ll วาระแรก (มิ.ย.2563-มิ.ย.2567) ที่คุณวิทัย รัตนากร ดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน ได้สร้างความสำเร็จของ “ธนาคารเพื่อสังคม” (Social Bank) ตลอดระยะเวลา 4 ปีที่ผ่านมา ทำให้ ปัจจุบันธนาคารสามารถสร้างผลลัพธ์เชิงบวกต่อสังคม มีผู้ได้รับประโยชน์ผ่านโครงการและมาตรการต่างๆ เช่น การช่วยประชาชนกลุ่มเครดิตต่ำและไม่มีเครดิตให้เข้าถึงแหล่งเงินในระบบแล้วกว่า 3 ล้านคน มีผู้เข้าถึงดอกเบี้ยที่เป็นธรรมแล้วกว่า 5 ล้านคน เป็นต้น โดยธนาคารมีความมั่นคงแข็งแกร่งในการดำเนินธุรกิจด้วยปริมาณเงินสำรองรวมเพิ่มขึ้นแตะระดับ 125,948 ล้านบาท และมีฐานลูกค้ารวม 24 ล้านรายในปัจจุบัน ผ่านโครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (Soft Loan) โครงการสินเชื่อสร้างงานสร้างอาชีพ รวมถึงมาตรการลดดอกเบี้ยเพื่อบรรเทาภาระค่าใช้จ่าย และแก้ปัญหาหนี้สิน
เมื่อไม่นานมานี้คณะกรรมการธนาคารออมสินมีมติอนุมัติต่อสัญญาจ้างให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เป็นสมัยที่ 2 มีผลเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2567 ซึ่งคุณวิทัย กล่าวว่า คณะกรรมการธนาคารออมสิน มีมติเห็นชอบ กรอบทิศทางการดำเนินงานธนาคารระยะ 4 ปี (2568-2572)ที่ก้าวต่อไปของธนาคารออมสินจะยังคงจุดยืนการเป็นธนาคารเพื่อสังคม โดยตั้งเป้าปรับลดกำไรลงมาอยู่ในระดับที่เหมาะสม จากที่ทำได้ 36,000 ล้านบาทในปี 2566 เพื่อขยายผลการสร้างผลลัพธ์เชิงบวกต่อสังคม (Social Impact) ซึ่งจะทำให้ธนาคารสามารถทำภารกิจ
และโครงการช่วยเหลือประชาชนและสร้างประโยชน์ให้สังคมได้มากขึ้น
ด้วยบทบาทพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก ได้แก่ 1.บทบาทการเพิ่ม/ขยายโอกาสเข้าถึงบริการทางการเงินอย่างทั่วถึง 2.บทบาทการแก้ปัญหาหนี้สิน 3.บทบาทการพัฒนาชุมชน/สังคม และ 4.บทบาทการสนับสนุนภาครัฐดำเนินนโยบายและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นบทบาทใหม่ที่จะช่วยขับเคลื่อนขยายผลการสร้าง Social Impact ทั้งในเชิงลึกและวงกว้างมากขึ้น เป็นการทำให้เกิดความชัดเจนว่าบทบาทการช่วยเหลือสังคมทั้ง 4 ด้านนี้ มีความสำคัญเหนือกว่าภารกิจการสร้างอัตรากำไรทางธุรกิจ
นอกจากนี้ ธนาคารวางแผนเป็นสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐแห่งแรกที่มีการบริหารงานแบบกลุ่มธุรกิจ ประกอบด้วย บริษัท มีที่มีเงิน จำกัด ให้บริการสินเชื่อที่ดินและขายฝาก บริษัท บริหารสินทรัพย์อารีย์ จำกัด ดำเนินธุรกิจบริหารจัดการหนี้ NPL และ NPA บริษัท เงินดีดี จำกัด ให้บริการสินเชื่อส่วนบุคคลกลุ่มลูกค้าฐานราก ผ่านแอปพลิเคชั่น “Good Money” และบริษัท จีเอสบี ไอที แมเนจเมนท์ จำกัด ดำเนินธุรกิจด้านเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อยกระดับความสามารถด้านเทคโนโลยีสนับสนุนธนาคาร
ทั้งนี้ตลอดระยะเวลา 4 ปีที่ผ่านมา (ในวาระแรก) มีกลุ่มคนหลากหลายกลุ่ม ที่ได้รับการดูแลจากธนาคารออมสิน กลุ่มแรก คือฐานรากและรายย่อย ซึ่งธนาคารออมสินสามารถช่วยคนทั้งที่เครดิตตํ่าและไม่มีเครดิตเข้าถึงแหล่งทุนในระบบ 3.7 ล้านคน ช่วยคนเข้าถึงดอกเบี้ยที่เป็นธรรม ผ่านสินเชื่อจำนำทะเบียนรถมอเตอร์ไซค์ 2.3 ล้านคน ช่วยคนไม่ให้เสียประวัติทางการเงิน ด้วยการผ่อนปรนบรรเทาภาระหนี้ มากกว่า 4.7 ล้านคนและช่วยคนให้มีอาชีพ มีรายได้ผ่านโครงการสร้างงาน สร้างอาชีพ มากกว่า3 แสนคน กลุ่มที่สอง คือ ผู้ประกอบการSMEs ที่ช่วยเติมทุนเสริมสภาพคล่องเพื่อประคับประคองกิจการ 3.6 แสนล้านบาทช่วย SMEs ที่มีที่ดินเข้าถึงแหล่งเงินทุนมากกว่า 26,000 ล้านบาท สนับสนุนธุรกิจที่สร้างความยั่งยืน ทั้งสินเชื่อ BCG& Green Loan มากกว่า 37,800 ล้านบาท กลุ่มที่สาม คือ ชุมชน สังคมและสิ่งแวดล้อม สามารถช่วยพัฒนาชุมชน สร้างชุมชนเข้มแข็ง 3,600 ชุมชน ช่วยสร้างชุมชนยั่งยืน และช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม
“แน่นอนว่า การช่วยเหลือสังคมเป็นเรื่องที่มีต้นทุนสูง ซึ่งเราก็ต้องทำ2 ธุรกิจควบคู่กันไป คือทำธุรกิจเชิงพาณิชย์ที่มีขนาดใหญ่และมีกำไรสูง แล้วนำกำไรจากส่วนนั้น มาสนับสนุนธุรกิจเชิงสังคม ที่มีขนาดเล็ก แต่ช่วยคนได้จำนวนมาก ทำให้เกิดการบริหารจัดการองค์กร การบริหารจัดการความเสี่ยง การบริหารกำไร และการบริหารเรื่องหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ซึ่งเป็นการสร้างความสมดุลให้กับธนาคาร” คุณวิทัยกล่าว
ทั้งนี้ในปี 2566 ออมสินมีกำไรมากกว่า 3 หมื่นล้านบาท สูงสุดเป็นประวัติการณ์ตั้งแต่ก่อตั้งธนาคารมา 111 ปีและยังเป็นรัฐวิสาหกิจที่สามารถนำรายได้ส่งคลังในลำดับต้นๆ โดยช่วง 3 ปีที่ผ่านมา สามารถนำกำไรส่งคลังได้ถึง 64,400 ล้านบาทและยังเป็นแหล่งเงินทุนให้ภาครัฐในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศมากกว่า 1 ล้านล้านบาท สามารถตั้งเงินสำรองส่วนเกิน 58,000 ล้านบาท และสำรองรวม 1.15 แสนล้านบาท สูงสุดเป็นประวัติการณ์ และสามารถควบคุมคุณภาพหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) อยู่ในระดับ 2.8% เทียบเคียงได้กับธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่
อนึ่ง สำหรับประวัติการทำงาน ของคุณวิทัย ก่อนหน้านี้ ในช่วงปี’61-63 ดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.),ปี’60-61 เป็นกรรมการ และรักษาการผู้จัดการ ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย, ปี’59-61 เคยเป็นรองผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กลุ่มลงทุนและบริหารการเงิน, ปี’58-59 เป็นรองผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กลุ่มลูกค้าธุรกิจและภาครัฐ
อนันตเดช พงษ์พันธุ์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี