นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า สนค. ได้จัดการประชุมครั้งสำคัญรวมพลังกว่า 50 หน่วยงาน ทั้งภาครัฐภาคเอกชน และสถาบันการเงิน เพื่อร่วมกันให้ข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะต่อแนวทางการพัฒนาและขับเคลื่อนการค้าของธุรกิจ SMEs ไทย ซึ่งเป็น 1 ใน 5 ประเด็นสำคัญที่อยู่ภายใต้แผนปฏิบัติการด้านการค้าแห่งชาติ พ.ศ. 2568-2570
การประชุมรับฟังความคิดเห็นในครั้งนี้เป็นการดำเนินการต่อเนื่องจากการลงพื้นที่รับฟังความคิดเห็นในส่วนภูมิภาคครบทั้ง 5 ภาค ได้แก่ ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ เมื่อช่วงเดือนกรกฎาคมถึงต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา
โดยเริ่มต้นการรับฟังความคิดเห็นในประเด็นการพัฒนาการค้าของธุรกิจ SMEs เนื่องจากธุรกิจ SMEs ถือเป็นแกนหลักสำคัญของการพัฒนาเศรษฐกิจการค้า คิดเป็นสัดส่วนกว่า 99% ของจำนวนธุรกิจภายในประเทศทั้งหมด และเป็นแหล่งการจ้างงานกว่า 70% ของจำนวนแรงงานทั้งประเทศอย่างไรก็ดี ธุรกิจ SMEs ยังคงมีประเด็นความท้าทายที่ภาครัฐและภาคเอกชนต้องร่วมมือกันแก้ไขปัญหา และร่วมกันผลักดันการพัฒนาและส่งเสริมให้ธุรกิจ SMEs ดำเนินธุรกิจได้เท่าทันกับสถานการณ์การค้าโลกในปัจจุบัน
แผนการพัฒนาการค้าของธุรกิจ SMEs มีเป้าหมายที่จะผลักดันให้ธุรกิจ SMEs สามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้แก่ประเทศได้เป็นสัดส่วน 40% ต่อ ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศหรือ GDP และมีมูลค่าส่งออกอยู่ที่ 20% ต่อมูลค่าส่งออกรวมภายในปี 2570 ตามที่แผนการพัฒนาของประเทศไทยได้กำหนดไว้
โดยที่ประชุมได้เห็นชอบ 4 ประเด็นหลักสู่การพลิกโฉม SMEs ไทย ประกอบด้วย (1) การส่งเสริมการค้าภายในประเทศ โดยการพัฒนาสินค้าและบริการของธุรกิจ SMEs ให้มีมาตรฐานและเป็นที่ยอมรับของผู้บริโภค การส่งเสริมการค้าผ่านเส้นทางท่องเที่ยวพื้นที่เชิงพาณิชย์ต่างๆ ตลอดจนการส่งเสริมการใช้ระบบการชำระเงินดิจิทัลทั้งระบบภายในประเทศและระหว่างประเทศให้เกิดประโยชน์ต่อธุรกิจ
(2) การส่งเสริมโอกาสการส่งออกของ SMEs โดยการพัฒนามาตรฐานสินค้าและบริการให้อยู่ในระดับสากล การสนับสนุนเงินทุนในการพัฒนานวัตกรรมของสินค้าและบริการการผลักดันการขึ้นจำหน่ายสินค้าและบริการบนช่องทางออนไลน์ การส่งเสริมให้ใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีภายใต้ FTA การเชื่อมโยงข้อมูลหรือความรู้ที่สำคัญมารวมไว้ในที่เดียวให้เสมือนเป็นห้องสมุดด้านการส่งออกตลอดจนการพัฒนาบทบาทของหน่วยงานภาครัฐในส่วนภูมิภาคให้มีภารกิจด้านการส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศมากขึ้น
(3) การพัฒนาและส่งเสริมทักษะของผู้ประกอบการ SMEs ครอบคลุมทั้งทักษะการดำเนินธุรกิจความสามารถในการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัล การปรับตัวต่อสถานการณ์การค้าโลกในปัจจุบันโดยเฉพาะการปรับตัวต่อมาตรการทางการค้าที่มิใช่ภาษี
และ (4) การพัฒนาระบบนิเวศที่เอื้ออำนวยต่อการดำเนินธุรกิจการค้าของธุรกิจ SMEs โดยพัฒนาระบบงานบริการของหน่วยงานภาครัฐให้เป็นระบบดิจิทัลเชื่อมโยงกัน โดยมุ่งประโยชน์ไปยังการอำนวยความสะดวกและลดต้นทุนการดำเนินงานให้แก่ธุรกิจ SMEs
นายพูนพงษ์กล่าวว่า ขอขอบคุณผู้แทนหน่วยงานต่างๆ ที่ให้ความสำคัญและมาร่วมให้ความคิดเห็นต่อแผนปฏิบัติการด้านการค้าแห่งชาติทั้งนี้ ความคิดเห็นและข้อเสนอแนะที่ได้รับจะนำไปพัฒนาและปรับปรุงแผนดังกล่าวให้มีความสมบูรณ์มากขึ้น หลังจากนี้ สนค. จะนำเสนอแผนปฏิบัติการต่อสาธารณชน หรือจัดงาน Public hearing ในช่วงกลางเดือนกันยายน และจะเสนอแผนดังกล่าวต่อสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือสภาพัฒน์ เพื่อพิจารณากลั่นกรอง ก่อนเสนอต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อขอความเห็นชอบและประกาศใช้อย่างเป็นทางการต่อไป
“การประชุมครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการวางรากฐานเพื่อพลิกโฉมธุรกิจ SMEs ไทย ให้พร้อมรับมือกับความท้าทายในยุคการค้าโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของทุกภาคส่วนในการร่วมกันขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยสู่อนาคตที่ยั่งยืน”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี