นางสาวดวงดาว มหะนาวานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซาบีน่า หรือ SABINA เปิดเผยว่า จากการประเมินสถานการณ์ยอดขายในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ (เมษายน ถึง มิถุนายน) พบว่า บริษัทฯยังคงรักษาอัตราการเติบโตของยอดขายไว้ได้อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะช่องทางออนไลน์ (Non Store Retailing หรือ NSR) ที่ขยายตัวได้มากกว่าที่คาดไว้ ทำให้คาดว่า ผลประกอบการช่วงครึ่งแรกของปีนี้จะเติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ แม้จะมีปัจจัยท้าทายจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ

“หลังจากประเมินภาพรวมครึ่งปีแรกแล้ว เรายังคงยืนยันเป้าหมายการเติบโตในปีนี้ไว้ที่ 5-10% ซึ่งเชื่อว่าจะทำได้แน่นอน และจะเป็นอีกครั้งที่รายได้ทำสถิติสูงสุดใหม่ได้อย่างต่อเนื่อง โดยปัจจัยสนับสนุนหลักในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมามาจากแรงหนุนจากคอลเลคชั่น “บราเลส” (Braless) ที่เรานำกลับมาทำตลาดใหม่อีกครั้ง ทำให้มีกำลังซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง และเป็นที่น่ายินดีที่ล่าสุดภาพยนตร์โฆษณา “บราเลส” เปิดอกรับความสบาย ของ SABINA ได้รับรางวัล Bronze หมวด Film จากงาน Cannes Lions 2024 ซึ่งเป็นเทศกาลระดับโลกด้านความคิดสร้างสรรค์และงานโฆษณา ถือเป็นโอลิมปิกแห่งวงการโฆษณา ที่ตอกย้ำความสำเร็จให้กับแคมเปญนี้ของเรา” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SABINA กล่าว

ขณะที่กลยุทธ์ความร่วมมือหรือการคอลแลปกับแบรนด์ “เจนสุดา” ที่ทำให้ SABINAเป็นมากกว่าชุดชั้นใน รวมถึงความร่วมมือระหว่าง“ซาบีน่า คิดส์” กับ “แคร์ แบร์ส” ที่เปิดตัวในช่วงเปิดเทอมก็ได้รับการตอบรับที่ดีทำให้บริษัทฯยังรักษาโมเมนตัมของยอดขายในไตรมาสที่ 2 ไว้ได้ขณะที่สัญญาณการฟื้นตัวของช่องทางรับจ้างผลิตหรือ OEM เริ่มดีขึ้นก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสนับสนุนที่สำคัญ

สำหรับช่วงครึ่งหลังปี 2567 บริษัทฯ เตรียมเปิดตัวแคมเปญใหม่ซึ่งมั่นใจว่าจะช่วยกระตุ้นตลาดได้ต่อเนื่อง และเชื่อว่ารัฐบาลจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและสนับสนุนการจับจ่ายใช้สอยของประชาชนในช่วงครึ่งปีหลังซึ่ง SABINA ในฐานะผู้ผลิตสินค้าอุปโภคจะได้รับผลบวกจากมาตรการดังกล่าวทั้งนี้บริษัทฯ อยู่ระหว่างการประเมินและวางแผนทำตลาดเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์นอกจากนี้ในช่วงครึ่งหลังยังมีเมกะแคมเปญที่จะทำร่วมกับแพลตฟอร์มช้อปปิ้งออนไลน์ชั้นนำ ทั้ง 9.9 และ 11.11 ซึ่งเป็นแคมเปญใหญ่ประจำปีที่ผลิตภัณฑ์ SABINA ครองตำแหน่งอันดับหนึ่งยอดขายสูงสุดสินค้าในกลุ่มแฟชั่นมาอย่างต่อเนื่อง

ส่วนความคืบหน้าในการทำตลาดต่างประเทศ หลังจากลงทุนถือหุ้นใน MODA ฟิลิปปินส์ ยังคงเป็นไปตามแผน โดยจะเน้นการทำตลาดออนไลน์ รวมถึงผ่านแอปพลิเคชั่น TikTok ให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้ามากขึ้น พร้อมกับแผนขยายสาขาจาก 30 แห่งในปี 2566 เป็น 45 แห่งในปีนี้ ซึ่งการรับรู้รายได้ยอดขายจาก MODA มีทิศทางที่ดีและมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นจากการขยายช่องทางขายที่หลากหลายขึ้นในอนาคตอีกด้วย