'อนุทิน-ศุภมาส'ร่วมแถลงแนวทาง'การสร้างกำลังคนรองรับกลุ่มอุตสาหกรรมแห่งอนาคต'ตั้งเป้า 5 ปีผลิตด้านเซมิคอนดักเตอร์ 80,000 คน - EV 150,000 คน - AI 50,000 คนพร้อมพัฒนาระบบนิเวศสนับสนุนการลงทุนใหม่ๆ ยกระดับประเทศสู่ศูนย์กลางอุตสาหกรรมขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง
เมื่อวันที่ 17 มิ.ย.2567 ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้รับมอบหมายจากนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้เป็นประธานในพิธีเปิดงานแถลงวิสัยทัศน์ “เตรียมทัพกำลังคน สร้างอุตสาหกรรมอนาคต” IGNITE THAILAND : Future Workforce for Future Industry พร้อมด้วย น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) แถลงแนวทาง “การสร้างกำลังคนรองรับกลุ่มอุตสาหกรรมแห่งอนาคต” โดยมีรัฐมนตรี ผู้บริหารทั้งภาครัฐ และเอกชนเข้าร่วม
โดย นายอนุทิน กล่าวว่า จากการที่นายกฯ ไปเจรจาการค้า การลงทุน กับบริษัทใหญ่ๆ มากมายทั่วโลก ซึ่งบริษัทเหล่านี้ส่วนใหญ่ล้วนมีความเชื่อมั่นในศักยภาพของคนไทย ล่าสุด ได้ข่าวว่า บริษัท APPLE ก็จะมาตั้ง APPLE Campus หรือสำนักงานอีกแห่งที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เพื่อเป็นศูนย์การพัฒนา “นักพัฒนาซอฟท์แวร์” (Software Developer) การเชื้อเชิญอุตสาหกรรมใหม่ๆ เข้ามาลงทุนจึงไม่ใช่แค่ทางเลือก แต่เป็นการพัฒนาที่สำคัญ ที่จะสามารถเปลี่ยนแปลงโครงสร้างอุตสาหกรรม เศรษฐกิจของประเทศให้ไปสู่อุตสาหกรรมไฮเทค (High Tech) ที่มีมูลค่าสูงขึ้น ทั้งนี้ นวัตกรรมต่างๆที่ใช้มาในอดีตกำลังค่อยๆ ถูกแทนที่ไปด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ชั้นสูงมากมาย ยกตัวอย่างเช่นอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์และอิเล็กทรอนิกส์ขั้นสูง (Semiconductor and Advanced Electronics) ยานยนต์ไฟฟ้า (EV) และปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่ประเทศไทยเรามีพื้นฐานอยู่ในทุกๆ ด้านและพร้อมที่จะต่อยอด
นายอนุทิน กล่าวต่อว่า นอกจากความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ที่รัฐบาลเร่งสร้าง และเชื้อเชิญการลงทุนต่างๆ วันนี้ กระทรวง อว. ได้เตรียมการส่วนที่สำคัญที่สุด คือ การพัฒนาและเพิ่มทักษะของคน (Upskill / Reskill) อยู่ในขณะนี้ ประกอบไปด้วยกลไก 4 ด้าน ได้แก่ 1.โปรแกรมการพัฒนาคน ที่มีทั้งการทำหลักสูตรแบบใหม่ การเน้นการฝึกงาน และการร่วมมือกับศูนย์ฝึกอบรม 2.การให้สิทธิประโยชน์ทางการเงิน สำหรับการฝึกอบรม 3.การสนับสนุนงบประมาณ ที่ช่วยเหลือในการพัฒนาทักษะ และ 4.การประสานงานระหว่างภาคการศึกษา และภาคเอกชน ทั้งไทยและต่างประเทศ
“ผมขอเชิญคนไทยทุกคนที่กระหายการเรียนรู้และการพัฒนา มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในโครงการเหล่านี้ เพื่อพัฒนาทักษะตนเอง เตรียมความพร้อมในการทำงานในอุตสาหกรรมไฮเทค และช่วยเปลี่ยนแปลงโครงสร้างอุตสาหกรรมไปด้วยกัน” นายอนุทิน กล่าว
ด้าน น.ส.ศุภมาส กล่าวว่า กระทรวง อว. มีแผนงานในการสร้าง และพัฒนากำลังคนที่ครอบคลุมในทุกระดับ ตั้งแต่กำลังคนที่อยู่ในภาคอุตสาหกรรม นักวิจัย รวมถึงการผลิตบัณฑิตในระดับปริญญาตรี โท เอก โดยในระยะ 5 ปีข้างหน้าตั้งเป้าผลิตกำลังคนด้านเซมิคอนดักเตอร์และอิเล็กทรอนิกส์ขั้นสูงไว้ที่ 80,000 คน ด้าน EV 150,000 คน และด้าน AI 50,000 คน ปัจจุบันได้เริ่มดำเนินการผลิตกำลังคนรองรับกลุ่มอุตสาหกรรมแห่งอนาคตไปแล้ว 6 โครงการ ซึ่งมีผลการดำเนินงานเป็นที่น่าพอใจ โดยมี 3 โครงการที่เป็น Quick Win เห็นผลในระยะสั้น ได้แก่
1.การพัฒนาและเพิ่มทักษะ (Upskill/Reskill) 2.โครงการ Coop+ หรือ สหกิจศึกษาพลัส ที่นำนักศึกษาในสาขาที่เกี่ยวข้องกับเซมิคอนดักเตอร์มาพัฒนาทักษะเพิ่มเติม และฝึกงานกับภาคอุตสาหกรรม หลังจบการศึกษาแล้วยังสามารถทำงานกับบริษัทได้ทันที 3.โครงการสหกิจศึกษาในต่างประเทศ โดยการส่งนักศึกษาไปฝึกงานในมหาวิทยาลัยหรืออุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับ 3 ด้านนี้ในต่างประเทศ ขณะที่โครงการที่ 4 ถึง 6 เป็นแผนระยะกลางและยาว ที่จะเห็นผลภายใน 2-4 ปี
”ขณะเดียวกันยังมีแผนการยกระดับห้องปฏิบัติการในมหาวิทยาลัยและสถาบันวิจัย ให้เป็นศูนย์ฝึกอบรม (Training Centers) เพื่อรองรับการพัฒนากำลังคนด้านเซมิคอนดักเตอร์และอิเล็กทรอนิกส์ขั้นสูง EV และ AI ทั้งในกรุงเทพฯ และภูมิภาค โดยตั้งเป้าว่าภายใน 5 ปี จะมีจำนวน 10 แห่ง ด้าน EV จำนวน 15 แห่ง และด้าน AI จำนวน 9 แห่ง นอกจากนี้ กระทรวง อว. จะนำ 6 แนวทางนี้ไปขยายผลให้ครอบคลุม 8 อุตสาหกรรมใน IGNITE THAILAND โดยได้เริ่มดำเนินการแล้ว ที่สำคัญกระทรวง อว. ยังมีแผนจัดสรรทุนการศึกษาตั้งแต่ระดับปริญญาตรีในการผลิตคนใน 8 กลุ่มอุตสาหกรรมดังกล่าวตามนโยบายนายกฯ ทั้งที่เป็นทุนภายใต้การกำกับของกระทรวง อว. หรือร่วมกับหน่วยงานอื่น เช่น กองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) โดยได้มีการหารือการจัดสรรทุนของ กยศ. สำหรับนักศึกษาใน 8 กลุ่มอุตสาหกรรมนี้แล้ว” น.ส.ศุภมาส กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี