ดร.ชัยชาญ เจริญสุข ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) เปิดเผยว่า ดูจากตัวเลขภาวะการค้าระหว่างประเทศของไทยเดือนพฤษภาคม 2567 กับเดือนเดียวกันของปีก่อน การส่งออกมีมูลค่า 26,219.5 ล้านเหรียญสหรัฐขยายตัว 7.2% และมีมูลค่าในรูปเงินบาทเท่ากับ 960,220 ล้านบาท ขยายตัว 15.1% (เมื่อหักทองคำ น้ำมัน และอาวุธยุทธปัจจัย พบว่าการส่งออกในเดือนพฤษภาคมขยายตัว 6.5%) ในขณะที่การนำเข้ามีมูลค่า 25,563.3 ล้านเหรียญสหรัฐ หดตัว 1.7% และมีมูลค่าในรูปเงินบาทเท่ากับ 947,007 ล้านบาท ขยายตัว5.5% ส่งผลให้ดุลการค้าของประเทศไทยในเดือนพฤษภาคม 2567เกินดุลเท่ากับ 656.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐหรือเท่ากับ 13,214 ล้านบาท
ส่งผลให้ภาพรวมการค้าระหว่างประเทศของไทยในเดือนมกราคม-พฤษภาคม ของปี 2567 เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน พบว่า ไทยส่งออกรวมมูลค่า 120,493.4 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 2.6% และมีมูลค่าในรูปเงินบาทเท่ากับ 4,298,248 ล้านบาท ขยายตัว 8.1% (เมื่อหักทองคำ น้ำมัน และอาวุธยุทธปัจจัย พบว่า การส่งออกในช่วงมกราคม-พฤษภาคมขยายตัว 4.3%) ในขณะที่การนำเข้ามีมูลค่า 125,954.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐขยายตัว 3.5% และมีมูลค่าในรูปเงินบาทเท่ากับ 4,542,224 ล้านบาท ขยายตัว 8.8% ส่งผลให้ดุลการค้าของประเทศไทยในเดือนมกราคม-พฤษภาคม 2567 ขาดดุลเท่ากับ 5,460.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็น 243,976 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม สรท. คงคาดการณ์การส่งออกปี 2567 เติบโตที่ 1-2% (ณ เดือนกรกฎาคม 2567) โดยมีปัจจัยเสี่ยงที่ต้องเฝ้าระวังในครึ่งปีหลังที่สำคัญ ได้แก่ ปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ยืดเยื้อ สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีนการตั้งกำแพงภาษีระหว่างกันและชาติพันธมิตรอาจส่งผลกระทบต่อระบบการค้าโลกรวมถึงการค้าระหว่างประเทศของไทย และต้องจับตาเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯโดยตรงนี้จะมีผลต่อการค้าไทยในช่วงไตรมาสแรกปี’68
นอกจากนี้ ต้นทุนภาคการผลิต ทรงตัวในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง อาทิ ต้นทุนพลังงาน อาทิ น้ำมันและไฟฟ้า ค่าแรงขั้นต่ำที่อยู่ระหว่างพิจารณาปรับขึ้น รวมถึงต้นทุนค่าระวางเรือ ค่าใช้จ่ายส่วนเพิ่ม (Surcharge) และค่าใช้จ่ายภายในประเทศ (Local Charge) ปรับตัวสูงขึ้นทุกเส้นทาง ปัญหาการขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์จากการเร่งผลิตและส่งออกของจีนส่งผลให้ค่าระวางเรือเพิ่มสูงขึ้นกว่า 300% โดยภาคส่งออกถูกคิดค่าระวางเรือสูงโดยหากตู้สั้นจะถูกคิด 4,000-5,000 ดอลลาร์สหรัฐ หากเป็นตู้ยาวถูกคิดเฉลี่ยอยู่ที่ 7,000-8,000 ดอลลาร์สหรัฐ และหากสงครามในตะวันออกกลางและยูโรปยืดเยื้อโอกาสค่าระวางเรือสูงขึ้นอีกได้ แต่โดยรวมตู้ขนส่งสินค้าไม่ขาดแคลนมีเพียงพอแต่มีระยะเวลาขนส่งมีระยะนานขึ้น ส่วนผลความผันผวนอัตราแลกเปลี่ยนไม่กังวล เนื่องจากมองว่าครึ่งหลังปีเงินบาทจะยังคงอ่อนค่าอยู่ที่ 36-37 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐถือว่าแข่งขันการค้าไทย
ขณะที่การเข้าถึงสินเชื่อของภาคการผลิตมีปัญหาต่อเนื่อง ทำให้ขาดสภาพคล่อง และภาคการผลิตรายสินค้ามีแนวโน้มฟื้นตัวค่อนข้างจำกัด ดังนั้น สรท.มีข้อเสนอแนะที่สำคัญ ประกอบด้วย 1.ต้องกำกับดูแลต้นทุนการผลิตเพื่อให้การส่งออกของไทยยังคงขีดความสามารถในการแข่งขันได้ อาทิ ต้นทุนพลังงาน ค่าไฟฟ้า ค่าแรงขั้นต่ำและค่าขนส่งสินค้าทางทะเลโดยเฉพาะค่าระวางเรือ ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม 2.ผู้ส่งออกต้องวางแผนการขนส่งด้วยการจองระวางเรือล่วงหน้า รวมถึงการเจรจา กับคู่ค้าเพื่อปรับอัตราค่าขนส่งให้สอดคล้องกับค่าระวางในตลาดที่เพิ่มสูงขึ้นในทุกเส้นทาง รวมถึงต้องบริหารจัดการสต๊อกสินค้าให้เหมาะสม 3.สนับสนุนและส่งเสริมการลงทุนในอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพในการส่งออก อาทิ อุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีการลงทุนเพิ่มขึ้นในช่วงก่อนหน้า 4.สนับสนุนแหล่งเงินทุนให้กับภาคธุรกิจ ให้เพียงพอต่อการหมุนเวียนกระแสเงินสดและการผลิตเพื่อการส่งออก อาทิ การจัดหาแหล่งเงินทุนดอกเบี้ยต่ำ รวมถึงให้คำปรึกษาทางการเงินแก่ผู้ประกอบการ SMEs ในการวางแผนบริหารจัดการ5.เร่งส่งเสริมกิจกรรม Trade Promotion ในต่างประเทศมากขึ้น เพื่อเสริมสร้างภาพลักษณ์และสร้างโอกาสให้สินค้าไทยในสายตาคู่ค้าและผู้บริโภคในต่างประเทศ โดยเฉพาะในช่วงที่การเมืองระหว่างประเทศมีความผันผวน และ 6.เร่งปรับโครงการสร้างการส่งออกของไทย เพื่อรองรับการแข่งขันในระยะยาว โดยมุ่งเน้นให้ประเทศไทยก้าวสู่การเป็น Trading Nation
“ที่สำคัญอยากให้สถานการณ์การเมืองในประเทศจะต้องมีเสถียรภาพและนิ่งให้มากขึ้น จะทำให้การส่งออกในครึ่งหลังปีนี้ยังมีโอกาสขยายตัวได้ โดยหากผลักดันการส่งออกครึ่งหลังปี’67 ได้ถึง 142,2000-145,2000 ล้านดอลลาร์สหรัฐหรือเฉลี่ยต่อเดือนมากกว่า 23,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐได้ โอกาสตัวเลขการส่งออกไทยเฉลี่ยทั้งปีเติบโตเป็นบวก 1-2% ได้ตามเป้าหมายที่คาดการณ์ไว้ได้แน่นอน”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี