นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่าตัวเลขการค้าชายแดนและการค้าผ่านแดน เดือนมกราคม-มิถุนายน 2567 มีมูลค่าการค้ารวม 912,283 ล้านบาท ขยายตัว 3.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นการส่งออก 534,316 ล้านบาท (+3.1%) และการนำเข้า 377,968ล้านบาท (+4.3%) โดยไทยได้ดุลการค้าในช่วงครึ่งแรกของปี 2567 ทั้งสิ้น 156,348 ล้านบาท โดยการค้าชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน 4 ประเทศ เดือนมกราคม-มิถุนายน 2567 มีมูลค่าการค้ารวม 493,470 ล้านบาท (+2.6%) เป็นการส่งออก 305,452 ล้านบาท (+1.5%) การนำเข้า 188,019 ล้านบาท (-4.6%) และไทยได้ดุลการค้ารวมทั้งสิ้น 117,433 ล้านบาท โดยการค้าชายแดนกับ สปป.ลาวมีมูลค่าสูงสุด 150,697 ล้านบาท รองลงมา คือ มาเลเซีย149,361 ล้านบาท เมียนมา 106,630 ล้านบาท และกัมพูชา 86,783 ล้านบาท ซึ่งสินค้าส่งออกชายแดนสำคัญในเดือนมกราคม-มิถุนายน 2567 ได้แก่ น้ำมันดีเซล 23,109 ล้านบาท น้ำมันสำเร็จรูปอื่นๆ 10,432 ล้านบาท และน้ำยางข้น 8,221 ล้านบาท
ขณะที่การค้าผ่านแดนไปประเทศที่สาม เดือนมกราคม-มิถุนายน 2567 มีมูลค่าการค้ารวม418,813 ล้านบาท (+4.8%) เป็นการส่งออก 228,864 ล้านบาท (+5.4%) และการนำเข้า 189,949 ล้านบาท (+4.0%) โดยการค้าผ่านแดนไปจีน มีมูลค่าสูงที่สุด 244,175 ล้านบาท (+14.3%)รองลงมาคือ สิงคโปร์ และเวียดนามมีมูลค่า 53,137ล้านบาท (-10.3%) และ 36,269 ล้านบาท (-6.6%)ตามลำดับ ซึ่งสินค้าส่งออกผ่านแดนสำคัญในเดือนมกราคม-มิถุนายน 2567 ได้แก่ ทุเรียนสด 67,601 ล้านบาท ฮาร์ดดิสก์ ไดรฟ์ 40,957 ล้านบาท และยางแท่ง TSNR 19,500 ล้านบาท
อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศกล่าวว่า การค้าชายแดนและและผ่านแดนของไทยเริ่มต้นในครึ่งแรกของปี 2567 ในแดนบวกถือเป็นสัญญาณที่ดีโดยที่ผ่านมา กรมการค้าต่างประเทศได้ติดตามสถานการณ์การค้าชายแดนและผ่านแดนอย่างใกล้ชิดอาทิ กรณี สปป.ลาว ออกมาตรการห้ามนำเข้าสินค้าเกษตรที่สามารถผลิตได้ สำหรับด่านท้องถิ่นและด่านประเพณี แต่อนุญาตเฉพาะด่านสากลที่มีระบบการกักกันพืช-สัตว์เท่านั้น ซึ่งมาตรการดังกล่าวไม่กระทบต่อภาคธุรกิจของไทยและส่งผลให้สินค้าไทยที่นำเข้าถูกต้องตามด่านสากลได้ประโยชน์เพราะจะช่วยสกัดผู้นำเข้าที่ลักลอบขนสินค้าข้ามแดนแบบผิดกฎหมาย รวมถึงกรณีสถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดเมียวดี ประเทศเมียนมาที่ส่งผลให้เส้นทางการค้าหลักระหว่างแม่สอด-เมียวดีถูกทำลาย ซึ่งกรมการค้าต่างประเทศได้ประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการหามาตรการรองรับในการเสนอเส้นทางขนส่งอื่นๆ ทดแทนเพื่อไม่ให้กระทบต่อการค้า เช่น ด่านท่าเรือระนอง และด่านสิงขร จ.ประจวบคีรีขันธ์
อนึ่งการค้าชายแดนและการค้าผ่านแดน ทั้งปี 2566 (ม.ค.-ธ.ค.) มีมูลค่า 1,742,808 ล้านบาท ลดลง 2.6% แบ่งเป็นการส่งออกมูลค่า 980,729 ล้านบาท ลดลง 4.6% ซึ่งเป็นไปทิศทางเดียวกันกับการส่งออกภาพรวม ที่ขยายตัวลดลง และการนำเข้ามูลค่า 762,079 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.2% โดยไทยได้ดุลการค้า 218,650 ล้านบาท และเมื่อแยกเป็นการค้าชายแดนกับ 4 ประเทศ มาเลเซีย สปป.ลาว กัมพูชา และเมียนมา มีมูลค่าการค้ารวม 929,730 ล้านบาท ลดลง 12.06% แบ่งเป็นการส่งออก 580,100 ล้านบาท ลดลง 10.38% การนำเข้า 349,630 ล้านบาท ลดลง 14.72% ได้ดุลการค้า 230,471 ล้านบาท ขณะที่การค้าผ่านแดนไปประเทศที่ 3 ทั้งปี 2566 มีมูลค่า 813,078 ล้านบาทเพิ่ม 11.22% แยกเป็นการส่งออก 400,629 ล้านบาทเพิ่ม 5.3% และการนำเข้า 412,449 ล้านบาท เพิ่ม 17.7% โดยจีนเป็นคู่ค้าผ่านแดนอันดับ 1 ในปี 2566มีมูลค่าการค้า 423,116 ล้านบาท เพิ่ม 44.09% รองลงมาสิงคโปร์ 106,676 ล้านบาท ลด 11.85% เวียดนาม 70,138 ล้านบาท ลด 13.15% และประเทศอื่นๆ 213,147 ล้านบาท ลด 9.55% โดยสินค้าส่งออกผ่านแดนสำคัญในปี 2566 ได้แก่ ทุเรียนสด 93,692 ล้านบาท ฮาร์ดดิสก์ ไดรฟ์ 77,685 ล้านบาทและยางแท่ง TSNR 28,280 ล้านบาท และด่านศุลกากรที่มีมูลค่าการค้าผ่านแดนสูงสุด ได้แก่ ด่านศุลกากรมุกดาหาร 286,425 ล้านบาท ด่านศุลกากรสะเดา 207,944 ล้านบาท และด่านศุลกากรนครพนม 95,392 ล้านบาท
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี