นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวปาฐกถาและเสวนาพิเศษ ในหัวข้อ “พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ให้ก้าวไกลอย่างยั่งยืน” ว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยเป็นอุตสาหกรรมหลักที่เชื่อมโยงหลายอุตสาหกรรม ซึ่งส่งผลกระทบไปภาคเศรษฐกิจได้โดยปี 2566 ที่ผ่านมา พบว่า หนี้เสีย(NPL) อยู่ที่ 3.5% และกลุ่มหน้าผาหนี้เสีย หรือ กลุ่มเฝ้าระวังพิเศษ ค้างชำระ 1-3 เดือน (SM) อยู่ที่ 5% จากสินเชื่อที่อยู่อาศัยบุคคลคงค้างทั่วประเทศ ที่มีประมาณ 4.95 ล้านล้านบาท จากเมื่อ 10 ปีก่อน มีกลุ่ม NPL มีเพียง 2.3% และกลุ่ม SM 1.5%
“ปัญหาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์วันนี้ฝั่งผู้ซื้อไม่มีกำลังซื้อ เพราะมีปัญหาหนี้ครัวเรือนต่างๆ เพิ่มมากขึ้นปริมาณอาคารชุดเหลืออยู่สูงถึงกว่า 200,000 ยูนิต NPL สูงถึง 2 แสนล้านบาทเพิ่มขึ้น 16% จากเดิมที่อยู่ราวๆ 1.8 แสนล้านบาทและหนี้ครัวเรือนแตะ 90% ต่อจีดีพี ขณะที่ผู้ขายขายได้ลดลง รัฐบาลจึงต้องโดดเข้ามาช่วยแก้ปัญหาเพื่อไม่ให้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์กระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจไทย” นายพิชัยกล่าว
ทั้งนี้ สิ่งที่รัฐบาลจะดำเนินการ เช่น 1.เปิดทางต่างชาติเช่าที่ดินยาว 99 ปี โดยทบทวนการกำหนดระยะเวลาของทรัพย์อิงสิทธิตามพระราชบัญญัติทรัพย์อิงสิทธิ พ.ศ. 2562 กำหนดให้ทรัพย์อิงสิทธิมีกำหนดเวลาได้ไม่เกิน 99 ปี จากเดิมอยู่ที่ 30 ปี และต่อได้อีกครั้งละ 30 ปีเพื่อดึงกำลังซื้อจากต่างชาติ โดยไม่ได้ให้กรรมสิทธิ์ที่ดิน เท่ากับที่ดินยังเป็นของคนไทย แต่ให้อำนาจการใช้ที่ดินแก่ต่างชาติเทียบเท่าเจ้าของที่ดินโดยจะกำหนดโซนนิ่งพื้นที่ และข้อห้ามทำเกษตรกรรม รวมถึงราคาบ้านและที่ดินต้องมีราคา 30-40 ล้านบาทขึ้นไป 2.ขยายเวลากู้ให้แก่ผู้บริโภคสูงสุดถึงอายุ 80 ปี โดยจะมีการเข้าหารือกับกลุ่มธนาคารพาณิชย์ เพื่อให้ช่วยเหลือประชาชนในการเปิดสินเชื่อที่อยู่อาศัยนานถึงอายุ 80 ปี จากก่อนหน้านี้รัฐบาลได้ให้ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ขยายเวลากู้บ้านคนทั่วไปผ่อนได้สูงสุดถึงอายุ 80 ปี และราชการผ่อนได้สูงสุดถึงอายุ 85 ปี เชื่อว่านโยบายนี้จะช่วยแบ่งเบาปัญหา NPL บ้านได้ 30% และ3.ผ่อนปรนนโยบาย LTV เตรียมคุยกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จากข้อมูลล่าสุด พบว่า สถานการณ์อสังหาฯ ยังไม่ดีขึ้น ทั้งในแง่ซัพพลายและดีมานด์ การผ่อนปรนนโยบาย LTV น่าจะเป็นตัวช่วยให้ตลาดอสังหาฯให้ดีขึ้น
นอกจากนี้ กระทรวงการคลังยังมีความกังวลใจเกี่ยวกับปัญหาหนี้ครัวเรือนที่มีปริมาณเพิ่มขึ้น โดยที่ครัวเรือนจะเกิดจากปัญหาเป็นหนี้ทั้งอสังหาริมทรัพย์ หนี้รถยนต์ หนี้บัตรเครดิต ซึ่งหนี้เหล่านี้มีมากถึง 90% ของจีดีพี ถือว่ามีสัดส่วนที่เพิ่มขึ้น ดังนั้น กระทรวงการคลังจะมีการหารือกับทางธนาคารแห่งประเทศไทยและสถาบันการเงิน
ต่างๆ เพื่อที่จะร่วมมือกันแก้ไขปัญหาหนี้เอ็นพีแอลที่เกิดจากหนี้ภาคครัวเรือนให้น้อยลง ซึ่งการแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือนคนที่จะมีความเข้าใจมากสุด คือ คนที่ปล่อยสินเชื่อ เพราะจะรู้ดีว่าหนี้แต่ละรายที่เกิดขึ้นจะมีการผ่อนปรนอย่างไร หากสามารถดำเนินการได้ก็จะเป็นประโยชน์ทั้งเจ้าหนี้และลูกหนี้
“การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ผูกติดกับเศรษฐกิจดีหรือไม่ดีเศรษฐกิจวันนี้ไม่ดีมานานแล้วและแย่ลงเติบโตลดลงแบบขั้นบันได แต่โดยรวมประเทศไทยมีภูมิประเทศดีกว่าหลายภูมิภาคพื้นที่ของไทยมากกว่า 300 ล้านไร่ เป็นพื้นที่ในการพัฒนาเชิงอุตสาหกรรมหากประเทศรอบของไทยไม่ว่าจะเป็นตะวันออกกลาง ญี่ปุ่น และอีกหลายประเทศยังมองว่าประเทศไทยมีศักยภาพอย่างเหมาะสมที่จะเข้ามาทำการค้าและการลงทุน ดังนั้นถ้าอยู่ที่การจัดการโดยเฉพาะปัญหาด้านโครงสร้าง และสิ่งอำนวยความสะดวกโครงสร้างพื้นฐานและการพัฒนาเทคโนโลยีรวมถึงการพัฒนาบุคลากร โดยเฉพาะกลุ่มที่อายุ 25-40 ปีที่จะต้องเสริมความรู้เพิ่มทักษะรองรับที่หลายประเทศจะเข้ามาทำการลงทุนในไทยเพิ่มในอนาคต” นายพิชัย กล่าว
ด้าน นายพรนริศ ชวนไชยสิทธิ์ นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทยกล่าวว่า คนที่ทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ถ้าที่อยู่อาศัยอยู่ระหว่างล้านบาทต้นๆ จะมีคนทำธุรกิจนี้น้อยมาก เพราะทำมาแล้วไม่คุ้มทุน และสิ่งที่ผู้ประกอบธุรกิจอสังหาริมทรัพย์กังวลเมื่อทำมาแล้ว ผู้ซื้อกู้ไม่ผ่านคนทำธุรกิจต้องรับผิดชอบ จึงถือว่าเป็นเรื่องที่เหนื่อยพอสมควร และมองว่าหากภาครัฐ โดยเฉพาะการเคหะแห่งชาติจะเข้ามาดูแลนำที่อยู่อาศัยที่การเคหะดูแลอยู่มาทำการให้เช่าให้ผู้มีรายได้น้อยจะถือเป็นเรื่องดี
ด้านนายอุทัย อุทัยแสงสุข กรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ขณะนี้ยอมรับว่าแย่ลง เกิดจากปัญหาเศรษฐกิจคนไม่มีกำลังซื้อเกิดจากปัญหานี้ครูเดินเยอะแต่ก็คาดหวังว่าเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งปีหลังอาจจะโตขึ้นสองถึง 2.5% ก็น่าจะส่งผลให้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ดีขึ้นมาบ้าง โดยทาง แสนสิริ จะไม่พูดถึงเรื่องการเช่า 99 ปี เพราะจะถูกตำหนิ แต่ในฐานะที่ทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ครบ 40 ปี โดยธุรกิจของกลุ่มยังมีอัตราการเติบโตต่อเนื่อง แม้เศรษฐกิจจะไม่ค่อยดี ซึ่งจะเน้นการพัฒนาคุณภาพระดับสูง ควบคู่กับการให้บริการแบบครบวงจร เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในระดับบนเป็นหลัก
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี