นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายในกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงกรณีนายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดินยื่นฟ้อง รมว.พาณิชย์ คณะกรรมการกลางว่าด้วยสินค้าและบริการ และอธิบดีกรมการค้าภายใน ต่อศาลปกครอง เพื่อสั่งการกระทรวงพาณิชย์หรือผู้ถูกฟ้องคดี เร่งควบคุมสินค้าทุกประเภทให้ราคาถูกลงว่า กระทรวงพาณิชย์มีหน้าที่ในการกำกับดูแลราคาสินค้า ที่จำเป็นต่อการครองชีพ และที่ผ่านมาได้ดำเนินมาตรการดูแลตามความเหมาะสม และตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในขณะนั้นๆ เพื่อไม่ให้ผู้บริโภคได้รับผลกระทบมากจนเกินไป และผู้ประกอบการต้องอยู่ได้จากภาวะที่ต้นทุนปรับตัวสูงขึ้น

ทั้งนี้ ในส่วนของสินค้าและบริการควบคุมที่มีอยู่จำนวน 57 รายการ กระทรวงพาณิชย์ได้พิจารณาแล้วว่าเป็นสินค้าและบริการที่จำเป็นต่อการครองชีพ ประกอบด้วย 11 หมวด ได้แก่ 1.กระดาษและผลิตภัณฑ์ 2.บริภัณฑ์ขนส่ง 3.ปัจจัยทางการเกษตร 4.ผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม 5.ยารักษาโลกและเวชภัณฑ์ 6.วัสดุก่อสร้าง 7.สินค้าเกษตรสำคัญ 8.สินค้าอุปโภค-บริโภค 9.อาหาร 10.อื่นๆ 11.บริการ และที่ผ่านมาได้มีมาตรการบริหารจัดการตามความเหมาะสมในแต่ละสถานการณ์ รวมทั้งยังมีการติดตามดูแลอย่างใกล้ชิดต่อเนื่อง  

ส่วนสินค้ารายการอื่นๆ ที่ไม่อยู่ในบัญชีควบคุม เป็นสินค้าที่มีการแข่งขันตามกลไกตลาด มีทั้งสินค้าที่ผลิตในประเทศ และสินค้านำเข้า ซึ่งกรมการค้าภายในได้มีการติดตามเช่นเดียวกัน และมีการดูแลอยู่ตลอด หากเห็นว่ามีแนวโน้มที่จะมีผลกระทบต่อผู้บริโภค ทั้งในเรื่องของสินค้าขาดแคลน หรือการปรับขึ้นราคาสินค้าเกินสมควร ก็สามารถที่จะนำเป็นสินค้าควบคุมและมีมาตรการกำกับดูแลได้ และที่ผ่านมาก็มีการดำเนินการเช่นนี้ หรือบางสินค้า เมื่อไม่มีความจำเป็นต้องควบคุม ก็มีการดำเนินการปลดออกจากบัญชีควบคุมก็มีเช่นกัน

สำหรับสินค้าปศุสัตว์ และผักสด กรมการค้าภายในมีการติดตามสถานการณ์ ทั้งรายวัน และรายสัปดาห์ หากมีปัญหาด้านราคาปรับตัวสูงขึ้น ก็จะเข้าไปกำกับดูแล ซึ่งที่ผ่านมาก็ได้ดูแลทั้งเนื้อสุกร ไก่สด และไข่ไก่ รวมถึงผักบางชนิด เช่น พริกขี้หนูจินดา มะนาว ในช่วงที่ราคาปรับตัวสูงขึ้น เช่น ช่วงเกิดปัญหาภัยแล้ง ช่วงหน้าร้อน และได้บริหารจัดการจนกลับเข้าสู่ภาวะปกติ

นายวัฒนศักย์กล่าวว่า ภาพรวมสถานการณ์ราคาสินค้าในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาเริ่มดีขึ้นหลังจากที่เริ่มมีฝนตกลงมา โดยส่งผลให้กลุ่มสินค้าเกษตรมีการปรับราคาดีขึ้น อาทิ ข้าวหอมมะลิ ราคาอยู่ที่ 15,790-16,500 บาท/กิโลกรัม, ข้าวโพด 11.11-11.90 บาท/ กิโลกรัม,มันสำปะหลัง 3.8-3.25 บาท/ กิโลกรัม

ส่วนทางด้านราคาผักสด ส่วนใหญ่ปรับตัวลดลง อาทิ ผักคะน้า 31.40 บาท/กิโลกรัม ถั่วฝักยาว 44.70 บาท/กิโลกรัม กะหล่ำปลี34 บาท/กิโลกรัม กวางตุ้ง 28.50 บาท/กิโลกรัม ผักกาดขาว 33.10 บาท/กิโลกรัม ผักบุ้งจีน 28.70 บาท/กิโลกรัม ต้นหอม 95 บาท/กิโลกรัม พริกขี้หนูจินดา 71.60 บาท/กิโลกรัม และมะนาว เบอร์ 1-2 ราคา 3.10 บาท/ผล

ในขณะที่หมูเนื้อแดง ราคาเฉลี่ย 132.63 บาท/กิโลกรัม เนื้อไก่ปรับลดลง โดยไก่น่อง-สะโพก 81.81 บาท/กิโลกรัม ไก่เนื้อน่อง 84.50 บาท/กิโลกรัม ไก่เนื้อสะโพก 86.44 บาท/กิโลกรัม ไก่เนื้ออก 85.56 บาท/กิโลกรัม ปลานิล72.50 บาท/กิโลกรัม ปลาทับทิม 105 บาท/กิโลกรัม ปลาดุก 75.80 บาท/กิโลกรัม กุ้งขาว 70 ตัว186 บาท/กิโลกรัม และไข่ไก่ เบอร์ 3 เฉลี่ย4.28 บาท/ฟอง ส่วนกลุ่มน้ำมันปาล์ม ราคาอยู่ที่5.40 บาท เพิ่มขึ้นจาก 5.07 บาท ในสัปดาห์ที่ผ่านมา น้ำมันขวด อยู่ที่ 49.9 บาท สูงขึ้นจาก 45.80 บาท ในสัปดาห์ที่ผ่านมา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายศรีสุวรรณ ได้ยื่นศาลปกครอง ขอให้ดำเนินการกับ รมว.พาณิชย์ คณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ และอธิบดีกรมการค้าภายใน ฐานใช้อำนาจโดยมิชอบ และละเลยต่อหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดให้ต้องปฏิบัติตาม ม.9 (1) และ (2) แห่ง พ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ.2542 เพราะได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านว่าราคาสินค้าหลายชนิดปรับขึ้นราคา และมีการควบคุมสินค้าเพียง 57 รายการ ยังมีสินค้าที่เหลืออีกเป็นจำนวนมากที่ไม่ได้ควบคุม จึงไม่แน่ใจว่ารัฐบาลเกรงใจผู้ประกอบการหรืออย่างไร