ปอร์เช่ ประเทศไทย จัดงาน The New All-Electric Macan Sneak Preview เผยโฉมยนตรกรรมสปอร์ตพลังงานไฟฟ้าเต็มรูปแบบ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Keep Your Essence” ที่สะท้อนถึงการผสมผสานระหว่างดีไซน์อันเหนือกาลเวลา และสมรรถนะอันเป็นเอกลักษณ์ของมาคันน์ (Macan) พร้อมเปิดรับจองแล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
วันนี้ (5 ส.ค. 2567) มร. ปีเตอร์ โรห์เวอร์ (Peter Rohwer) กรรมการผู้จัดการ ปอร์เช่ ประเทศไทย พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูง ร่วมแนะนำ “ปอร์เช่ มาคันน์” พลังงานไฟฟ้ารุ่นใหม่ล่าสุด ครั้งแรกในประเทศไทย ณ พิพิธภัณฑ์ศิลปะร่วมสมัย กรุงเทพฯ (MOCA)
มร. ปีเตอร์ โรห์เวอร์ (Peter Rohwer) กรรมการผู้จัดการ ปอร์เช่ ประเทศไทย กล่าวว่า “มาคันน์ (Macan) ใหม่ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้านี้ ผสมผสานสมรรถนะอันน่าตื่นตา เข้ากับการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ของปอร์เช่ (Porsche) ตามรอยไทคานน์ (Taycan) รถสปอร์ตพลังงานไฟฟ้าคันแรกของเรา มาคันน์ (Macan) ใหม่สะท้อนถึงความหลงใหล ในนวัตกรรมของเรา ในขณะที่ยังคง DNA ความเป็นปอร์เช่ (Porsche) อย่างแท้จริง ด้วยเหตุนี้ เราจึงขอเชิญแฟนๆของปอร์เช่ (Porsche) ในประเทศไทย ร่วมกันรักษาเอกลักษณ์และเฉลิมฉลองความเป็นตัวตนที่มีความหมาย”
มาคันน์ 4 (Macan 4) และ มาคันน์ เทอร์โบ (Macan Turbo) เปิดตัวครั้งแรกของโลก ที่ประเทศสิงคโปร์ ในเดือนมกราคม 2024 มาคันน์ (Macan) ใหม่มอบสมรรถนะ E-Performance สำหรับทุกสภาพถนนและการใช้งานในชีวิตประจำวันได้อย่างยอดเยี่ยม ตัวเลขสมรรถนะเทียบเท่ารถสปอร์ต ผสานกับการชาร์จเร็วที่มีประสิทธิภาพสูงถึง 270 กิโลวัตต์ และพิสัยการเดินทางสูงสุดถึง 613 กิโลเมตรในมาตรฐาน WLTP
ปอร์เช่ (Porsche) ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าแบบ PSM (Permanent Magnet Synchronous) รุ่นใหม่ล่าสุด ทั้งเพลาหน้าและเพลาหลัง เพื่อประสิทธิภาพสูงสุดและการส่งกำลังที่แม่นยำ ผลลัพธ์คือ สมรรถนะระดับสูงสุด เมื่อทำงานร่วมกับระบบ Launch Control ปอร์เช่ มาคันน์ 4 (Macan 4) สามารถสร้างพละกำลังสูงสุด 300 กิโลวัตต์ (408 แรงม้า) ด้วยพลังโอเวอร์ บูส และแรงบิดสูงสุด 650 นิวตันเมตร เร่งความเร็วจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ภายใน 5.2 วินาที และสามารถทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 220 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
มาคันน์ เทอร์โบ (Macan Turbo) มาพร้อมพละกำลังสูงสุด 470 กิโลวัตต์ (639 แรงม้า) และแรงบิดสูงสุด 1,130 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้ภายใน 3.3 วินาที และมีความเร็วสูงสุดที่ 260 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
มอเตอร์ไฟฟ้าของมาคันน์ (Macan) ใหม่ ได้รับพลังงานจากแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน ซึ่งติดตั้งอยู่ที่ตัวถังด้านล่าง มีความจุพลังงานรวม 100 กิโลวัตต์ชั่วโมง ซึ่งสามารถใช้งานได้สูงสุดถึง 95 กิโลวัตต์ชั่วโมง แบตเตอรี่แรงสูง (HV) เป็นส่วนประกอบหลัก ของแพลตฟอร์มไฟฟ้าระดับพรีเมียม (PPE) ที่พัฒนาขึ้นใหม่พร้อมรองรับกำลังไฟฟ้าถึง 800 โวลต์ ซึ่งปอร์เช่ (Porsche) นำใช้เป็นครั้งแรกในมาคันน์ (Macan) ใหม่นี้
มาคันน์ (Macan) สามารถชาร์จไฟฟ้ากระแสตรง หรือ DC ได้สูงสุด 270 กิโลวัตต์ ชาร์จแบตเตอรี่จาก 10% ถึง 80% ภายในเวลาประมาณ 21 นาที สำหรับสถานีชาร์จ 400 โวลต์ รถสามารถแบ่งแบตเตอรี่ 800 โวลต์ ออกเป็นสองส่วน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการชาร์จ ทำให้สามารถชาร์จไฟได้สูงสุด 135 กิโลวัตต์ นอกจากนี้ ยังสามารถชาร์จไฟฟ้ากระแสสลับ (AC) ได้สูงสุด 11 กิโลวัตต์ ผ่าน Wallbox ที่บ้าน และสามารถชาร์จไฟคืนสู่แบตเตอรี่ขณะขับขี่ได้สูงสุด 240 กิโลวัตต์
ด้วยลวดลายที่เฉียบคม และดีเอ็นเอการออกแบบอันเป็นเอกลักษณ์ของปอร์เช่ ทำให้มาคันน์ 4 (Macan 4) และมาคันน์ เทอร์โบ (Macan Turbo) ใหม่ โดดเด่นด้วยรูปลักษณ์ที่สปอร์ตและทรงพลัง
ฝากระโปรงหน้าที่ลาดเอียง และโป่งล้อที่ออกแบบมาอย่างโดดเด่น ทำให้ มาคันน์ 4 (Macan 4) และมาคันน์ เทอร์โบ (Macan Turbo) ใหม่ มีความยาว 4,784 มิลลิเมตร กว้าง 1,938 มิลลิเมตร และสูง 1,622 มิลลิเมตร สร้างลุคที่ดุดันและสปอร์ต แม้จะจอดนิ่งอยู่กับที่ สามารถเลือกติดตั้งล้ออัลลอย ขนาด 22 นิ้ว พร้อมยางขนาดต่างกัน ระยะฐานล้อยาวขึ้น 86 มิลลิเมตร เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า (2,893 มิลลิเมตร) ทำให้ได้ระยะส่วนหน้าและท้ายของรถที่สั้นลง
ไฟหน้าแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ชุดไฟเดย์ไลท์แบบ 4 จุด ฝังอยู่ในปีกช่วยเน้นความกว้างของตัวรถ โมดูลไฟหน้าหลักพร้อมเทคโนโลยี LED เมทริกซ์ที่เป็นอุปกรณ์เสริม จะอยู่ในตำแหน่งที่ต่ำลงเล็กน้อยที่ด้านหน้า เส้นสายหลังคาแบบ Porsche Flyline ผสานเข้ากับกระจกหลังแบบราบเรียบ เมื่อผสานกับประตูไร้ขอบและเส้นสายด้านข้างอันเป็นเอกลักษณ์ของมาคันน์ (Macan) จึงทำให้ตัวรถดูเรียบหรูและสปอร์ต บั้นท้ายรถโดดเด่นด้วยเส้นสายที่แข็งแรง โลโก้ PORSCHE ถูกวางไว้ตรงกลางแถบไฟท้าย 3 มิติ
ปอร์เช่ (Porsche) ผสานดีเอ็นเอการออกแบบเข้ากับระบบอากาศพลศาสตร์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการขับขี่ ด้วยระบบ Porsche Active Aerodynamics (PAA) ที่ควบคุมการทำงานของชิ้นส่วนต่างๆ ของตัวรถ และค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศเพียง 0.25 ทำให้มาคันน์ (Macan) ใหม่เป็นหนึ่งในรถ SUV ที่มีค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศต่ำที่สุด ซึ่งช่วยเพิ่มระยะทางการขับขี่และประสิทธิภาพในการใช้พลังงาน
ระบบ Porsche Active Aerodynamics (PAA) ประกอบด้วย สปอยเลอร์หลังแบบปรับได้ ช่องดักอากาศด้านหน้าแบบปรับได้ และแผ่นปิดใต้ท้องรถแบบเต็มพื้นที่ ช่องดักอากาศใต้ไฟหน้าและด้านหน้ารถที่ออกแบบให้ต่ำลง ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการไหลเวียนของอากาศ ส่วนด้านท้ายรถมีการออกแบบให้มีขอบด้านข้างที่ช่วยลดแรงต้านอากาศ และดิฟฟิวเซอร์แบบช่องลมช่วยเพิ่มประสิทธิภาพด้านอากาศพลศาสตร์
ปอร์เช่ มาคันน์ (Macan) ใหม่ เป็นรถ SUV ที่เน้นสมรรถนะการขับขี่ แต่ยังคงไว้ซึ่งความสะดวกสบายในการใช้งานประจำวัน มาพร้อมอุปกรณ์ครบครัน และพื้นที่ภายในห้องโดยสารที่กว้างขวาง การเปลี่ยนมาใช้ระบบไฟฟ้า ทำให้ Macan ใหม่มีพื้นที่เก็บสัมภาระด้านหลังเบาะหลังมากขึ้น โดยสามารถจุได้สูงสุด 540 ลิตร (โหมดคาร์โก้)
นอกจากนี้ มาคันน์ (Macan) ใหม่ ยังมีช่องเก็บสัมภาระด้านหน้า หรือ ที่เรียกว่า ‘frunk’ ความจุ 84 ลิตร เพิ่มเติมจากรุ่นก่อนหน้า ทำให้มีพื้นที่เก็บสัมภาระรวม 127 ลิตร เมื่อพับเบาะหลังลงทั้งหมด จะสามารถเพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระด้านหลังได้สูงสุดถึง 1,348 ลิตร และยังสามารถลากจูงได้ที่น้ำหนักสูงสุด 2,000 กิโลกรัม
ตำแหน่งที่นั่งของผู้ขับขี่ และผู้โดยสารตอนหน้าของมาคันน์ (Macan) ใหม่ ลดต่ำลง 28 มิลลิเมตร เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า ในขณะที่ผู้โดยสารตอนหลังนั่งต่ำลง 15 มิลลิเมตร พร้อมพื้นที่วางขาที่กว้างขึ้น ภายในห้องโดยสารเน้นความกว้าง ด้วยการออกแบบในโทนสีดำ และคอนโซลกลางที่ยกสูง ช่วยสร้างความรู้สึกถึงตำแหน่งการขับขี่ที่ต่ำลงและเน้นสมรรถนะมากขึ้น พร้อมให้ความรู้สึกโปร่งสบายด้วยกระจกบานใหญ่
นอกจากหน้าจอสัมผัสแบบดิจิทัลแล้ว มาคันน์ (Macan) ยังมีองค์ประกอบการควบคุมแบบอะนา ล็อกที่เลือกสรรมา ได้แก่ ระบบปรับอากาศและการควบคุมช่องแอร์ แถบไฟ LED ถูกออกแบบรวมเข้ากับแถบตกแต่งของห้องโดยสารและประตู ซึ่งทำหน้าที่เป็นทั้งไฟส่องสว่างภายในและเป็นไฟเพื่อการสื่อสาร ทำหน้าที่ให้ข้อมูลหรือคำเตือนในสถานการณ์ต่างๆ เช่น การทักทาย กระบวนการชาร์จไฟ หรือระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่
ปอร์เช่ (Porsche) ให้ความสำคัญกับการใช้วัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น โดยนำวัสดุรีไซเคิลมาใช้ในบางส่วนของห้องโดยสารของมาคันน์ (Macan) ไฟฟ้ารุ่นนี้ หน้าจอแสดงผลและระบบปฏิบัติการรุ่นใหม่ล่าสุด โดยมีหน้าจอถึง 3 หน้าจอ ประกอบด้วยหน้าปัดแบบโค้งขนาด 12.6 นิ้ว และหน้าจอกลางขนาด 10.9 นิ้ว เป็นครั้งแรกที่ผู้โดยสารสามารถดูข้อมูล ปรับการตั้งค่าบนระบบอินโฟเทนเมนต์ หรือ การสตรีมเนื้อหาวิดีโอขณะเดินทาง เพลิดเพลินผ่านหน้าจอขนาด 10.9 นิ้วของตนเอง ที่เป็นอุปกรณ์เสริมเลือกติดตั้งได้
และเป็นครั้งแรกที่ปอร์เช่ (Porsche) นำเสนอการแสดงผลภาพบนกระจกหน้ารถ (Head-up Display) ที่ใช้เทคโนโลยี Augmented Reality (AR) เป็นครั้งแรก โดยสามารถแสดงข้อมูลเสมือนจริง เช่น ลูกศรนำทาง ซ้อนทับกับภาพจริงได้อย่างสมบูรณ์แบบ โดยภาพจะปรากฏขึ้นที่ระยะห่าง 10 เมตรจากผู้ขับขี่ และมีขนาดที่สอดคล้องกับหน้าจอ ขนาด 87 นิ้ว ทั้งหมดนี้คือ Porsche Driver Experience แนวคิดเพื่อสร้างประสบการณ์อันน่าประทับใจแก่ผู้ขับขี่
มาคันน์ (Macan) ใหม่ มาพร้อม ระบบอินโฟเทนเมนต์รุ่นใหม่ ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Android Automotive OS โดย Porsche Communication Management (PCM) ที่มีประสิทธิภาพการประมวลผลที่สูงขึ้น ตัวอย่างเช่น ระบบสั่งการด้วยเสียง “Hey Porsche” สามารถแนะนำเส้นทาง รวมถึงสถานีชาร์จพลังงานไฟฟ้าได้อย่างรวดเร็ว และผู้โดยสารสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชันจาก Porsche App Center เพื่อใช้งานในรถยนต์ได้ทันที
ปอร์เช่ (Porsche) พัฒนามาคันน์ (Macan) ขึ้นมา โดยมุ่งเน้นไปที่ไดนามิกการขับขี่ ที่เป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ รวมถึงสัมผัสของการใช้พวงมาลัยที่เป็นเอกลักษณ์ ยอร์ก เคอร์เนอร์ (Jörg Kerner) รองประธานฝ่ายผลิตภัณฑ์ กล่าวว่า “ด้วยตำแหน่งการนั่งที่เน้นความสปอร์ต ระยะฐานล้อต่ำ และการควบคุมพวงมาลัยที่แม่นยำ ทำให้มาคันน์ (Macan) ใหม่มอบประสบการณ์การขับขี่สไตล์รถสปอร์ตที่แท้จริง”
มาคันน์ (Macan) ทั้ง 2 รุ่น มาพร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ควบคุมด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์แบบเรียลไทม์ Porsche Traction Management (ePTM) สามารถกระจายแรงบิดระหว่างเพลาหน้าและเพลาหลั งได้เร็วกว่าระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบเดิมถึง 5 เท่า และสามารถตอบสนองต่อการลื่นไถลได้ภายใน 10 มิลลิวินาที นอกจากนี้ ระบบ Porsche Torque Vectoring Plus (PTV Plus) ยังช่วยเพิ่มการยึดเกาะถนน ความเสถียร และการควบคุมตัวรถได้อย่างแม่นยำ
มาคันน์ เทอร์โบ (Macan Turbo) มีช่วงล่างแบบถุงลม ที่มาพร้อมกับระบบ Porsche Active Suspension Management (PASM) ซึ่งเป็นช่วงล่างที่สามารถปรับเลเวลความนุ่มนวลได้ โดยใช้ระบบไฟฟ้าควบคุม สำหรับมาคันน์ 4 (Macan 4) เป็นช่วงล่างสปริงที่มาพร้อมกับระบบ PASM เช่นกัน ระบบ PASM ใหม่ได้รับการออกแบบบนพื้นฐาน ของระบบช่วงล่างแบบ 2 Valve ที่มอบความยืดหยุ่นในการใช้งาน สามารถมอบความนุ่มนวล รวมถึงการแสดงสมรรถนะในการยึดเกาะกับพื้นผิวถนน ระบบนี้จะทำให้ผู้ขับขี่สัมผัสการตอบสนองของช่วงล่างในแต่ละโหมดการขับขี่ได้อย่างชัดเจนยิ่งกว่าเคย
เป็นครั้งแรกที่มาคันน์ (Macan) มีระบบบังคับเลี้ยวล้อหลัง ที่มาเป็นอุปกรณ์เสริมให้สามารถเลือกติดตั้งได้ โดยมีมุมบังคับเลี้ยวสูงสุด 5 องศา ช่วยให้รถยนต์สามารถเลี้ยวกลับรถได้ด้วยรัศมีวงเลี้ยวเพียง 11.1 เมตร ขณะเดียวกันก็ช่วยเพิ่มความเสถียรในการขับขี่ที่ความเร็วสูง ซึ่งได้รับการสนับสนุนอย่างดีจากระบบบังคับเลี้ยวล้อหน้าที่เสถียรและแม่นยำ ซึ่งเป็นจุดเด่นของแบรนด์
ปอร์เช่ มาคันน์ (Porsche Macan) ราคาเริ่มต้นที่ 5.39 ล้านบาทสำหรับ มาคันน์ 4 (Macan 4) และราคา 7.79 ล้านบาท สำหรับมาคันน์ เทอร์โบ (Macan Turbo) นอกจากนี้ ตั้งแต่วันที่ 9 สิงหาคม ถึง 30 กันยายน ปอร์เช่ ประเทศไทย ขอเชิญทุกท่านสัมผัสประสบการณ์สุดพิเศษกับรถยนต์ไฟฟ้าสปอร์ต SUV รุ่นใหม่ล่าสุด Porsche Macan 4 และ Macan Turbo ที่งาน "The new all-electric Macan Sneak Preview at The Emsphere" จัดขึ้นที่ AAS House ชั้น 2 โซน EM Innovation ศูนย์การค้า The Emsphere
ปัจจุบัน ปอร์เช่ ประเทศไทย มีโชว์รูมและศูนย์บริการเปิดให้บริการ 4 แห่ง คือ Porsche Centre Bangkok , Porsche Centre Pattanakarn, Porsche Studio Siam Paragon ชั้น 2 ,Porsche Studio Bangkok ICONSIAM ชั้น 1 และขยายเพิ่มอีก 3 แห่งในอนาคตอันใกล้ ได้แก่ ศูนย์ปอร์เช่ กัลปพฤกษ์, ศูนย์ปอร์เช่ บางนา และศูนย์ปอร์เช่ พัทยา
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี