นายเฉลิมศักดิ์ กาญจนวรินทร์ นายกสมาคมผู้รับจัดการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ กล่าวภายในงาน TILOG - LOGISTIX 2024 ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 15-17 สิงหาคม 2567 ว่า ขณะนี้ปัญหารถขนส่งศูนย์เหรียญ จากจีนที่กำลังจะหนักขึ้นและเกิดผลกระทบต่อภาคธุรกิจด้านขนส่งสินค้าระหว่างประเทศของไทยและทางสมาคมฯได้รับการร้องเรียนจากสมาชิกของสมาคมหลายรายพบพฤติกรรมด้านขนส่งสินค้าโดยเฉพาะมีการขนส่งในลักษณะขนส่งศูนย์เหรียญจากจีนเข้าในไทยมากขึ้น โดยอาศัยจังหวะใช้คนไทยถือหุ้น 51% และต่างชาติถือหุ้นในกิจการขนส่งดังกล่าว 49% แต่การบริหารงานกลับเป็นคนจีนทั้งหมดโดยนำเข้าสินค้าจากจีนมาไทยใช้รถขนส่งจากจีนเข้าถึงโกดังในเมืองไทยไม่ต้องผ่านรถขนส่งของคนไทยแต่อย่างใด ทำให้กลุ่มโลจิสติกส์ไทยเริ่มได้รับผลกระทบต่อการกระทำในลักษณะดังกล่าวเพิ่มมากขึ้นและหากไม่ป้องกันปัญหาเหล่านี้เชื่อว่าอีกไม่นานไทยจะเป็นฐานขนส่งสินค้าทางผ่านของจีนโดยไร้มาตรการป้องกัน
อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้สมาชิกสมาคมผู้รับจัดการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศเห็นว่าหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องจะต้องเข้ามาแก้ไขปัญหาและหามาตรการป้องกันเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะหากผู้ขนส่งรายใดไม่รับใบอนุญาตไม่ควรเป็นผู้ส่งสินค้าเข้ามาหรือจะต้องทำตามกฎหมายการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวอย่างจริงจังเพื่อสกัดผู้ที่จะเข้ามาต้องดำเนินการเป็นไปตามกฎหมายของไทย ขณะเดียวกันในส่วนของภาคเอกชนจะเน้นให้สมาชิกผู้รับจัดการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศกว่า 250 บริษัท จะต้องช่วยกันดูแลเป็นหูเป็นตาให้กับภาครัฐ โดยหากบริษัทข้ามชาติจะมีการขนส่งสินค้าเข้ามาในไทยจะต้องใช้บริการโลจิสติกส์ไทยเท่านั้น ซึ่งปัญหาขนส่งศูนย์เหรียญจากจีนที่เริ่มแพร่ระบาดขึ้นในไทยขณะนี้ยังไม่สามารถประเมินความเสียหายออกมาเป็นมูลค่าได้แต่หากหน่วยงานภาครัฐปล่อยให้เรื่องนี้เกิดขึ้นนานและไม่ใช้มาตรการทางกฎหมายออกมาคุ้มครองในอนาคตความเสียหายจะเพิ่มมากขึ้นอย่างแน่นอน
ด้านนางวรรณภรณ์ เกตุทัต รองปลัดกระทรวงพาณิชย์ ประธานในพิธีเปิดงาน กล่าวว่าโลจิสติกส์เป็นหัวใจสำคัญของการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศและยังเป็น 1 ใน 7 อุตสาหกรรมเป้าหมายตามวิสัยทัศน์ IGNITE THAILAND ของรัฐบาลในการพัฒนาประเทศให้เป็นศูนย์กลางเมืองแห่งอุตสาหกรรมระดับโลก รัฐบาลจึงให้ความสำคัญกับการส่งเสริมการพัฒนาระบบโลจิสติกส์ และโครงสร้างพื้นฐานมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางด้านโลจิสติกส์ของภูมิภาคอาเซียน
“การบริหารจัดการโลจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพและจะช่วยเพิ่มโอกาสให้กับสินค้าและบริการของไทยให้สามารถเข้าถึงตลาดต่างประเทศได้ง่ายขึ้นผู้ให้บริการโลจิสติกส์ต้องปรับวิธีการทำงานให้สอดรับกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วในโลกยุคปัจจุบัน เพื่อให้สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าและช่วยแก้ปัญหาให้กับลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ การเตรียมความพร้อมผู้ประกอบการโลจิสติกส์ให้สามารถรับมือกับความท้าทาย และแสวงหาความร่วมมือกับผู้ให้บริการโลจิสติกส์ต่างประเทศ เป็นการสร้างแต้มต่อและความเชื่อมโยงทางระบบโลจิสติกส์อย่างต่อเนื่อง”
ขณะที่ นางสาวณัฐิยา สุจินดา รองอธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่างาน “TILOG-LOGISTIX 2024” นี้ จะเป็นอีกช่องทางหนึ่งในการเผยแพร่ข้อมูลองค์ความรู้ และสร้างโอกาสทางธุรกิจให้กับผู้ประกอบการโลจิสติกส์ไทยในการขยายเครือข่ายทางธุรกิจ ให้พร้อมรับกับการแข่งขัน และการเปลี่ยนแปลงของกฎระเบียบและมาตรการทางการค้า อีกทั้งยังจะช่วยผลักดันให้ประเทศไทยได้ยกระดับคุณภาพมาตรฐานของการบริการเพื่อคงความเป็นศูนย์กลางของธุรกิจโลจิสติกส์ในภูมิภาคต่อไป ดังนั้นการจัดงานในปีนี้โดยมีผู้ประกอบการกว่า 160 บริษัท นำเสนอนวัตกรรมและเทคโนโลยีของสินค้าและบริการด้านโลจิสติกส์กว่า 415 แบรนด์ จาก 25 ประเทศ ตั้งเป้าผู้เข้าชมงานในปีนี้จะมากกว่า 9,000 ราย และคาดว่าจะมีมูลค่าการซื้อขายในงานไม่น้อยกว่า 2,000 ล้านบาท
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี