อนหน้านี้สหรัฐได้ขึ้นภาษีรถ EV จากดันไปแตะ 102.5%...และเร็วๆนี้ อียูก็จะขึ้นภาษีรถ EV จากจีน 17-38%...เพราะพวกเขาเชื่อว่า รัฐบาลจีนให้การอุดหนุนผู้ผลิตรถ EV ของจีน...จึงทำให้รถ EV ของจีนเข้าไปทุ่มตลาดในตลาดสหรัฐและอียู
แม้แต่ญี่ปุ่นยักษ์ใหญ่ของวงการรถยนต์โลกก็ยังสะเทือน...จากเดิมก่อนหนี้ 4-5 ปี ก็ต่อต้านรถ EV อ้างว่าโครงสร้างพื้นฐานยังไม่พร้อม เทคโนโลยียังไม่นิ่ง (จริงแล้วกลัวซัพพลายเชนร่วมหมื่นเซกเตอร์จะหายไป)...ตอนนี้ก็ต้องยอมรับและเร่งเครื่องสายการผลิตรถ EVเพราะรู้ว่าอย่างไรเสียก็ไม่อาจต้านทานกระแสรถ EV ได้ และสุดท้ายจะไม่มีรถยนต์สันดาปภายในอีกต่อไปแล้ว
สำหรับประเทศไทย...สิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้ยอดการเติบโตของรถ EV ล่าสุดสูงกว่า 600% สวนทางกับยอดขายของรถยนต์สันดาปภายในที่ลดลงต่อเนื่อง แม้ว่าส่วนหนึ่งจะมาจากกำลังซื้อในประเทศที่หดหาย แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าส่วนหนึ่งมาจากพฤติกรรมผู้บริโภคที่หันมานิยมรถ EV มากขึ้น…ทำให้ในช่วงเดือนที่ผ่านมามีข่าวน่าตกใจของวงการยานยนต์ไทย...นั่นคือ ค่ายรถยนต์ ญี่ปุ่น 2 ค่าย คือ Subaru และ Suzuki ประกาศหยุดสายการผลิตรถยนต์สันดาปภายในในไทย ซึ่งทั้ง 2 ค่ายให้เหตุหลักเหมือนกันคือ... “การทำตลาดที่ยากขึ้น”…
แล้วค่ายรถยนต์ที่เหลือจะไปในแนวทางไหนต่อจากนี้...มีข้อมูลที่สะท้อนออกมาได้น่าสนใจคือ...จากมาตรการสนับสนุนด้านภาษีจากกรมสรรพสามิต เพื่อสนับสนุนการผลิตรถ EV (มาตรการ 3.5)...มีค่ายรถยนต์เข้ามาลงนามร่วมกรมสรรพสามิตแล้ว 25 ราย...ซึ่งจะมีการลงทุนกว่า 8 หมื่นล้านบาท ซึ่งมีทั้งผลิตสัญชาติญี่ปุ่น ยุโรป ไทย และ จีน ซึ่งผู้ผลิตสัญชาติจีนเป็นผู้มายื่นขอรับการสนับสนุนมากที่สุด
ถึงตอนนี้วงการอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยกำลังถูกท้าทายอย่างหนัก...ไม่ใช่ผู้ผลิตรถยนต์ที่ถูกท้าทาย...แต่คือผู้ผลิตชิ้นส่วนประกอบรถยนต์สันดาปภายในหลายหมื่นรายที่จะหายไป ซึ่งส่วนใหญ่คือผู้ประกอบการสัญชาติไทย...สิ่งที่รัฐบาลต้องทำตอนนี้คือช่วยให้พวกเขาปรับตัว เปลี่ยนรูปแบบการผลิตเพื่อรองรับกับอุตสาหกรรมรถ EV ที่กำลังจะเกิดขึ้นในไทยให้ได้
การปิดสายการผลิตของ Subaru และ Suzuki แม้ว่าจะยังกระทบกับยอดขายเหล็กที่ใช้ในตัวถังไม่มากนัก แต่อนาคตไม่อาจรู้ได้ เพราะอย่าลืมว่าผู้ยื่นขอสนับสนุน รถ EV 3.5 มากที่สุดคือ ค่ายรถยนต์จากจีน แล้วจีนก็มีกำลังการผลิตเหล็กที่ล้นตลาดอยู่จำนวนมหาศาลเนื่องจากภาคอสังหาริมทรัพย์ในจีนซึ่งเป็นผู้บริโภคหลักของอุตสาหกรรมเหล็กกำลังเผชิญวิกฤตอย่างหนัก....ดังนั้นสายการผลิตรถ EV จีนในไทยอาจเป็นแหล่งระบายสต๊อกชั้นเยี่ยมให้กับเหล็กจีน...ในเมื่อไทยต้องควักกระเป๋าอุดหนุนค่ายรถจากจีนแล้ว...ก็ต้องวางกติกาด้วยว่าต้องใช้เหล็กในไทยด้วย...!! เราจะเอาแค่กล่องว่า “EV3.5ช่วยลดคาร์บอน 2.4 แสนตันคาร์บอน”...!! มันไม่คุ้มเลย
พงษ์พันธุ์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี