นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้รับรายงาน น.ส.อุษาศรีเขียวระยับ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม ถึงโอกาสการจำหน่ายสินค้ากลุ่มเครื่องสำอางในช่องทางออนไลน์ของเวียดนาม
โดยทูตพาณิชย์ได้ให้ข้อมูลว่าตลาดสำหรับสินค้ากลุ่มเครื่องสำอาง และสินค้า Personal Care ในเวียดนาม ยังเป็นตลาดขนาดใหญ่และมีศักยภาพการเติบโตสูง จากการขยายตัวของเศรษฐกิจ และการดำเนินนโยบายและมาตรการของรัฐบาล เพื่อส่งเสริมการจ้างงานของผู้หญิงทำให้ผู้หญิงเข้าสู่ระบบการทำงานมากขึ้น การเปลี่ยนแปลงนี้ ทำให้มีการเพิ่มขึ้นของผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองความต้องการที่หลากหลายมากขึ้น และยังมีปัจจัยการขยายตัวของเมืองอย่างรวดเร็ว วิถีชีวิตที่วุ่นวาย และกำลังซื้อที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้สินค้าสำหรับผู้หญิงที่จำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น เพราะการช้อปปิ้งผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ ให้ความสะดวกสบาย สามารถเลือกและเปรียบเทียบผลิตภัณฑ์ได้ รวมทั้งมีโปรแกรมส่งเสริมการขาย และตัวเลือกการชำระเงินที่หลากหลาย ทำให้แพลตฟอร์มเหล่านี้กลายเป็นแหล่งช็อปปิ้งยอดนิยมสำหรับผู้บริโภคจำนวนมาก โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับผู้หญิงมีการเติบโตอย่างมากในช่องทางออนไลน์
ข้อมูลจากบริษัท McKinsey & Company ชี้ให้เห็นว่า อี-คอมเมิร์ซจะยังคงเป็นช่องทางการขายผลิตภัณฑ์ความงามที่เติบโตเร็วที่สุด มีอัตราการเติบโต 12% ระหว่างปี 2565-2570 และสถิติจากบริษัท Statista ระบุว่าตลาดอี-คอมเมิร์ซด้านความงามและการดูแลตนเองทั่วโลกมีมูลค่าประมาณ 119 พันล้านเหรียญสหรัฐ และคาดว่าจะสูงถึง 184 พันล้านเหรียญสหรัฐภายในปี 2571
ตลาดสินค้าเครื่องสำอางในเวียดนามเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา การขยายตัวทางเศรษฐกิจ และจำนวนผู้หญิงเข้ามาทำงานในเมืองใหญ่และเมืองท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น ทำให้สินค้าเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ความงามมีความต้องมากขึ้น ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา การจำหน่ายสินค้ากลุ่มเครื่องสำอางและสินค้า Personal Care ผ่านช่องทางออนไลน์บน E-Commerce Platform และ Social Media เติบโตขึ้นอย่างมาก เนื่องจากสามารถตอบโจทย์ความต้องการความสะดวกในการซื้อสินค้า ช่องทางออนไลน์สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายผู้บริโภครุ่นใหม่ และสามารถสร้างการรับรู้แบรนด์สินค้าอย่างต่อเนื่องด้วยต้นทุนที่ต่ำ
“เวียดนามยังคงเป็นตลาดศักยภาพสำหรับสินค้าเครื่องสำอาง การเติบโตของช่องทางออนไลน์ ทั้งแพลตฟอร์ม E-Commerce และ Social Media ทำให้ผู้บริโภคเข้าถึงสินค้าได้มากขึ้น และผู้ขายสามารถทำกิจกรรมส่งเสริมการขายด้วยต้นทุนที่ต่ำ สร้างการรับรู้ได้ตรงตามเป้าหมายมากขึ้น ตลาดสินค้าเครื่องสำอางและสินค้า Personal Care ในเวียดนาม มีการแข่งขันสูง โดยเฉพาะสินค้านำเข้าจากต่างประเทศ และปัจจุบันสินค้าแบรนด์เวียดนามมีการพัฒนาสินค้าให้สามารถแข่งขันได้มากขึ้น ผู้ประกอบการไทยที่สนใจขยายตลาดผลิตภัณฑ์ความงามมาในเวียดนามจึงควรศึกษาความต้องการผู้บริโภค รวมทั้งสร้างความแตกต่างของสินค้า เพื่อให้ผู้บริโภครับรู้และจดจำรวมถึงการใช้ประโยชน์จากช่องทางออนไลน์ในการประชาสัมพันธ์ และจำหน่ายสินค้า” นายภูสิตกล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี