นางสาวณัฐิยา สุจินดา รองอธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ(DITP )กล่าวว่า อุตสาหกรรมโลจิสติกส์ไทยปี 2566 มีทิศทางเติบโตดี สมาคมการจัดการระบบคลังสินค้าไทยคาดการณ์อุตสาหกรรมโลจิสติกส์ในปี 2567 จะขยายตัว 15% ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกและไทย ปัจจุบันไทยมีผู้ประกอบธุรกิจโลจิสติกส์ เป็นนิติบุคคลรวม 35,593 ราย (ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เดือนมิถุนายน 2567) มีมูลค่าการลงทุนจากต่างประเทศ ณ เดือนพฤษภาคม 2567 ที่ 5,808.76 ล้านบาท คิดเป็น 16.36% ของการลงทุนในกลุ่มโลจิสติกส์ในไทย โดยจีนเป็นสัญชาติที่ลงทุนมากที่สุด นอกจากนี้จากการจัดอันดับดัชนีวัดประสิทธิภาพด้านโลจิสติกส์ระหว่างประเทศ (International Logistics Performance Index : LPI) ของธนาคารโลก ปี พ.ศ. 2566 พบว่า ประเทศไทยอยู่อันดับที่ 34 จาก 139 ประเทศทั่วโลก และเป็นอันดับที่ 3 รองจากสิงคโปร์และมาเลเซียสำหรับภูมิภาคอาเซียน
“ด้วยเล็งเห็นความสำคัญของโลจิสติกส์ที่จะช่วยขับเคลื่อนประเทศ DITP จึงร่วมกับ RX Tradex จัดงาน TILOG – LOGISTIX 2024
การจัดงานปีนี้จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “Connecting the Logistics Future” หรือ เชื่อมโยงโลกของธุรกิจโลจิสติกส์ในอนาคต เพื่อแสดงถึงศักยภาพ ความพร้อม และความร่วมมือของอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ไทยในการปรับตัวให้เข้ากับธุรกิจโลจิสติกส์ ในอนาคต ที่มุ่งเน้นนวัตกรรมด้านโลจิสติกส์ เทคโนโลยีดิจิทัล และความยั่งยืน”
นางวราภรณ์ ธรรมจรีย์ กรรมการผู้จัดการ RX Tradex กล่าวว่า ภายในงานจะมีการแสดงสินค้าจากนานาชาติ จากไทย จีน ญี่ปุ่น นอร์เวย์ มาเลเซีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ สหรัฐอเมริกา สิงคโปร์ และอินโดนีเซียรวมทั้งพาวิลเลี่ยนจากจีน โดยนวัตกรรมเด่นที่นำมาแสดง ได้แก่ ระบบช่วยเหลือและตรวจจับพฤติกรรมผู้ขับขี่รถขนส่งด้วย AI, ระบบการจัดการคลังสินค้าที่ใช้หุ่นยนต์ช่วยลำเลียงกระบะบรรจุสินค้า, ถุงลมกันกระแทกในตู้คอนเทนเนอร์ชนิดหน้าเรียบ, ระบบบริหารจัดการคลังสินค้าที่ใช้เทคโนโลยีคิดคำนวณแทนมนุษย์, บริการขนส่งทางรางที่ครบวงจร และอีกมาก ทั้งนี้ คาดว่าจำนวนผู้เข้าชมงานในปีนี้ไม่น้อยกว่า 9,000 ราย และตั้งเป้ามูลค่าการซื้อขายในงานไม่น้อยกว่า 2,000 ล้านบาท
นอกจากนั้น ยังมีกิจกรรมพิเศษ อาทิ นิทรรศการภาพรวมอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ของไทย, Innovation Showcase, งานสัมมนา Trade Logistics Symposium 2024 และ World Transport & Logistics Forum งาน TILOG - LOGISTIX 2024 กำหนดจัดระหว่างวันที่ 15 – 17 สิงหาคมนี้ ณ ไบเทค ฮอลล์ 98 สามารถดูรายละเอียดและลงทะเบียนได้ที่ www.tilog-logistix.com หรือโทร.02-6867222
นายเฉลิมศักดิ์ กาญจนวรินทร์ นายกสมาคมผู้รับจัดการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศกล่าวถึงอนาคตของวงการโลจิสติกส์ว่าการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลจะช่วยผู้ให้บริการสามารถควบคุมการทำงานของทั้งซัพพลายเชน ได้ข้อมูลมาใช้ตัดสินใจได้อย่างแม่นยำและรวดเร็ว ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ตรงเวลา มีประสิทธิภาพ และควบคุมต้นทุนได้ดีขึ้น เทคโนโลยีที่กำลังเข้ามามีบทบาทสำคัญกับบริการโลจิสติกส์ เช่น หุ่นยนต์จัดการคลังสินค้าและการขนลำเลียงสินค้า AI ช่วยควบคุมการขับขี่และเส้นทางของผู้ขนส่งสินค้า ซอฟต์แวร์ช่วยจัดการวางแผนเส้นทางการส่งสินค้า รวมไปถึง Blockchain ช่วยให้สามารถเก็บรวบรวมและบริหารจัดการข้อมูลของสินค้าหลายประเภทจำนวนมากๆ และเชื่อมต่อกับ Stakeholder ทั้งซัพพลายเชนได้ ซึ่งการพัฒนาด้านนี้ ต้องขับเคลื่อนด้วยความร่วมมือจากทั้งภาครัฐและเอกชน และทำกันอย่างจริงจัง เพื่อเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันในตลาดโลก
นายชัยชาญ เจริญสุข ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย กล่าวว่าปัจจุบัน ผู้ส่งออกต้องเผชิญกับความท้าทายในการดำเนินธุรกิจทั้งจากภายในประเทศและนอกประเทศ ซึ่งผู้ส่งออกต้องปรับตัว ตั้งแต่การคัดเลือกวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตสินค้า ปรับปรุงกระบวนการผลิต ไปจนถึงบรรจุภัณฑ์และการขนส่งสินค้า และเลือกใช้พาร์ทเนอร์ทางธุรกิจที่มีจุดมุ่งหมายร่วมกันซึ่งผู้ให้บริการด้านโลจิสติกส์ถือเป็นหนึ่งในพาร์ทเนอร์สำคัญสำหรับผู้ส่งออก ดังนั้นการคัดเลือกผู้ให้บริการที่เข้าใจในความต้องการทางธุรกิจและช่วยผู้ส่งออกวางแผน เสนอทางเลือกในการพัฒนา ตลอดจนช่วยแก้ปัญหาจึงสำคัญและเป็นกุญแจสู่ความยั่งยืนในการค้าระหว่างประเทศ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี