นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า กระทรวงพาณิชย์เปิดเผยว่าภาพรวมดัชนีค่าบริการขนส่งสินค้าทางถนน ไตรมาสที่ 2 ปี 2567 ปรับตัวเพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปี 2566 หลังจากที่ชะลอตัวตั้งแต่ไตรมาสที่ 2 ปี 2566 และปรับตัวลดลงตั้งแต่ไตรมาสที่ 4 ปี 2566 สาเหตุจากการสูงขึ้นของต้นทุนด้านน้ำมันเชื้อเพลิง และการเงิน ทั้งอัตราดอกเบี้ย อัตราค่าจ้างยังอยู่ในระดับสูง ประกอบกับปริมาณการขนส่งสินค้าทางถนนมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น จากความต้องการขนส่งที่ขยายตัวตามกิจกรรมทางเศรษฐกิจภายในประเทศโดยเฉพาะภาคการส่งออก และพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ใช้บริการแบบดิจิทัลมีมากขึ้นส่งผลให้กิจกรรมการขนส่งแบบถึงมือผู้รับ (Last-Mile Delivery)เติบโตต่อเนื่อง
ดัชนีค่าบริการขนส่งสินค้าทางถนน เมื่อพิจารณาตามโครงสร้างแบ่งตามกิจกรรมการผลิตเพิ่มขึ้น 2.0% (YoY) เป็นการปรับเพิ่มขึ้นของค่าบริการขนส่งทุกหมวดสินค้า โดยเฉพาะค่าบริการขนส่งหมวดผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ที่เพิ่มขึ้น 2.3% (ผลิตภัณฑ์โลหะประดิษฐ์ สิ่งทอ ผลิตภัณฑ์คอมพิวเตอร์และอิเล็กทรอนิกส์) ตามด้วย ค่าบริการขนส่งหมวดผลิตภัณฑ์จากเหมือง 1.1% (กลุ่มถ่านหินและลิกไนต์ปิโตรเลียมดิบและก๊าซธรรมชาติ) และหมวดผลิตภัณฑ์เกษตรกรรมและการประมง 0.7% (กลุ่มผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร) และตามโครงสร้างแบ่งตามประเภทรถเพิ่มขึ้น 0.4 %(YoY) อาทิ ค่าบริการขนส่งด้วยรถตู้บรรทุก เพิ่มขึ้น 1.4% ตามด้วย รถบรรทุกวัสดุอันตราย 1.2% รถบรรทุกเฉพาะกิจ 0.8% รถกระบะบรรทุก 0.7% และรถบรรทุกของเหลว 0.7% ขณะที่รถพ่วง ลดลง 0.3% ส่วนรถกึ่งพ่วงบรรทุกวัสดุยาว ดัชนีราคาฯ ไม่เปลี่ยนแปลง
การปรับเพิ่มขึ้นของดัชนีค่าบริการขนส่งสินค้าทางถนนดังกล่าว สอดคล้องกับดัชนีราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่ขายปลีกในประเทศ โดยไตรมาสที่ 2 ปี 2567 เทียบกับไตรมาสเดียวกันของปี 2566 สูงขึ้น 4.41% ราคาโดยเฉลี่ยน้ำมันดีเซลหมุนเร็วตลาดสิงคโปร์ และราคาน้ำมันดิบดูไบ ไตรมาสที่ 2 ปี 2567 เทียบกับไตรมาสเดียวกันของปี 2566 เพิ่มขึ้น 8.30% และ 10.17 ตามลำดับ นอกจากนี้ การส่งออกที่ขยายตัวต่อเนื่องติดต่อกัน 2 เดือน (เมษายน 2567 ขยายตัว6.8% พฤษภาคม ขยายตัว 7.2%) และมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก รวมถึงอัตราดอกเบี้ย และอัตราอัตราค่าจ้างยังอยู่ในระดับสูงประกอบกับปริมาณการขนส่งสินค้าทางถนนมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น จากความต้องการขนส่งที่ขยายตัวตามกิจกรรมทางเศรษฐกิจภายในประเทศ และพฤติกรรมผู้บริโภคแบบ New Normal ที่ใช้บริการในรูปแบบดิจิทัลมากขึ้น ส่งผลให้ธุรกิจ e-Commerce และกิจกรรมการขนส่งแบบถึงมือผู้รับ (Last-Mile Delivery)เติบโตต่อเนื่องทำให้ดัชนีค่าบริการขนส่งสินค้าทางถนนเพิ่มขึ้น
แนวโน้มดัชนีค่าบริการขนส่งสินค้าทางถนน ไตรมาสที่ 3 ปี 2567 คาดว่าจะปรับตัวสูงขึ้น มีปัจจัยสำคัญจากต้นทุนของผู้ประกอบการที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ประกอบด้วย ราคาน้ำมันเชื้อเพลิง อัตราค่าจ้างและดอกเบี้ยที่ยังอยู่ระดับสูง ขณะที่การส่งออก และภาพรวมเศรษฐกิจไทยที่มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นส่งผลดีต่อความต้องการขนส่ง ประกอบกับฐานที่ใช้คำนวณดัชนีไตรมาสที่ 3 ปี 2566 อยู่ในระดับที่ไม่สูงมากนัก ส่งผลให้ดัชนีค่าบริการขนส่งสินค้าทางถนนในไตรมาสที่ 3 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม การที่สหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย และภาคีเครือข่าย ได้ยื่นข้อเรียกร้องให้ภาครัฐออกมาตรการตรึงราคาน้ำมันดีเซล อาจส่งผลให้ดัชนีค่าบริการขนส่งสินค้าทางถนนไม่เป็นไปตามที่คาดได้
นายพูนพงษ์กล่าวว่า รูปแบบการขนส่งสินค้าในประเทศเป็นการขนส่งทางถนนเป็นหลัก เนื่องด้วยลักษณะของการขนส่งทางถนนสามารถส่งตรงจากผู้ส่ง (ต้นทาง) ถึงผู้รับ (ปลายทาง) และสามารถเชื่อมโยงการขนส่งรูปแบบอื่นที่ไม่สามารถขนส่งจากต้นทางถึงปลายทางได้ ดังนั้นการขนส่งทางถนนจึงมีบทบาทค่อนข้างสูง จากข้อมูลของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ปี 2565 ปริมาณการขนส่งทางถนนมีสัดส่วนถึง 79.48% ของการขนส่งรวม เพิ่มขึ้นจาก 78.72% ในปี 2564 ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากความต้องการขนส่งที่เพิ่มขึ้นตามการขยายตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจในประเทศ ขณะที่ศูนย์วิจัยกรุงศรีรายงานว่า ต้นทุนการขนส่งสินค้าทางถนนสูงกว่าการขนส่งรูปแบบอื่น (ยกเว้น ทางอากาศ) เนื่องจากมีสัดส่วนของต้นทุนผันแปรสูง อาทิ
ค่าน้ำมันเชื้อเพลิง (สัดส่วน 49% ของต้นทุนรวม)และค่าจ้างขับรถ (สัดส่วน 32%) เนื่องจากขาดแคลนแรงงาน ขณะที่การปรับขึ้นค่าบริการขนส่งทำได้จำกัด เนื่องจากการแข่งขันที่รุนแรง ทั้งการแข่งขันกับผู้ประกอบการในประเทศและต่างชาติ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี