บริษัท ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์พาวเวอร์ หรือ WHAUP แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) ถึงผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกของปี 2567 มีรายได้และส่วนแบ่งกำไรปกติ 2,005 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7% กำไรปกติ 682 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5% และมีกำไรสุทธิซึ่งรวมผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยน802 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน การเพิ่มขึ้นของกำไรสาเหตุหลักมาจากการเติบโตของธุรกิจน้ำในประเทศรวมถึงส่วนแบ่งกำไรจากธุรกิจน้ำในต่างประเทศที่เติบโตขึ้นและจากในส่วนของธุรกิจโรงไฟฟ้า SPP ที่ได้รับปัจจัยบวกจากต้นทุนก๊าซธรรมชาติที่ลดลง ส่งผลให้อัตรากำไรในส่วนของไฟฟ้าที่จำหน่ายให้กับลูกค้าอุตสาหกรรมปรับตัวเพิ่มขึ้น

นายสมเกียรติ เมสันธสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร WHAUP เปิดเผยว่าภาพรวมธุรกิจสาธารณูปโภค(น้ำ) ในไตรมาส 2/2567 ยังเติบโตต่อเนื่อง จากปริมาณยอดจำหน่ายและบริหารน้ำทั้งในและต่างประเทศรวมกัน 43 ล้านลูกบาศก์เมตร เพิ่มขึ้น 6% จากไตรมาส 2/2566 ส่งผลให้งวด 6 เดือนแรกของปี 2567 มียอดจำหน่ายและบริหารน้ำรวมทั้งในประเทศและต่างประเทศ 84 ล้านลูกบาศก์เมตร เพิ่มขึ้น11% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

ภาพรวมธุรกิจน้ำในครึ่งปีหลังของปี 2567 คาดว่ายังคงเติบโตต่อเนื่อง ทั้งจากกลุ่มลูกค้าเดิมและลูกค้าใหม่ เช่น โครงการการให้บริการน้ำประปาในพื้นที่การประปาส่วนภูมิภาค 2.6 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี โครงการผลิตน้ำอุตสาหกรรมคุณภาพสูงให้กับบริษัทพีทีที โกลบอล เคมิคอล 3.5 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี ส่วนในต่างประเทศปริมาณการจำหน่ายน้ำในเวียดนามเติบโตขึ้นมาจากการเพิ่มขึ้นของปริมาณยอดจำหน่ายน้ำของโครงการ Doung River ที่เติบโตจากการขยายฐานลูกค้าและพื้นที่ในการให้บริการที่ครอบคลุมมากขึ้น

ธุรกิจพลังงานไฟฟ้า ในไตรมาส 2/2567 บริษัทฯ มีส่วนแบ่งกำไรปกติจากธุรกิจไฟฟ้า 201 ล้านบาท ลดลง 27% รวมงวด 6 เดือนแรกของปี 2567 มีส่วนแบ่งกำไรปกติจากธุรกิจไฟฟ้า 502 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7% สาเหตุหลักมาจากการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรปกติจากกลุ่มโรงไฟฟ้า SPP ที่เพิ่มขึ้นจากการที่จากต้นทุนก๊าซธรรมชาติที่ลดลงส่งผลให้อัตรากำไรในส่วนของไฟฟ้าที่จำหน่ายให้กับลูกค้าอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น

ส่วนของธุรกิจไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคางวด 6 เดือนแรกของปี 2567 บริษัทฯ รับรู้รายได้จากสัญญา Private PPA ทั้งสิ้น 197 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการเพิ่มขึ้นของกำลังการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ ณ สิ้นไตรมาส 2/2567 บริษัทฯ มีโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ที่เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์แล้ว 131 เมกะวัตต์ ณ สิ้นไตรมาส 2/2567 มีการลงนามในสัญญาโครงการ Solar Private PPA สะสม 256 เมกะวัตต์ และมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้ารวมตามสัดส่วนการถือหุ้นจากโรงไฟฟ้าทุกประเภท 932 เมกะวัตต์ ครึ่งปีหลัง2567 คาดว่าจะเห็นการเติบโตต่อเนื่องจากการต่อยอดการลงทุนในธุรกิจพลังงานสะอาดผ่านการพัฒนานวัตกรรมและโซลูชั่นด้านพลังงานใหม่ๆ รวมทั้งเปิดให้บริการสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า (EV) เพิ่มจากปัจจุบัน 34 ตู้ชาร์จ