นายสุเมธ ประสงค์พงษ์ชัย ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ GIT เปิดเผยว่า การส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับ ไม่รวมทองคำ เดือนมิถุนายน 2567 มีมูลค่า 704.18 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลง 4.51% เป็นการกลับมาชะลอตัวเป็นเดือนแรก หลังฟื้นตัวต่อเนื่อง 9 เดือนก่อนหน้านี้ เนื่องจากความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ ความไม่แน่นอนการเลือกตั้งในหลายประเทศ ทำให้นักลงทุนชะลอการลงทุน ส่งผลให้การบริโภคสินค้าฟุ่มเฟือยชะลอตัวลงตามไปด้วย และหากรวมทองคำ มีมูลค่า 1,248.96 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 34.42% ส่วนยอดรวม 6 เดือน ปี 2567 (มกราคม-มิถุนายน) การส่งออกไม่รวมทองคำ มีมูลค่า 4,555.97 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 8.48% หากรวมทองคำ มูลค่า 7,573.12 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 2.86%
สำหรับการส่งออกทองคำเดือนมิถุนายน2567 มีมูลค่า 544.79 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น184.12% เนื่องจากราคาทองคำเริ่มนิ่งและผันผวนลดลง ทำให้มีการส่งออกไปเก็งกำไร จากราคาทองคำที่ปรับตัวสูงขึ้น ส่วนยอดรวม 6 เดือน ส่งออกทองคำมีมูลค่า 3,017.15 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลด 4.61% และหากแยกการส่งออกทองคำเป็นรายเดือนมกราคมมูลค่า 469.12 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่ม 194.17% กุมภาพันธ์มูลค่า 740.46 ล้านดอลลาร์สหรัฐเพิ่ม 309.51% มีนาคมมูลค่า 391.82 ล้านดอลลาร์สหรัฐลด 75.02% เมษายนมูลค่า 288.64 ล้านดอลลาร์สหรัฐลด 64.57% พฤษภาคมมูลค่า 582.33 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่ม 135.39%
ส่วนตลาดส่งออกสำคัญ ส่วนใหญ่ยังคงเพิ่มขึ้น โดยฮ่องกง เพิ่ม 17.52% สหรัฐฯ เพิ่ม 8.63% อินเดีย เพิ่ม 64.96% เยอรมนี เพิ่ม 9.08%สวิตเซอร์แลนด์ เพิ่ม 9.04% เบลเยียม เพิ่ม51.61% ญี่ปุ่น เพิ่ม 3.28% ส่วนสหราชอาณาจักร ลด 1.11% อิตาลี ลด 2.30% และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ลด 14.22%
ทางด้านการส่งออกสินค้า ส่วนใหญ่เพิ่มขึ้น โดยเครื่องประดับทอง เพิ่ม 8.81% เครื่องประดับเงิน เพิ่ม 19.56% พลอยก้อน เพิ่ม 89.77% พลอยเนื้อแข็งเจียระไน เพิ่ม 7.46% พลอยเนื้ออ่อนเจียระไน เพิ่ม 5.81% ซึ่งในกลุ่มพลอย เป็นสินค้าที่ขยายตัวได้ดีต่อเนื่อง เพราะมีการซื้อไปลงทุน เพชรก้อน เพิ่ม 6.89% เพชรเจียระไน เพิ่ม 5.04% เครื่องประดับเทียม เพิ่ม 10.19% ของทำด้วยไข่มุกและรัตนชาติเพิ่ม 35.06% ส่วนเครื่องประดับแพลทินัม ลด 36.25%
นายสุเมธกล่าวว่า แนวโน้มการส่งออกคาดว่าจะขยายตัวดีขึ้นได้ต่อเนื่อง หลังมีการประเมินเศรษฐกิจโลกขยายตัว 2.6% และการบริโภคในหลายประเทศเริ่มฟื้นตัว จากการที่เงินเฟ้อในประเทศเศรษฐกิจสำคัญ ทั้งสหรัฐฯ และยูโรโซน ปรับลดลง การเดินทางท่องเที่ยว ยังเติบโตต่อเนื่อง ซึ่งล้วนแต่เป็นปัจจัยที่ส่งผลดีต่อการซื้อสินค้าฟุ่มเฟือยแต่ก็ต้องระวังความเสี่ยงจากความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ ที่ขยายวงไปหลายที่ ความเสี่ยงจากมาตรการกีดกันทางการค้าที่มีแนวโน้มรุนแรงขึ้น และอาจกระทบต่อการส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับได้
แนวทางในการปรับตัวทำธุรกิจ จะต้องใช้ช่องทางออนไลน์เข้ามาช่วย โดยการสร้างประสบการณ์ที่ดีผ่านสื่อดิจิทัลในปัจจุบันนี้ เป็นเรื่องพื้นฐานที่ทุกธุรกิจไม่อาจปฏิเสธได้ เพราะพฤติกรรมของผู้บริโภคในปัจจุบันมีการใช้จ่ายอย่างระมัดระวังมากขึ้น จากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ โดยจะใช้จ่ายสิ่งที่จำเป็นและคุ้มค่าที่สุด ทำให้ผู้ประกอบการเผชิญกับการซื้อที่ลดลง ส่งผลกระทบกับยอดขายของภาคธุรกิจ และจากความเสี่ยงข้างต้น ผู้ประกอบการควรเน้นสร้างความมีคุณค่าของสินค้าควบคู่กับความคุ้มค่า ด้วยการนำเสนอเครื่องประดับที่มีคุณภาพดีในราคาที่สมเหตุสมผลนำเสนอการสวมใส่เครื่องประดับที่สวมใส่ได้หลายโอกาส โดยคงความมีสไตล์และเอกลักษณ์เฉพาะตัวไว้ และควรทำตลาดร่วมกับอินฟลูเอนเซอร์ที่มีภาพลักษณ์ประหยัดและฉลาดเลือก มีการสาธิตวิธีการใช้เครื่องประดับให้คุ้มค่า จะสามารถตอบสนองพฤติกรรมการบริโภคของลูกค้า ก็จะทำให้มีโอกาสขายสินค้าได้เพิ่มขึ้น
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี