นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ เป็นประธานแถลงความสำเร็จของการขับเคลื่อนมาตรการดูแลพืชรองซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างภาคีเครือข่ายภาครัฐและเอกชนรายใหญ่กว่า 12 กลุ่มธุรกิจ 20 เครือ 27 หน่วยงานโดยมี นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รมช.พาณิชย์ นายสุชาติ ชมกลิ่น รมช.พาณิชย์นายวุฒิไกร ลีวีระพันธ์ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ และคณะผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์ บริษัทเอกชนรายใหญ่เข้าร่วม
นายภูมิธรรมกล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์ได้ดำเนินการขับเคลื่อนมาตรการดูแลสินค้าเกษตร ตามนโยบายของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่ได้ให้ความสำคัญกับการดูแลความเป็นอยู่ของพี่น้องเกษตรกร เนื่องจากประเทศไทย เป็นประเทศเกษตรกรรม มีประชากรกว่า 27 ล้านคน หรือ 40% อยู่ในภาคการเกษตร มีปริมาณผลผลิตพืชเศรษฐกิจหลัก 87.7 ล้านตัน ได้แก่ ข้าว มันสำปะหลัง ข้าวโพด ปาล์ม ยางพารา และพืชรอง 8.24 ล้านตันได้แก่ ผลไม้ พืช 3 หัว และผัก รวมปีละกว่า 96 ล้านตันมูลค่ารวมกว่า 1.32 ล้านล้านบาท คิดเป็น 9% ของ GDPและไทยสามารถสร้างรายได้จากส่งออกสินค้าเกษตรและเกษตรอุตสาหกรรม ในปี 2566 กว่า 1.69 ล้านล้านบาท
ที่ผ่านมากระทรวงพาณิชย์ได้มีมาตรการดูแลพืชเกษตร ได้วางแผนการจัดผลผลิต มีปฏิทินสินค้ารู้ว่าแต่ละเดือน แต่ละช่วง สินค้าอะไรจะออกสู่ตลาด และได้เตรียมมาตรการบริหารจัดการไว้ล่วงหน้า ไม่รอให้เกิดปัญหา ซึ่งในส่วนของพืชเศรษฐกิจตัวหลัก ได้มีมาตรการบริหารจัดการ และดูแลอย่างใกล้ชิดตั้งแต่เข้ามารับผิดชอบกระทรวงพาณิชย์ ทำให้ราคาปรับตัวสูงขึ้น โดยข้าวหอมมะลิราคาสูงสุดในรอบ 5 ปี ข้าวเจ้าราคาสูงสุดในรอบ 20 ปี ข้าวเหนียวสูงสุดในรอบ 4 ปียางแผ่นดิบ น้ำยาง ราคาสูงสุดในรอบ 10 ปี ปาล์มน้ำมันราคาอยู่ในเกณฑ์สูงที่เฉลี่ย 6 บาท/กิโลกรัม (กก.) สูงสุด6.40 บาท/กก. ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ราคาที่เกษตรกรขายได้อยู่ที่ 11.2 บาท/กก. มันสำปะหลัง ราคา 2.75-3.15บาท/กก. และยังได้แก้ช่วยแก้ไขปัญหาโรคใบด่าง ด้วยการจัดหาท่อนพันธ์ุทนทานและต้านทานโรค
ทั้งนี้เมื่อบริหารจัดการพืชเศรษฐกิจตัวหลักได้สำเร็จนายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้ดำเนินการเชิงรุกดูแลความเป็นอยู่ของพี่น้องเกษตรกรพืชเกษตรเศรษฐกิจตัวรอง ควบคู่ไปกับพืชหลัก ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ได้รับนโยบาย และดำเนินการขับเคลื่อนเริ่มจากมีมาตรการบริหารจัดการผลไม้ปี 2567 ที่ได้วางแผนไว้ล่วงหน้าก่อนที่ผลผลิตจะออกสู่ตลาด และยังได้มีแผนดูแลพืชเศรษฐกิจตัวรอง ได้แก่ ผลไม้พืช 3 หัว และผัก โดยได้ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ เอกชน หน่วยงานพันธมิตร ในแผนงาน “คนตัวใหญ่ช่วยคนตัวเล็ก” ที่จะร่วมมือกันในการบริหารจัดการพืชรอง ตั้งแต่ช่วงผลผลิตออกจนผลผลิตสู่ตลาด โดยหน่วยงานภาครัฐและเอกชนช่วยรับซื้อพืชรองต่างๆ ไปจำหน่าย แปรรูป หรือเป็นกิจกรรมเพื่อสังคม (CSR) ที่แต่ละบริษัทมีงบประมาณในส่วนนี้อยู่แล้ว ซึ่งจะเป็นกลไกใหม่ในการช่วยดูดซับผลผลิตและเพิ่มรายได้ให้เกษตรกรไปในคราวเดียวกัน “เครือข่ายพันธมิตรคนตัวใหญ่ ช่วยคนตัวเล็ก” เป็นการดำเนินการสมดุล
เครือข่ายพันธมิตร คนตัวใหญ่ ช่วยคนตัวเล็กมี 12 กลุ่มธุรกิจ 20 เครือ 27 หน่วยงาน อาทิ กลุ่มผู้ผลิตสินค้าในเครือเจริญโภคภัณฑ์ กลุ่มธุรกิจปั๊มน้ำมันได้แก่ ปตท. พีที บางจาก ซัสโก้ สมาคมโรงพยาบาลเอกชน กลุ่มธุรกิจหมู่บ้าน-คอนโดฯ ได้แก่ แสนสิริแอสเซทไวส์ เสนา ไอริส ห้างค้าปลีก-ค้าส่ง และห้างท้องถิ่นทั่วประเทศ รวมถึงหน่วยงานภาครัฐพันธมิตร อาทิ กรมราชทัณฑ์ โดยมีเป้าหมายช่วยดูดซับเชื่อมโยงผลไม้ พืช 3 หัว ผัก เป้าหมาย 321,579 ตัน แยกเป็นผลไม้กว่า 2 แสนตัน พืช 3 หัว2 หมื่นตัน ผัก 3 หมื่นตัน มูลค่ากว่า 4,000 ล้านบาท
ปัจจุบันได้ดำเนินการไปแล้วในส่วนของทุเรียนและจะทยอยส่งมอบมังคุด ลำไย ไปจนถึงสิ้นกันยายนนี้รวม 33,500 ตัน ไปยังเรือนจำ ธนาคาร ห้าง โรงแรมนิคมอุตสาหกรรม โรงพยาบาล บริษัทเอกชนรายใหญ่และมีแผน ส่งมอบต่อเนื่องไปถึงต้นปีหน้า ทั้งผลไม้ส้ม ลองกอง พืชผัก พืช 3 หัว หอมแดง กระเทียม หอมใหญ่ที่จะเริ่มออกมากในช่วงสิ้นปีไปจนถึงต้นปีหน้า
ผลการดำเนินมาตรการดูแลสินค้าเกษตร ทั้งพืชหลัก พืชรอง สามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจของ ข้าวเปลือก ยางพารา ผลไม้ พืช 3 หัว เฉลี่ยสูงขึ้นจากปีก่อน 23% ทำให้เกษตรกร กว่า 7.4 ล้านครัวเรือน มีรายได้รวมเพิ่มขึ้นกว่า 196,536 ล้านบาท จากราคาที่ปรับสูงขึ้นกว่าปีก่อน
พืชเกษตรเศรษฐกิจตัวรองที่กระทรวงพาณิชย์ได้เข้าไปดูแล มี 18 ชนิด แยกเป็นผลไม้ 11 ชนิดได้แก่ 1.ทุเรียน 2.มังคุด 3.เงาะ 4.ลองกอง 5.ลำไย6.สับปะรด 7.ลิ้นจี่ 8.ส้มโอ 9.ส้มเขียวหวาน 10.มะยงชิด 11.มะม่วง ผัก 4 ชนิด ได้แก่ 1.มะนาว 2.มะเขือเทศ 3.ฟักทอง 4.พริกขี้หนูจินดาและพืชสามหัว 3 ชนิด ได้แก่ 1.หอมแดง 2.หอมหัวใหญ่ 3.กระเทียม
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี